ตอนที่ 3 สหายตัวน้อย

1576 คำ
ตอนที่ 3 สหายตัวน้อย ฮูหยินน้อยคนใหม่ คารวะน้ำชาให้แก่แม่สามีแล้ว จากนั้นทั้งหมดจึงรับมื้อเช้าด้วยกัน ร่วมด้วยเจ้าเด็กน้อยเสี่ยวเปา ตักโจ๊กไก่ตุ๋นเข้าปากเคี้ยวตุ้ย ๆ ด้วยความเอร็ดอร่อย มุมปากเล็กคราบของโจ๊กเล็กน้อย ถังเหม่ยหลินใส่ใจเด็กคนนี้อยู่แล้ว จึงนำผ้าเช็ดหน้าซับคราบเปื้อนด้วยความอ่อนโยนด้วยความเบามือ การกระทำของนางล้วนตกอยู่ในสายตาของชาย ซึ่งมีฐานะเป็นสามี แต่มิได้ร่วมเตียงกับนางเท่านั้น เรื่องนี้ทราบถึงหูฮูหยินโม่อวี้หราน มารดาของโจวหย่งเล่อ นางตำหนิบุตรชายอย่างซึ่ง ๆ หน้า ไม่ได้หวาดหวั่นว่าบุตรชายจะพอใจหรือไม่ เพราะการกระทำนี้ช่างน่าละอายนัก ทำให้ถังเหมยหลินได้รับความอับอาย ข่าวลือเรื่องคุณชายใหญ่ หรือท่านราชครูสมรสกับคุณหนูถัง ผู้คนต่างก็แซ่ซ้องเอ่ยเยินยอว่า ขบวนรับเจ้าสาวนั้นมีสินสมรสมอบให้แก่เจ้าสาวมากมาย ขบวนยาวเหยียดสุดลูกหูลูกตา อีกทั้งท่านราชครูยังเดินทางไปรับเจ้าสาวถึงจวนด้วยตนเอง แต่ใครเล่าจะทราบความเท็จจริงว่า แท้ที่จริงแล้ว เขามิเคยสนใจไยดีกับฮูหยินของตนก็ว่าได้ แม้ว่ายามนี้มีข่าวลือหนาหูว่าเขามิได้เปิดผ้าคลุมหน้าเจ้าสาว มิได้ร่วมเตียงนอนกับภรรยาในคือเข้าหอ ชายหนุ่มยังคงเย็นชา พร้อมกับมิสนใจว่าจะทำให้นางเสียหายหรือไม่ โม่อวี้หราน หญิงชราผู้นี้เป็นฮูหยินใหญ่ เป็นมารดาของท่านราชครู และเป็นมารดาของท่านองครักษ์วังหลวง ซึ่งเป็นแฝดน้องของบุตรชายคนโต ดังนั้นเสี่ยวเปามักถูกเลี้ยงดูด้วยฮูหยินผู้เฒ่า หรือท่านย่านั่นเอง ยามที่ท่านย่าไปเยี่ยมเยือนจวนตระกูลถัง ก็มักหอบหิ้วหลานชายสุดรักผู้นี้ไปด้วยเสมอ จึงสนิทสนมชิดเชื้อกับถังเหมยหลินเป็นอย่างดี อีกทั้งสาวงามผู้นี้ก็เป็นคนเรียบง่าย สบาย ๆ ไม่ใคร่เย่อหยิ่งเหมือนคุณหนูผู้อื่น ชื่นชอบการเข้าครัวทำอาหาร ชื่นชอบในการเรียนเขียนอ่าน มักอาสาออกไปช่วยสอนหนังสือยังสถานศึกษานอกเมืองหลวงหลายครั้งหลายครา เรื่องนี้มิใคร่มีผู้ใดทราบนัก เพราะทุกคราที่นางเดินทางไป มักแต่งกายเป็นบุรุษรูปงามผู้หนึ่ง ย้อนกลับไปห้าปีก่อน นางได้ร่ำเรียนกับท่านอาจารย์ผู้หนึ่ง ท่านอาจารย์ผู้นี้รักใคร่เอ็นดูศิษย์ตัวน้อย ราวกับสายเลือดของตน พร่ำสอนอย่างเคร่งครัด ถ่ายทอดวิชาให้นางเอาไว้ใช้ติดตัว รวมถึงการเรียนวรยุทธ์ ฝึกฝนร่างกายให้แข็งแกร่ง มิได้อ่อนแอ อ่อนปวกเปียกราวกับกิ่งหลิวต้องลม จึงไม่แปลกนักที่คู่หมั้นอย่างโจวหย่งเล่อ ที่ไม่เคยสนใจคู่หมั้นคนงาม จะทราบว่าภายใต้ใบหน้าอันสะสวยนี้ซ่อนอันใดเอาไว้บ้าง นางยังมีอีกมากมายที่ไม่เคยเปิดเผย มิเคยอวดอ้างหรือยกตนข่มผู้ใด มักอ่อนน้อมกับผู้อื่นเสมอ กระทั่งผู้เป็นสามี เอ่ยปากอยากแต่งหวังเพ่ยอิงเข้ามา แม้ในใจลึก ๆ ของถังเหมยหลินจะชอกช้ำใจเพียงใด แม้จะเจ็บปวดมากเพียงใด ที่ได้รับความโดดเดี่ยวอ้างว้าง นางก็มิเคยคิดต่อว่าหรือตำหนิสักครึ่งคำ ซ้ำยังเอ่ยกล่าวว่า นางล้วนยินดี ขณะที่ทุกคนกำลังรับมื้อเช้าอยู่นั้น พ่อบ้านเฉิงก็เดินเข้ามาด้วยท่าทางสงบเสงี่ยม เขาหยุดยืนข้าง ๆ ท่านราชครู ที่กำลังตักโจ๊กเข้าปากแล้วสัมผัสถึงกลิ่นหอมกับความนุ่มละมุนของโจ๊กถ้วยนี้ “มีอันใด ไยต้องกระซิบกระซาบกันด้วย” โม่อวี้หรานเอ่ยเสียงดุดันเล็กน้อย เหลือบมองพ่อบ้านตั้งแต่ที่เดินเข้ามา ย่อมต้องมีบางอย่างไม่ดีแน่ พร้อมกับมองไปยังลูกสะใภ้ซึ่งกำลังดูแลเสี่ยวเปาอย่างอ่อนโยน “ไม่มีอันใดขอรับท่านแม่” ชายหนุ่มตอบปัดไป ด้วยเพราะมิใช่เรื่องร้ายแรงอันใดนัก ก็แค่ข่าวลือเพียงเล็กน้อยเท่านั้น มิเห็นต้องสนใจอันใดมาก ในเมื่อถังเหมยหลินไม่ตัดพ้อต่อว่า ไยเขาต้องแสดงความเป็นห่วงเป็นใยนางกันเล่า “คงจะเป็นข่าวลือที่จวนหวังปล่อยออกมากระมัง รู้หรือไม่ว่าทำให้ชื่อเสียงนางเสียหาย” โม่อวี้หรานเดือดดาล จึงขึ้นเสียงเล็กน้อย เสี่ยวเปาสะดุ้งเฮือกเห็นท่านย่าโกรธท่านลุง เขาจึงวางตะเกียบแล้วนั่งนิ่ง ๆ “ท่านแม่อย่าได้กล่าวโทษท่านพี่เลยเจ้าค่ะ ความรักเป็นสิ่งสวยงาม ล้วนห้ามกันไม่ได้ คุณหนูหวังย่อมเสียใจเป็นเรื่องธรรมดา ลูกคิดว่าสมควรให้ท่านพี่แต่งนางเข้ามาเพื่อรักษาชื่อเสียงของนางเช่นเดียวกัน” นางมิได้ใจดีที่จะแบ่งปันสามีให้สตรีอื่นครอบครอง ในเมื่อชายผู้นี้มีใจรักมั่นคงในคนรัก นางจึงเลือกที่จะยินดีและก้มหน้ารับความขมขื่นนี้เอาไว้แต่เพียงผู้เดียว “เจ้าดูสิ แต่งกับนางไม่นาน จิตใจงดงามถึงเพียงนี้ เหตุใดเจ้าถึง...ถึงได้” โม่อวี้หรานยังกล่าวไม่จบ โจวหย่งเล่อชิงพูดแทรกขึ้นขัดจังหวะ เพราะไม่อยากหูชา “ท่านแม่อย่าโกรธไปเลย ก็นางแสนดีอย่างนี้ ข้าถึงไม่ปฏิเสธที่จะแต่งกับนางอย่างไร” เขาประชดประชัน พร้อมกับลุกขึ้นแล้วเดินออกไปทันที พ่อบ้านเฉิงผู้มาแจ้งข่าว ถูกสายตาดุดันอำมหิตจ้องมองมา เหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นบนหน้าผาก ร่องรอยเหี่ยวย่นชื้นขึ้นกะทันหัน พร้อมกับจะเดินตามคุณชายใหญ่ออกไป ทว่า โม่อวี้หรานกับเรียกเอาไว้เสียก่อน “พ่อบ้านเฉิง รู้ใช่หรือไม่ว่าควรทำสิ่งใด” “ขอรับ ข้าน้อยทราบแล้ว” พ่อบ้านรับคำ รู้ดีว่าไม่อาจหยุดข่าวลือด้านนอกได้ แต่ต้องตักเตือนเรื่องการนินทาเจ้านาย อีกทั้งฮูหยินน้อยยังเป็นที่เอ็นดูของฮูหยินผู้เฒ่าอีกด้วย “ท่านแม่รับโจ๊กเพิ่มหรือไม่เจ้าคะ” บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียด ถังเหมยหลินไม่ต้องการเป็นต้นเหตุทำให้แม่ลูกมีปากเสียงกัน จึงเลือกที่จะเบี่ยงเบนความสนใจ เห็นมารดาร้อนใจออกหน้าแทนเยี่ยงนี้ หัวใจดวงน้อย ๆ ของนางล้วนซาบซึ้งใจยิ่งนัก โชคดีที่ในจวนนี้ยังมีท่านแม่ที่เมตตานางอยู่บ้าง มีเพื่อนพูดคุยให้คลายเหงาเห็นจะเป็นเสี่ยวเปาตัวน้อยผู้นี้ “ทำให้ข้าหงุดหงิดนัก เจ้าลูกคนนี้ช่างไม่ได้ความ” โม่อวี้หรานพ่นลมออกจากจมูกด้วยความหงุดหงิด หากยังเป็นเด็กเหมือนเมื่อก่อน ป่านนี้คงถูกบิดหูไปนานแล้ว ไม่ปล่อยให้มาโต้เถียงกับนางอย่างไร้เหตุผลเยี่ยงนี้ “ท่านย่าอย่าโกรธให้มาก เดี๋ยวเลือดลมปั่นป่วนจะปวดหัว เจ็บตาเอาได้นะขอรับ” หลายชายผู้แสนดีสบตาท่านย่า ตักเตือนด้วยความหวังดี เพราะเห็นหงุดหงิดทีไร เรียกหาแต่ยาดมทุกที เห็นโกรธทีไร บอกว่าจะเป็นลมทุกครา เขาน่ะชินแล้ว แต่ท่านป้าเนี่ยนะสิ จะคุ้นชินหรือไม่ กลัวว่าท่านป้าผู้แสนน่ารัก ซ้ำยังจิตใจงดงามจะเบื่อหน่ายไปเสียก่อน แล้วครานี้ เขาอดกินของอร่อยแน่ ๆ “เสี่ยวเปานับวันเจ้านี่กำเริบ ถอดแบบท่านลุงของเจ้าไม่มีผิด” ท่านย่าตำหนิพร้อมกับค้อนตาเขียวเข้าให้ เจ้าหลานชายผู้นี้ช่างมีฝีปากแสนเผ็ดร้อนเหมือนกับลูกชายคนโตของนางไม่ผิดเพี้ยน ยิ่งทำให้เส้นเลือดในสมองเต้นตุบ ๆ ทีเดียว ว่าจะไม่โกรธก็โกรธที่หลานชายประชดประชันนี่แหละ “ท่านย่า ข้าเหมือนกับท่านลุงที่ไหนกัน ข้ามองออกว่าท่านป้าสะใภ้ของข้าจิตใจงดงาม ไม่ถือสากับเรื่องหยุมหยิมใช่หรือไม่ขอรับ” หลานชายตัวแสบไม่ยอมรับความจริง รีบช่วงชิงพูดขึ้นโต้ตอบท่านย่า อย่าได้เปรียบเทียบกับท่านลุงผู้เย็นชากับเขา เพราะเขาเป็นคนใส่ใจท่านป้าผู้นี้ ไม่เหมือนกับท่านลุงสักนิด เขาก็น้อยใจเป็นเหมือนกัน ทำอะไรก็มักถูกท่านย่าจับผิดแล้วยังบอกว่าเหมือนท่านลุงอีก เด็กก็มีหัวใจเหมือนกันนะ ทว่าเขายังยกยอท่านป้าอีกหนึ่งประโยค ประจบประแจงหวังว่า จะได้กินขนมฝีมือของท่านป้าที่สุดแสนอร่อยเหมือนครานั้นที่นางทำแล้วมอบให้เขามา รสชาติมันยังตราตรึงมิจางหาย อยากกินแทบขาดใจก็ว่าได้ “พูดเช่นนี้แล้ว ข้าก็คงไหลตามเจ้าใช่หรือไม่” ถังเหมยหลินหัวเราะไม่ได้ ร้องไห้ไม่ออก เจ้าตัวแสบนี้ช่างเก่งกาจเสียจริง “ท่านป้ามีข้าแล้วรับรองว่าทุกอย่างล้วนราบรื่นดีขอรับ” เสี่ยวเปายกมือขึ้นตีแผงอกด้วยท่าทางมั่นอกมั่นใจ แววตาพร่างพราวยิ่งนัก โอ้อวดตนเองอีกต่างหาก “ช่างโอ้อวดเสียเหลือเกิน เอาเป็นว่าวันนี้ข้าจะลงมือทำขนมตอบแทนเจ้าดีหรือไม่” ในเมื่อเจ้าหัวผักกาดนี้มอบน้ำใจให้แก่นางแล้ว ถังเหมยหลินมีหรือจะไม่ตอบน้ำใจให้เจ้าตัวเล็กผู้แสนน่ารักนี้ “ในที่สุด สิ่งที่หลานอยากได้ก็มาเสียที รู้เยี่ยงนี้พูดตั้งนานแล้ว”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม