ตอนที่ 13 ของขวัญอันล้ำค่า (1)

1387 คำ
ตอนที่ 13 ของขวัญอันล้ำค่า (1) “นี่ เดี๋ยวสิ จะพาไปไหนเหรอ ตอนนี้มันดึกมากแล้วนะ ทั้งแท็กซี่ทั้งรถเมล์ก็ไม่มีเลย นายจะพาฉันไปไหนกันแน่เนี่ย” ฉันเอ่ยถามเป็นชุด เพราะเขาพาฉันเดินมาไกลจากบ้านเป็นกิโลฯ แล้ว เพิ่งจะเดินไปกลับจากซื้อพร้อมนาวินเองนะ นี่ต้องเดินอีกแล้วงั้นเหรอ “ใกล้ถึงแล้ว” เขาตอบโดยไม่หันกลับมามอง ราฟาเอลเดินจับข้อมือฉันแล้วพาเดินต่อไปข้างหน้า ก่อนจะมาหยุดอยู่ที่หน้าโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง เป็นโรงแรมระดับห้าดาวที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในละแวกบ้านฉัน “มาทำอะไรที่นี่เหรอ” “คืนนี้เราจะค้างที่นี่กัน” “อ๋อ...” “...” “เดี๋ยวนะ! เมื่อกี้นายบอกว่าเราจะ...” หูฉันไม่ได้ฝาดใช่ไหม ราฟาเอลกำลังพาฉันเข้าโรงแรม! ให้ตายสิ ฉันควรทำยังไงดี ต้องโทรบอกยัยแยมกับยัยมิ้นต์ก่อนไหม ไม่ได้ๆ ขืนโทรบอกตอนนี้คงโดนแซวหรือพูดอะไรจนฉันตื่นเต้นเกินกว่าเหตุแน่ๆ ร่างสูงจับมือฉันเดินเข้าไปในโรงแรม ตรงไปที่เคาน์เตอร์ซึ่งมีพนักงานต้อนรับแสนสวยยืนอยู่สองคน ทันทีที่หันมาเห็นราฟาเอล พวกเธอก็พากันทำตาวาวก่อนจะเอ่ยต้อนรับเสียงหวาน “สวัสดีค่ะ ต้องการจองห้องใช่ไหมคะ” “เอาห้องสวีตหนึ่งห้องครับ” “เดี๋ยวสิราฟ ห้องสวีตเลยเหรอ” ฉันดึงแขนเสื้อเขาไว้แล้วกระซิบถาม ราฟาเอลไม่ตอบแต่ส่งบัตรเครดิตแบบไม่จำกัดวงเงินที่คุณพ่อของเขาให้ไว้ส่งให้พนักงานพร้อมกับบัตรประชาชนของตัวเอง “เอ่อ...ขอเบอร์โทรลูกค้าด้วยนะคะ” ถึงตอนขอเบอร์โทร ดูนัยน์ตาของพวกเธอเหมือนจะมีประกายแห่งความหวังแปลกๆ คงไม่ได้คิดจะใช้วิธีนี้หลอกเอาเบอร์ราฟาเอลไปแล้วจะโทรมาก้อร่อก้อติกเขาภายหลังหรอกนะ “ศูนย์เก้าสาม...” ราฟาเอลที่กำลังจะบอกเบอร์โทรของตัวเองเงียบไป ก่อนจะหลับตาลงแล้วทำท่าเหมือนกำลังหนักใจอะไรสักอย่าง เขาลืมตาแล้วหันมาทางฉัน “บอกเบอร์เธอไปสิ เดี๋ยวเอาเบอร์แฟนผมแล้วกันนะครับ” พอบอกฉันเสร็จเขาก็หันไปบอกกับพนักงาน ฉันเลยบอกเบอร์ของฉันไปแทน พวกเธอดูเสียดายอย่างเห็นได้ชัดที่ไม่ได้เบอร์ของเขา แปลว่าราฟาเอลมองออกสินะว่าฉันกังวลหากเขาบอกเบอร์โทรไป ก็เลยทำสีหน้าแบบนั้น ปกติหมอนั่นเคยสนใจที่ไหนล่ะ เขาไม่เคยหันกลับมามองฉันเลยด้วยซ้ำ บ้าจริงๆ ยัยซันนี่ ทั้งที่เพิ่งจะเห็นเขาทำเรื่องแบบนั้นไปต่อหน้าต่อตา สุดท้ายแค่เขาทำดีด้วยหน่อยก็ใจอ่อนเหลวเป๋วเป็นน้ำอีกแล้ว! “นี่ค่ะ” พนักงานส่งคีย์การ์ดของห้องมาให้ ราฟาเอลรับก่อนจะจับมือพาฉันเดินไปที่ลิฟต์ ซึ่งมีพยักงานผู้ชายในชุดสูทสีน้ำเงินตัดขาวยืนรออยู่หน้าลิฟต์แล้ว เขาจัดการกดลิฟต์ให้พวกเราก่อนจะเอ่ยถามอย่างนอบน้อม “ชั้นไหนครับ” เขาไม่ตอบแต่ส่งคีย์การ์ดที่มีเบอร์ห้องให้แก่พนักงานแทน “ห้องสวีตชั้นสี่สิบนะครับ เชิญเลยครับ” ลิฟต์ปิดลงโดยมีแค่ฉันกับราฟาเอลที่อยู่ข้างใน เขายังจับมือฉันแน่นไม่ยอมปล่อย บรรยากาศรอบตัวของเราในตอนนี้ดูมาคุชอบกล ฉันไม่ชอบเวลาราฟาเอลทำตัวนิ่งแบบนี้เลย มันให้อารมณ์เหมือนคลื่นลมทะเลที่สงบก่อนจะมีพายุลูกใหญ่ซัดเข้าฝั่งมาประมาณนั้นเลย อะไรกันเล่า คนที่ควรจะโกรธมันคือฉันไม่ใช่เหรอ เขาเพิ่งจะไปจ้ำจี้มะเขือเปราะแปะกับผู้หญิงคนอื่นมานะ ถึงฉันจะไม่ได้เข้าไปเห็นตอนกำลังทำ แต่ก็เห็นตอนที่ไม่สมควรจะเห็นอยู่ดีไหมล่ะ ปกติแค่รับรู้ได้ด้วยใจว่าเขาไปทำอะไรก็เจ็บจะตายอยู่แล้ว นี่เล่นมาเห็นจะๆ ขอเวลาให้ฉันได้ทำใจหน่อยไม่ได้หรือไง แกร๊ก... ราฟาเอลใช้คีย์การ์ดเปิดห้องเข้าไปข้างใน เชื่อแล้วว่าเป็นโรงแรมสุดหรู หรูตั้งแต่ห้องโถงของโรงแรมจนถึงในห้องนี้เลย แค่ประตูห้องก็รู้เลยว่าราคาแพงระยับแน่ๆ ขนาดห้องก็ใหญ่อย่างกับจะเล่นฟุตบอลกันในนี้ได้ แถมวิวที่มองเห็นจากตรงนี้ได้ก็... “ว้าววว!” ฉันดึงมือออกจากการเกาะกุมของราฟาเอล วิ่งเข้าไปเกาะกำแพงกระจกของห้องนี้เพื่อดูวิวที่มองเห็นยามค่ำคืน ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าฉันจะมีโอกาสได้เห็นอะไรที่สวยงามแบบนี้ จากชั้นที่ยี่สิบ ทั้งบ้านเรือนและรถที่วิ่งผ่านไปมาบนถนนนั้นเล็กราวกับมดตัวน้อยๆ แสงไฟของสะพานบนทางด่วนเรียงรายกันอย่างสวยงาม ถึงจะไม่เห็นดาวบนท้องฟ้าแบบต่างจังหวัด แต่วิวที่ได้เห็นในตอนนี้ก็ไม่เลวนะ หมับ... ร่างสูงเข้ามาสวมกอดฉันจากด้านหลัง แขนข้างหนึ่งของเขาโอบรอบคอ อีกข้างโอบรอบเอว ใบหน้าซบลงมากับไหล่ ที่ตัวของเขามี...กลิ่นน้ำหอมของผู้หญิงคนอื่นติดมาอีกแล้ว “กับยัยนั่น...จะไม่ทำอีกแล้วล่ะ” “...” “จะตัดออกจากชีวิตไปเลย ฉันสัญญา” ฉันหลับตาลง พยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้เพราะไม่อยากร้องไห้ออกมาอีก ฉันรู้ว่าราฟาเอลเป็นคนรักษาคำพูดและพูดคำไหนคำนั้นเสมอ ถ้าเขาบอกว่าไม่ ก็คือไม่ ผู้หญิงคนนั้นจะไม่ได้ข้องเกี่ยวอะไรกับชีวิตของเขาอีกแน่นอน “ฉันถามได้ไหม ว่าทำไมถึงทำ ปกตินายไม่เคยเอาผู้หญิงที่แค่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไปมาที่บ้านนี่” “เรื่องนั้น...” ราฟาเอลผละอ้อมกอดออกไป เขาเดินไปทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาพร้อมกับเอามือข้างหนึ่งปิดหน้าไว้อย่างอายๆ ริ้วสีแดงเห็นชัดทั้งใบหน้าลามมาจนถึงหูทั้งสองข้าง “มีอะไรหรือเปล่า” “ให้ตายสิ ความผิดเธอนั่นแหละยัยบ้า” งะ...ไหงกลายเป็นความผิดของฉันล่ะ! ฉันไม่ได้สั่งให้เขาไปเอากับผู้หญิงคนนั้นสักหน่อย เขาเสี้ยนของเขาเองไหมล่ะ! “ไม่ต้องมาทำหน้างงเลย ก่อนหน้านั้นเธอทำอะไรเอาไว้ล่ะ” “ก่อนหน้านั้น?” คำพูดของเขาทำให้ฉันต้องรีบทบทวนการกระทำของตัวเองอย่างเร่งด่วน ก่อนหน้านั้น...หมายถึงก่อนที่เพื่อนๆ ของเขาจะพากันมาใช่ไหม ฉันก็... ก็... “เอ๊ะ?! หรือว่า...!” ฉันเว้นช่องไฟเอาไว้ก่อนจะมอหน้าเขาด้วยใบหน้าที่เห่อร้อนเพราะความอายไม่แพ้กัน อย่าบอกนะว่าที่ครั้งนี้เขาทนไม่ไหวถึงกับต้องคว้าเอาเพื่อนเที่ยวมา ระบายอารมณ์จะเป็นเพราะฉันที่ตั้งใจจะไปอ่อยและยั่วยวนเพื่อเผด็จศึกเขา! “คิดว่าฉันไม่รู้สึกอะไรที่เห็นเธอในชุดนั้นหรือไง” “...” “ยัยบ้า เธอไม่ใช่เด็กประถมเหมือนเมื่อก่อนแล้วนะ ร่างกายเธอมันยิ่งกว่าแม่เหล็กซะอีก แรงดึงดูดของเธอมันมีมากขึ้นทุกวันๆ จนฉันไม่รู้แล้วว่าจะอดทนได้อีกนานแค่ไหน” ตึกๆ! ตึกๆ! ตึกๆ! หัวใจของฉันเต้นระส่ำ อย่างที่บอกไปว่าราฟาเอลเป็นผู้ชายที่ไม่โกหก เขาจะไม่มีวันพูดในสิ่งที่ไม่ได้คิดหรือทำอะไรที่ตรงข้ามความรู้สึกของตัวเองเด็ดขาด ดังนั้นทุกคำที่เขาพูดให้ฉันฟังเมื่อครู่ มันคือความจริงในใจที่ฉันไม่เคยรู้มาก่อน ถึงสิ่งที่เขาทำมันจะแย่จนไม่น่าให้อภัย แต่เป็นเพราะฉันรักเขา รักเขามากเหลือเกิน ฉันถึงได้... ให้อภัยเขาอีกแล้ว ถึงจะอยากโกรธ อยากเลิกกับเขามากแค่ไหนก็ทำไม่ได้ ฉันไม่มีความกล้าพอที่จะใช้ชีวิตอยู่โดยไม่มีราฟาเอล “ถ้าทนไม่ไหวก็ไม่ต้องทนสิ ฉันไม่ได้บอกให้นายอดทนสักหน่อย”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม