วันต่อมา...วันนี้ฉันขอไปบริษัทกับคุณป๋าด้วย ซึ่งคุณป๋าก็ไม่ห้ามอะไร
อ้อ ลืมบอกไปว่าตอนนี้ฉันเรียนจบ ม.6 แล้ว กำลังจะไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพ ตอนนี้ก็รอทางมหาวิทยาลัยเปิดเทอมอยู่ ไปกับเพื่อนอีกหนึ่งคน เป็นเพื่อนสนิทของฉันเอง ชื่อมาย
มาถึงบริษัทคุณป๋าก็ให้ฉันไปนั่งรอที่ห้องทำงาน ส่วนตัวคุณป๋าต้องเข้าประชุม จริง ๆ ฉันก็เคยมาที่บริษัทบ้างแล้วเหมือนกัน แต่ไม่บ่อยเท่าไหร่ นาน ๆ ครั้ง
ในระหว่างที่รอคุณป๋าประชุมฉันก็ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์โดยการปัดกวาดห้องทำงานคุณป๋าให้สะอาด เพราะตอนเข้ามาฝุ่นค่อนข้างเยอะ ไม่รู้ว่ามีแม่บ้านเข้ามาทำความสะอาดบ้างหรือเปล่า หรืออาจจะไม่มี
ก็คงเหมือนกับห้องทำงานและห้องนอนของคุณป๋าที่บ้าน คุณป๋าไม่อนุญาตให้ใครเข้าไปทำความสะอาดยกเว้นฉันกับพี่ฝน พอพี่ฝนไม่อยู่แล้วก็เป็นฉันที่จะต้องทำความสะอาดห้องทำงานกับห้องนอนคุณป๋าอาทิตย์ละสามครั้ง
แกร็ก! ประตูห้องถูกเปิดเข้ามาในขณะที่ฉันกำลังทำความสะอาดอยู่
“อ่าวฝุ่น มาด้วยหรอวันนี้”
“อาเพทาย สวัสดีค่ะ ^_^”
ฉันรีบยกมือสวัสดีอาเพทาย ซึ่งเป็นน้องชายแท้ ๆ ของคุณป๋า
“นี่ อาเพทายไม่ต้องเข้าประชุมกับคุณป๋าหรอคะ” ฉันถามอย่างแปลกใจ อาเพทายเป็นถึงรองผู้บริหารเลยนะ ทำไมถึงยังไม่เข้าไปประชุมอีก
“อาไปพบลูกค้ามา ไม่ต้องเข้าประชุมก็ได้ เรื่องที่ประชุมวันนี้ไอ้คินมันจัดการได้ สบายอยู่แล้ว” อาเพทายตอบอย่างมั่นใจ มันก็จริงคุณป๋าเป็นคนเก่ง
“อยากกินพายช็อกโกแลตมั้ย มีคาเฟ่ขนมหวานมาเปิดใหม่ใกล้ ๆ ตึกบริษัทนี่เอง”
“จริงหรอคะ อยากกินค่ะ ^_^” พอได้ยินชื่อขนมที่ชอบกินที่สุดแล้วฉันก็ตาหวานเยิ้มขึ้นมาทันที คุณป๋าไม่เคยพาฉันไปกินอะไรแบบนี้หรอก ส่วนมากอาเพทายจะเป็นคนพาไปกิน ครั้นจะให้ทำกินเองก็คงไม่รอด เรื่องของหวานฉันทำไม่เป็นเลย
“อยากไปกินต้องทำยังไงก่อน หื้ม” อาเพทายทำแก้มป่อง ๆ แล้วเคาะนิ้วบนแก้มเบา ๆ สามสี่ที ฉันเดินไปหอมแก้มอาเพทายเพื่อเป็นข้อแรกเปลี่ยน
มันเป็นปกติอยู่แล้วที่ทำแบบนี้ ฉันกับอาเพทายค่อนข้างจะสนิทกัน สนิทมากกว่าคุณป๋าที่อยู่บ้านหลังเดียวกับฉันซะอีก
ในจังหวะที่ฉันเขย่งเท้าขึ้น ยื่นใบหน้าขึ้นไปหอมแก้มอาเพทาย บังเอิญว่าคุณป๋าเปิดประตูเข้ามาเห็นพอดี แถมยังมองมาทางฉันด้วยสายตาที่ไม่ชอบใจสักเท่าไหร่อีกด้วย
“ปีนี้อายุเท่าไหร่แล้ว” คุณป๋าเดินไปนั่งบนโต๊ะทำงานแล้วถามฉัน แค่อายุฉันคุณป๋ายังไม่เคยรู้เลยงั้นหรอ
“สิบเก้าค่ะ”
“แล้วรู้มั้ย การหอมแก้มผู้ชายแบบนั้นมันไม่สมควร” คุณป๋าพูดแล้วทำหน้าเคร่งขรึม ดูเหมือนจะไม่พอใจมากเลยทีเดียวที่ฉันหอมแก้มอาเพทายแบบนั้น แต่มันก็ปกตินี่นา
“เฮ้ย ไอ้คินมึงเป็นอะไรวะ ทุกทีมึงไม่คิดจะบ่น อีกอย่างฝุ่นก็เป็นหลานกู”
“ตอนนี้ ไม่เหมือนเมื่อก่อน” จู่ ๆ คุณป๋าก็ตวัดสายตามองมาที่ใบหน้าของฉัน มันทำให้ฉันแทบจะทำตัวไม่ถูก ใจเต้นรัวเพราะกลัว
ไม่รู้ว่าทำไม ฉันทำอะไรมันก็ดูจะผิดไปหมดทุกอย่างเลย
“เออๆ งั้นเดี๋ยวกูพาฝุ่นไปหาอะไรกินก่อนนะ เดี๋ยวกูไปส่งที่บ้านเอง”
“อื้ม” คุณป๋าพยักหน้าตอบก่อนจะหยิบเอกสารบนโต๊ะขึ้นมาเปิดดู
“คุณป๋าอนุญาตแล้ว งั้นเราไปกันเลยมั้ยคะอาเพทาย ^_^”
“เห็นแก่กินจริงๆนะเราเนี่ย” อาเพทายพูดแล้วยกมือหนาขึ้นมายีผมฉันเบา ๆ
“อื้อ ผมฝุ่นยุ่งหมดแล้วนะคะ ^_^”
“จะไปก็ไป ห้ามกลับเกิน 1ทุ่ม” คุณป๋าบอก
“เออ ๆ” อาเพทายพยักหน้าตอบคุณป๋า จากนั้นก็เอื้อมมาจับมือฉัน “ไปกันเถอะ ^_^”
อาเพทายพาฉันไปกินพายช็อกโกแลต เสร็จแล้วก็พาไปเดินห้าง ซื้อเสื้อผ้าสวย ๆ ให้ฉันด้วย ใจดีที่สุดเลย
แต่พอถึงเวลากลับมาบ้านฉันเปิดโทรศัพท์ดูเวลา ตอนนี้มันทุ่มครึ่งแล้ว จะเจอคุณป๋าบ่นมั้ยนะ แต่ก็คงไม่หรอกมั้ง ไปกับอาหนิไม่ได้ไปกับผู้ชายที่ไหนสักหน่อย
ฉันเดินเข้าไปในบ้าน ส่วนอาเพทายมาส่งแล้วก็รีบกลับไปไม่อยู่ทานข้าว เห็นบอกว่ามีนัด
พอเดินผ่านห้องรับแขกเห็นคุณป๋านั่งอยู่ ฉันเห็นนั่นแหละแต่ตั้งใจเดินผ่านไปและแกล้งทำเป็นไม่เห็น
“ครึ่งชั่วโมง” เสียงของคุณป๋าดังขึ้น ทำให้ฉันต้องหยุดชะงัก แล้วเดินเข้าไปหาคุณป๋าในห้องรับแขกอย่างจำใจ
“ค่ะ” ฉันก้มหน้าตอบพร้อมกับเม้มปากแน่น
“เป็นผู้หญิง หัดทำตัวให้มันดี ๆ กว่านี้หน่อย” จู่ ๆ ฉันก็โดนว่า ทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิด ถ้าเป็นเรื่องที่กลับช้าไปครึ่งชั่วโมง มันก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องใหญ่อะไร เพราะฉันไปกับอา ไม่ใช่ผู้ชายที่ไหนเลย
“ฝุ่นผิดอะไรคะ ทำไมคุณป๋าถึงว่าฝุ่น”
“ยังจะถาม ถึงไอ้เพทายมันจะเป็นอาเธอ แต่เธอก็รู้ว่าเธอกับมันไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน !!”
“ค่ะ ฝุ่นรู้ แต่ฝุ่นก็ไม่ได้คิดหรือทำอะไรเกินเลย ฝุ่นรักและเคารพอาเพทายเหมือนอาแท้ ๆ”
“เธอโตแล้ว ไม่ใช่เด็กเหมือนเมื่อก่อน ที่จะได้ออกไปไหนมาไหนกับมันสองต่อสองได้ตามลำพัง”
“ตะ แต่คุณป๋าเป็นคนอนุญาตให้ฝุ่นไปกับอาเพทายเองนะคะ”
“ดูท่าคงอยากจะไปอยู่กับมันมากกว่าฉันงั้นสินะ”
“ปะ เปล่านะคะ ฝะ ฝุ่นไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น”