CHAPTER 3

2359 คำ
“สวัสดีครับควีน” เสียงชายหนุ่มทักทายขึ้นมา ก่อนที่ร่างของเขาจะเดินเข้ามาภายในห้องของเธอหลังจากที่เลขาพาเขาเข้ามา ไม่ต้องบอกให้มากความว่าเขาเป็นใคร เขาคือณคิน...คนที่เธอตั้งใจว่าจะร่วมธุรกิจด้วย แต่หลังจากที่พบเจอกล้องในห้องของตัวเอง เธอเองก็เริ่มที่จะเปลี่ยนความคิด ว่าอย่าเอาตัวไปเสี่ยงกับตระกูลคู่แข่งจะเป็นการดีที่สุด... “เชิญนั่ง” “ขอบคุณ...” จากรอยยิ้มสดใสของเขาเมื่อครู่พลันเปลี่ยนไปในทันใด เมื่อเขาเปลี่ยนสายตาและหันมาสบมองที่โซฟาตัวหรู “ไลอ้อน?” “ค่ะ ตอนนี้เขาเป็นคนของฉัน” เธอพูดออกมาอย่างสบาย ๆ ไม่ได้ใส่ใจอะไร ส่วนไลอ้อนเองก็มีสีหน้าเรียบเฉยไม่ต่าง มีเพียงแต่ณคินเท่านั้นที่สีหน้าดูไม่ค่อยพอใจเมื่อเห็นใครบางคนอยู่ในห้องนี้ “คุณไม่กลัวโดนทรยศเหมือนกับที่ผมโดนเหรอครับ?” ไลอ้อนที่ได้ยินดังนั้นถึงกับกำมือของตัวเองเอาไว้แน่นอย่างเก็บอารมณ์ทุกความรู้สึก แต่สีหน้าของเขายังเป็นปกติดังเดิม...จะมีก็แต่ควีนเองที่สังเกตเห็นว่าเขากำลังพยายามที่จะไม่วอกแวก และรักษามาดเอาไว้ทั้ง ๆ ที่ในใจของเขาอาจจะกำลังบอบช้ำมากก็เป็นได้ “เรามาคุยเรื่องธุรกิจกันดีกว่าค่ะ” เธอรีบบ่ายเบี่ยงเมื่อคนทั้งสองยังมีทีท่าว่าจะไม่ยอมละสายตาออกจากกันเสียที ส่วนหนึ่งเธอก็กลัวใจตัวเองเหมือนกันว่ามันอาจจะทนไม่ไหว ถ้าเกิดว่าเขาพูดจาลามปามเจ้าหมาของเธอมาก ๆ เข้าเจ้านายอย่างเธอก็ควรที่จะต้องทำอะไรสักอย่างบ้างแล้ว “ครับ” เขาตอบตกลงและนั่งลงยังเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม “พวกขี้ข้าออกไป เจ้านายเขาจะคุยกัน” และเขาก็ตะโกนออกมาเสียงดังลั่นให้ลูกน้องของเขาก้มหัวรับก่อนจะเดินออกไป ส่วนเจ้าชิบะของเธอเองก็เหมือนจะรู้ตัวเองดี เขาก้มหัวให้กับเธอเล็กน้อยและตั้งท่าที่จะเดินออกไป “คุณไม่มีสิทธิ์มาสั่งคนของฉัน” ควีนลั่นวาจาออกไปเสียงดังลั่นให้ไลอ้อนที่กำลังจะก้าวเดินถึงกับหยุดชะงักและหันหน้ามาสบมองเธออย่างตั้งคำคาม “อยู่นี่แหละ นั่งอยู่แถว ๆ นั้นแล้วกัน” เขาโค้งหัวรับให้เธอเป็นอันว่าเข้าใจ ส่วนณคินดูหน้าเสียไปทันทีเมื่อมองเห็นว่าเธอให้ความสำคัญกับอดีตคนของเขามากมายขนาดนั้น “ฉันได้อ่านรายละเอียดที่ทางฝั่งของคุณส่งมาแล้วนะคะ และฉันคิดว่าเปอร์เซ็นที่เราจะหารกันมันดูจะเอาเปรียบกับทางฉันมากเกินไปเสียหน่อย” เธอพูดออกมาพลางวางเอกสารลงที่ตรงหน้าของเขา เขามีสีหน้าเลิ่กลั่กขึ้นมาเมื่อเธอพูดออกไปแบบนั้น และยกเอกสารขึ้นมาอ่านเหมือนกับว่าเขาไม่ได้ทำการบ้านอะไรมาเลย “ควีนอยากจะขอส่วนแบ่งเป็นเท่าไรล่ะครับ ลองเสนอผมมาสิ” แต่เขายังพยายามรักษาหน้าเอาไว้ แต่ขอโทษทีที่เธอมองมันออก จริง ๆ แล้วในเอกสารฉบับนี้ที่ฝั่งของเขาส่งมาไม่มีเปอร์เซ็นอะไรอย่างที่เธอว่าหรอก และเขาคงจะหลงลืมไปแล้วว่าเราตกลงจะมาคุยกันก่อน ส่วนเรื่องส่วนแบ่งเราค่อยว่ากันอีกที แต่ให้ส่งเอกสารคร่าว ๆ มาเป็นแนวทางเท่านั้น “คุณทำเหมือนว่าในสัญญาฉบับนี้มีเปอร์เซ็นส่วนแบ่งเขียนอยู่” เธอหรี่ตาจับผิดและแน่นอนว่าเขาสะดุ้งอย่างหลงลืมตัว “นี่คุณไม่ได้เป็นคนร่างเอกสารฉบับนี้เหรอคะ?” “เอ่อ...” เป็นผู้ชายที่ไม่มีความเป็นผู้นำ ทั้งยังขี้ขลาดตาขาว และเธอยังเห็นความโง่เขลาเบาปัญญาแฝงอยู่ในตัวของเขาอีก น่าสงสารตระกูลพัคจริง ๆ “ถ้าอย่างนั้นเราคงไม่มีอะไรจะต้องคุยกันแล้วแหละค่ะ” เธอลุกขึ้นยืนจนเต็มความสูงเพื่อเตรียมที่จะส่งแขก นอกจากเขาจะไม่ทำการบ้านมาให้เธอทึ้งหัวเล่น ๆ แล้ว ยังมาเสียเวลาทำงานของเธออีก ไม่แน่ตอนนี้หุ้นของเธออาจจะกำลังพุ่งทะลุเพดานอยู่ก็เป็นได้ในระยะเวลาที่เธอเสียเวลามาคุยกับเขาแค่ไม่กี่นาทีนี้ คิดผิดจริง ๆ ที่ตัดสินใจจะร่วมลงทุนเพราะเห็นเป็นตระกูลใหญ่และมีอำนาจไม่น้อยไปกว่ากัน และเธอจำได้ว่าตอนที่ไลอ้อนยังอยู่กับเขา...ณคินไม่ได้ดูโง่เขลามากมายถึงเพียงนี้ “เดี๋ยวสิครับควีน คือผมต้องขออภัยจริง ๆ ช่วงนี้งานของผมค่อนข้างที่จะรัดตัว ผมก็เลย...” ก๊อก ๆ “เข้ามา...” เสียงหวานทรงอำนาจเอ่ยออกมาอย่างหาได้ใส่ใจชายที่กำลังจะพยายามแก้ตัวอยู่ การ์ดของเธอประมาณสี่-ห้าคนเดินเข้ามาในห้องกันอย่างพร้อมเพรียง และในมือของเขายังมีถุงอะไรบางอย่างอยู่ในมือให้เธอพลอยยกยิ้มขึ้นมาอีกด้วย “ผมตรวจสอบและเก็บกวาดกล้องพวกนี้ออกจากอาคารของเราหมดแล้วครับควีน ตอนนี้ที่บ้านกำลังให้การ์ดช่วยตามเช็คให้อีกทีว่ามีซ่อนตรงไหนหรือไม่ครับ” “ดี...” เธอตอบรับ และเขาพวกนั้นต่างก็เดินออกไปให้เธอต้องหันไปสบมองที่ณคินซึ่งกำลังยืนกลืนน้ำลายลงคออย่างประหม่าอยู่ หลังจากที่เธอเจอกล้องในห้องของตัวเองแล้ว ควีนก็ไม่รอช้า...เธอรีบติดต่อหาการ์ดให้ตรวจดูทุกซอกทุกมุมในบริษัททันทีว่ายังมีกล้องซ่อนอยู่ที่ตรงไหนอีกบ้าง และแน่นอนว่ามันก็มีมากอย่างที่ได้เห็น ซึ่งคนที่เป็นคนสั่งการและตั้งใจที่จะล้วงความลับของข้อมูลคงไม่พ้นชายตรงหน้าที่กำลังยืนสั่นเกร็งอยู่ “มีอะไรจะอธิบายไหมคะณคิน...” “ควีนครับคือมันไม่ใช่...” “กรุณาออกห่างจากตัวของควีน...” เสียงดุดันดังขึ้นมาจากอีกฝั่งหนึ่งของห้องในทันใดเมื่อชายหนุ่มตรงหน้าพยายามที่จะเข้ามาย่างกรายร่างกายของเธอ “มึงมันแค่ขี้ค่าทรยศที่กูเลี้ยงไม่เชื่อง มีสิทธิ์อะไรมาสั่งกู!” เขาตะโกนขึ้นมาเสียงดังลั่นราวกับว่าตัวเองเป็นผู้ถือไพ่เหนือกว่า “ถ้าจะมาเสียงดังโวยวายในที่ของฉัน กรุณาออกไปจากห้องด้วยค่ะ” “ควีนครับ แต่ผมอธิบายเรื่องกล้องได้นะครับ” “…” หลังจากนั้นเขาก็พยายามที่จะเข้ามาจับเนื้อต้องตัวของเธออีกครั้ง แต่คราวนี้ไลอ้อนไม่อยู่เฉยอีกต่อไป เขาเดินเข้ามาชิดใกล้ และดึงแขนของเธอให้ไปหลบอยู่ที่ด้านหลังของตัวเองทันทีอย่างรวดเร็วจนณคินไม่อาจจะเข้าใกล้เธอได้ “ฉันบอกว่าอย่าแตะต้องควีน...” ตึกตัก ตึกตัก อยู่ ๆ เธอก็รับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือนที่อกข้างซ้ายขึ้นมาโดยที่ตัวเองก็ไม่ทราบสาเหตุของมัน แผ่นหลังสูงโปร่งของเขาที่อยู่ตรงหน้ามันทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นหัวใจแปลก ๆ และเธอรู้สึกปลอดภัยขึ้นมาทันใดแม้เขาจะยังไม่ทันได้ทำอะไรแค่เพียงยืนเอาตัวเองบังไว้ให้เธอเท่านั้น “ไอไลอ้อน!” “นายครับ!” เป็นเพราะว่าเขาตะโกนเสียงดังลูกน้องของเขาจึงรีบกรู่เข้ามาทันทีพร้อมกับยกปืนขึ้นมาจ่อเอาไว้ที่ไลอ้อน ซึ่งเขายังยืนเอาตัวบังเธอไว้อยู่ไม่ห่าง “ฉันมีหน้าที่ดูแลคนของฉัน เหมือนกับที่คนของนายมีหน้าที่ดูแลนาย” เขายังพูดออกมาเสียงเรียบ ไม่ได้มีทีท่าหวาดหวั่นกับปืนที่จ่อมาทางเขาแต่อย่างใด แต่ตอนนี้อารมณ์ของณคินคงใกล้จะถึงขีดสุดแล้ว ดูได้จากสีหน้าของเขาที่กำลังแดงก่ำพร้อมที่จะระเบิดออกมา และเธอคิดว่าควรจะทำอะไรสักอย่าง ไม่อย่างนั้นเรื่องมันคงไม่จบลงง่าย ๆ แน่ “ชิบะ...” เขาหันมาสบมองเธอด้วยสีหน้าเรียบเฉย ไม่เหมือนกับเจ้าชิบะที่กวนประสาทเธอก่อนหน้านี้เลย “ฉันจัดการเอง” “อยู่กับกูเป็นถึงสิงโต อยู่กับควีนเป็นแค่ลูกหมาเองเหรอวะ ตลกสิ้นดี! ฮ่า ๆ” “ถ้าพล่ามจบแล้วก็ออกไป” “ควีนครับ!” ซงคังที่กลับมาได้ทันพอดีรีบเอาปืนจ่อเอาไว้ที่หัวของลูกน้องณคินทันใดเมื่อเห็นว่าสถานการณ์ตอนนี้มันดูย่ำแย่มากถึงขีดสุด “ควีน แต่ธุรกิจของเรา...” “ฉันขอประกาศเอาไว้ตรงนี้ว่าฉันจะไม่มีวันร่วมมือกับคนของตระกูลพัคเป็นอันขาด” “แต่ควีน...” “ได้ยินชัดแล้วก็ไสหัวออกไป แล้วอย่ากลับมาเหยียบที่นี่อีก” ควีนเดินกลับไปทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ตัวหรู ส่วนไลอ้อนยังคงเดินปิดทางไม่ให้ปืนจ่อมาที่ตัวของเจ้าหล่อนได้ “แล้วอย่าเอาปืนมาจ่อที่คนของฉันอีก เขาเป็นของฉัน...และฉันมีสิทธิ์ทำได้แค่เพียงคนเดียว!” เสียงประกาศทรงอำนาจดังขึ้นมาให้เธอแอบเห็นว่าณคินสะดุ้งนิดหน่อยก่อนที่เขาจะหันไปบอกให้ลูกน้องของตัวเองลดปืนลง ซึ่งลูกน้องของเขาก็ทำตามอย่างว่าง่าย และโค้งให้กับเธอราวกับเป็นการขอโทษที่กระทำเกินกว่าเหตุ “ไว้เราค่อยมาคุยกันอีกครั้งตอนควีนใจเย็นนะครับ วันนี้ขออภัยที่ทำให้ไม่พอใจ” เขาโค้งหัวให้กับเธออีกคน และกำลังมุ่งหน้าที่จะเดินออกไปจากห้อง “ซงคัง ฝากส่งแขกด้วย” “ครับควีน” ซงคังโค้งหัวรับ “เชิญทางนี้ครับ” เขาผายมือให้กับณคิน “กูไม่มีวันปล่อยคนทรยศหักหลังอย่างมึง จำใส่กะโหลกของมึงไว้ไอไลอ้อน!” ดวงตาจดจ้องมองคนพูดอีกครั้งผ่านกรอบแว่นสี่เหลี่ยมที่ตัวเองนั้นสวมใส่ ก่อนจะได้เห็นรอยยิ้มของเขาที่พลันเปลี่ยนไปราวกับเป็นปีศาจร้าย ซึ่งเธอยอมรับว่าไม่เคยเห็นมันมาก่อนตั้งแต่ที่รู้จักกับเขามาตลอดทั้งชีวิตของตัวเอง จริง ๆ แล้วณคินเป็นผู้ชายที่ดีมาก แม้เขาจะไม่ได้เก่งกาจอะไรมากมายแต่เขาเป็นคนที่แก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าได้ดี มีไหวพริบ และเป็นคนใช้คำพูดได้สุภาพน่าฟังอยู่เสมอ แต่ตอนนี้เขากลับไม่เหมือนคนที่เธอรู้จัก ราวกับว่าเขาไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไปแล้ว แล้วอะไรกันล่ะ...อะไรที่ทำให้เขาเปลี่ยนไปได้มากถึงเพียงนี้ “เจ้าลูกหมาของฉัน...” เธอหันกลับไปสบมองที่ใบหน้าของควีนเพราะเจ้าหล่อนเอ่ยเรียกกัน “ต่อแต่นี้ไปเธอเป็นของฉัน...อย่าริอาจคิดที่จะหักหลังและหันกลับไปหาคนพวกนั้นอีก” ควีนเอ่ยดักเอาไว้ เพราะเธอมองเห็นแววตาเศร้าหมองของเขาที่แฝงปนอยู่ข้างในนั้น แม้เธอจะไม่รู้ว่าณคินพูดอะไรกับเขาก่อนออกไปก็ตาม “ฉันจะเป็นลูกหมาของคุณแค่คนเดียวนับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ดังนั้นได้โปรดเชื่อใจฉัน...” “ดี...” ชายหนุ่มกำลังหัวเสียอย่างหนักและลงมือแตะรถของตัวเองในทันใดที่เรื่องราวในวันนี้มันล่มไม่เป็นท่า และดูเหมือนว่าควีนกำลังที่จะเมินเฉยต่อเขาเสียจนตัวเองก็หมดปัญญาที่จะได้ครอบครองควีน...รวมไปถึงเงินของเธอที่มีมากมายมหาศาล “โถ่เว้ย!” “ใจเย็นสิครับนาย...” เสียงของผู้มาใหม่ดังขึ้นมาให้เขาต้องหันกลับไปสบมอง ก่อนที่เขาจะปรี่ตัวเข้าไปและตบไปที่หน้าของชายคนนั้นในทันทีจนเลือดกลบปาก “กูบอกให้มึงขึ้นไปกับกู ไม่อย่างนั้นตอนนี้คงได้เซ็นสัญญากันไปแล้ว!” ชายผู้มาใหม่ซึ่งมีศักดิ์เป็นมือขวาของเขาได้แต่กำมือแน่นอย่างข่มอารมณ์ของตัวเองไว้ และเขาก็เลือกที่จะเสือกตัวกลับมายืนตรงดังเดิม และยกยิ้มให้กับคนตรงหน้าเพราะเดาสถานการณ์ออกแล้วว่าไอขี้แพ้นี่ทำงานพลาดอีกตามเคย มีดีแค่เงินและตระกูล...แต่สมองหมาปัญญาควายเสียจนไม่มีใครเกิน “ขออภัยครับ ผมท้องเสียทั้งวันเลยไม่ได้ไปอยู่กับนายครับ” “แล้วที่นี้กูจะทำไงกับอีนั่น...เหลือเวลาไม่มากแล้ว ถ้ายังไม่ได้เซ็นสัญญากับมัน แล้วกูจะเอาเงินที่ไหนไปคืน!” เขายังดูหัวเสียเพราะกำลังเป็นกังวล แต่มันกลับทำให้ใครอีกคนยกยิ้มออกมาเพราะมีแผนสำรองไว้รองรับเสมอ “ถ้าไม่ได้เซ็นสัญญาเพื่อโกงเงินส่วนนี้ งั้นนายก็เอาอย่างอื่นมาแทนสิครับ...” “มึงหมายถึงอะไร?” ณคินตวัดสายตามองหน้าของมือขวาในทันทีอย่างสนใจ เพราะคน ๆ นี้มักจะหาลู่ทางและความสุขมาให้เขาเสมอ เขาจึงไม่ลังเลเลยที่จะแต่งตั้งให้มันขึ้นมาทำหน้าที่แทนไลอ้อน เพราะมันเป็นคนไปเห็นไลอ้อนที่กำลังคิดที่จะทรยศหักหลังเขา ทั้งนั้นไม่ใช่แค่มัน...แต่มีคนอีกหลายคนที่เห็นเหมือนกันและเขาก็เลือกที่จะเชื่อจนหมดใจ “จับควีนทำเมียไงครับ...” มันชูขวดอะไรบางอย่างขึ้นแกว่งไปมาตรงหน้าให้ณคินได้แต่มองอย่างสงสัย “ใส่เพียงหยดเดียว มันจะร้องเรียกหานายทั้งคืน” “…” “แล้วหลังจากนั้น จะกี่ล้านกี่หมื่น...มันก็จะเป็นของนายแค่เพียงผู้เดียวเท่านั้นครับ ผมรับประกัน!”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม