.
..
...
....
“ใช่ค่ะ ถ้าคุณเอ่อ....”
“ฉันอินทิราค่ะ”
“ค่ะ ถ้าคุณอินทิราไม่โอเคก็ไม่เป็นไรนะคะ ฉันชินแล้วกับการโดนปฏิเสธ” ปราลีพูดอย่างไร้ซึ่งความหวังเมื่อเห็นสีหน้าตื่นตกใจของอินทิรา
“ไม่มีปัญหาค่ะฉันตกลง”
“ห๊ะ! ทะ...ทำไมมันง่ายอย่างนี้เนี่ย” ปราลีตะลึงงันปนดีใจเมื่ออีกฝ่ายตอบรับโดยเร็วแทบไม่ต้องคิดอะไรมาก บทจะง่ายก็แทบไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรเลย
“ตอนนี้ฉันร้อนเงินมากค่ะ แม่ฉันเป็นมะเร็งลำไส้ระยะที่สองแล้วต้องผ่าตัดด่วน ค่าใช้จ่ายเยอะอย่างนี้ฉันไม่รู้จะไปหาเงินที่ไหนทันน่ะสิคะ คุณปราลีต้องช่วยดิฉันนะคะ งานนี้เป็นความหวังเดียวที่จะทำให้ฉันมีเงินรักษาแม่” อินทิรายอมเล่าถึงความจำเป็นให้ฟัง เผื่อว่าอีกฝ่ายจะเห็นใจและเลือกเธอให้ทำงานนี้
“มิน่าล่ะ ฉันเห็นใจคุณนะคะแต่ว่าคุณต้องมีคุณสมบัติตามที่กำหนดและยอมรับข้อตกลงที่ฉันจะบอกได้”
“บอกมาเลยค่ะฉันไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว”
“ข้อแรกคุณต้องเป็นสาวพรหมจรรย์ ข้อสองหลังจากคลอดลูกแล้วคุณจะต้องรีบกลับเมืองไทยทันทีไม่มีสิทธิ์ในตัวเด็ก ส่วนข้อสุดท้ายคุณต้องปิดเรื่องนี้ให้เป็นความลับอย่าให้ใครรู้เด็ดขาด”
“แค่นี้ใช่ไหมคะ”
“ค่ะแค่สามข้อเท่านั้น ส่วนรายละเอียดปลีกย่อยที่เขาบอกฉันมาคุณถือว่าผ่านฉลุย ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตาและบุคลิกภาพ” ปราลียอมรับว่าเธอคนนี้เป็นผู้หญิงที่มีใบหน้าสวยมาก สวยจนสามารถเป็นดาราได้เลยทีเดียว เธอหวังว่าอินทิราจะยอมรับข้อเสนอได้และงานของเธอจะได้จบสิ้นลงเสียที
“ฉันยังบริสุทธิ์ค่ะ ส่วนข้อสองกับสามฉันมั่นใจว่าทำได้แน่ไม่มีปัญหาค่ะ” อินทิราเอ่ยอย่างมั่นใจ
“ถ้าอย่างนั้นฉันขอถ่ายรูปคุณส่งไปให้คุณบาสเตียนดูก่อนได้ไหมคะ”
“ได้ค่ะ”
อินทิราพยายามเซ็ทผมให้ดูดีที่สุด ก่อนจะนั่งฉีกยิ้มต่อหน้ากล้องมือถือยี่ห้อดัง
แชะ!
“รอสักครู่นะคะฉันขอส่งภาพให้คุณบาสเตียนก่อน ว่าแต่คุณต้องใช้เงินวันไหนคะฉันจะได้บอกท่าน” ปราลีเอ่ยขณะส่งภาพให้คนที่อยู่ต่างประเทศ
“อาทิตย์หน้าค่ะ” อินทิราตอบด้วยรอยยิ้ม
ตอนนี้เธอดีใจมากที่สุดในชีวิตเพราะสามารถหาเงินมารักษามารดาได้แล้ว ถึงแม้ว่าจะต้องเจอกับอะไรบ้างเธอก็ยอมที่จะเสี่ยง
“ว้าว!!! คุณบาสเตียนตอบตกลงมาแล้วค่ะ” ปราลีเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้ด้วยความดีใจ “ดีใจด้วยนะคะสงสัยคุณคงจะถูกใจเขามาก”
“คนที่จ้างฉันชื่อคุณบาสเตียนเหรอคะ” เธออยากถามให้มั่นใจอีกครั้งว่าคนชื่อนี้เป็นนายจ้างของเธอจริงๆ
“ใช่ค่ะคุณบาสเตียนเป็นนักธุรกิจที่รวยมากในลาสเวกัส” ปราลีบอก
“ออค่ะ ว่าแต่ฉันจะได้เงินตอนไหนคะ”
“อ้อ! เรื่องเงินจะแบ่งเป็นสองก้อนนะคะ หลังจากเซ็นสัญญาคุณจะได้ห้าล้านบาท ส่วนอีกห้าล้านจะได้ตอนที่คุณกลับมาเมืองไทย”
“ขอบคุณมากๆ นะคะ ฟ้าต้องส่งให้คุณมาเจอฉันแน่ๆ ถ้าไม่ได้เจอคุณตอนนี้ฉันคงจะนั่งกลุ้มอยู่คนเดียวแน่ ๆ” อินทิรายกมือไหว้ด้วยความดีอกดีใจ จนน้ำตาซึมออกทางหางตา
“ฉันเองก็ต้องขอบคุณคุณเหมือนกันที่ทำให้งานฉันเสร็จสักที ยังไงก็ขอให้แม่คุณหายไวๆ นะคะ”
“ขอบคุณค่ะ ว่าแต่เราจะเซ็นสัญญากันวันไหนดีคะ”
“พรุ่งนี้คุณมาที่โรงพยาบาลอีกไหมคะ” ปราลีถาม
“มาค่ะ ตอนนี้แม่ฉันนอนที่โรงพยาบาลต้องมาที่นี่ทุกวัน”
“ถ้างั้นพรุ่งนี้เจอกันนะคะ เตรียมเลขบัญชีคุณมาด้วยฉันจะได้โอนเงินให้”
“ฉันขอกอดคุณได้ไหมคะ ฉันดีใจจนไม่รู้จะอธิบายยังไงแล้ว”
“ได้สิคะ” ปราลียิ้มด้วยความยินดี
อินทิราโผเข้ากอดคนที่เพิ่งจะเจอหน้ากันไม่ถึงชั่วโมงอย่างแนบแน่น แม้ว่าปราลีจะไม่ใช่คนที่จ้างวานเธอ แต่ทว่าปราลีคือผู้ที่จุดเทียนให้แสงสว่างกับเธอขณะอยู่ในความมืดมิด
“ว่าแต่คุณปราลีมาเยี่ยมใครที่โรงบาลคะเนี่ย”
“พอดีเพื่อนฉันไม่สบายค่ะพรุ่งนี้หมอก็ให้กลับบ้านได้แล้ว ฉันขอเบอร์ติดต่อคุณหน่อยสิคะ”
“ได้ค่ะ”
อินทิรารีบกดเบอร์โทรให้ทันที
“ไว้เจอกันนะคะ แล้วเราค่อยมาคุยรายละเอียดกัน” ปราลีเอ่ย
“สวัสดีค่ะ”
หลังจากปราลีเดินไปแล้วอินทิราก็รีบเร่งฝีเท้าไปยังห้องน้ำทันที เมื่อมั่นใจว่าไม่มีใครในนั้นเธอก็ส่งเสียงกรี๊ดด้วยความดีใจ ในที่สุดมารดาของเธอก็จะสามารถเข้ารับการรักษาโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายแล้ว แม้จะต้องตายเธอก็ไม่กลัวหากจะทำให้มารดามีชีวิตรอดต่อไป