ตอนที่ 11 ภาพบาดตา (1)

1530 คำ
ตอนที่ 11 ภาพบาดตา (1) อยากจะบ้าตาย! วันนั้นของเดือนมา! โชคดีนะเนี่ยที่แผนเผด็จศึกราฟาเอลล่มไม่เป็นท่า ไม่อย่างนั้นถ้ากำลังเข้าด้ายเข้าเข็มแล้วทะเลเลือดเกิดทะลักออกมาพอดีล่ะก็... จากฉากสวีตวี้ดวิ่วคงกลายเป็นซีนสยองขวัญนองเลือดแทนแน่ๆ “ผ้าอนามัยหมดงั้นเหรอ?” เมื่อหาจนทั่วห้องแล้วไม่พบของสำคัญ จะให้ไปปลุกคุณแม่เพื่อขอผ้าอนามัยก็เกรงใจ ฉันเลยหยิบแผ่นอนามัยเล็กๆ มาใส่แก้ขัดไปก่อน ออกไปซื้อที่ร้านค้าหน้าปากซอยดีกว่า ฉันเปลี่ยนเป็นชุดนอนลายเป็ดสีเหลืองอ๋อยของตัวเองตามเดิมแล้ว แต่ก็ยังสวมเสื้อฮู้ดของราฟาเอลทับเอาไว้อีกที เพราะอยากจะให้กลิ่นของเขาโอบอุ้มร่างกายของฉันเอาไว้ หอมจัง... แอ๊ด... ค่อยๆ ปิดประตูบ้านลงอย่างเบามือเพราะกลัวคุณพ่อคุณแม่จะตื่น ถึงจะเกือบห้าทุ่มแล้วแต่ในซอยบ้านฉันก็สว่างเหมือนตอนกลางวันเพราะมีไฟติดทุกจุด แทบจะไม่เหลือจุดที่มืดสนิทเลย ว่าแต่...ออกไปเองแบบนี้จะเป็นไรไหมนะ ราฟาเอลเคยบอกไว้ว่าถ้ามีเหตุจำเป็นให้ต้องออกไปข้างนอกหลังหกโมงเย็นให้บอกเขาทุกครั้ง เพราะเขาจะไปด้วย “ไม่เป็นไรหรอกน่า ไปแค่หน้าซอยเอง” บอกกับตัวเองแบบนั้นเพราะไม่อยากจะรบกวนเขา อยากให้เขาได้สนุกกับเพื่อนๆ ให้เต็มที่ ฉันเดินทอดน่องไปจนถึงหน้าซอย ทว่าร้านค้าที่ร้อยวันพันปีไม่เคยจะปิดเลยตั้งแต่ฉันเกิด วันนี้กลับปิดซะงั้น! ทำไมถึงต้องมาปิดวันนี้ด้วยเล่า กว่าจะถึงร้านสะดวกซื้อก็ต้องเดินไปอีกสองป้ายรถเมล์เลยนะ “เอ๊ะ...นาวินหรือเปล่า?” เอ่ยถามออกไปเมื่อเพ่งมองดีๆ แล้วพบว่าที่ร้านมีร่างของชายหนุ่มตัวสูงท่าทางคุ้นๆ ยืนด้อมๆ มองๆ อยู่ เขาหันมามองฉันก่อนจะยิ้มกว้างอย่างดีใจ “อ้าว ซันนี่ มาทำอะไรเหรอ” “ฉันมาซื้อของน่ะ แล้วนายล่ะ” “มาซื้อน้ำแข็ง เหล้า แล้วก็กับแกล้มน่ะ แต่ร้านดันปิดซะได้” “งั้นเอาแบบนี้ไหม อีกสองป้ายรถเมล์จะมีร้านสะดวกซื้อ ฉันจะไปที่นั่นพอดี เดี๋ยวฉันซื้อมาให้เอง เอาอะไรบ้างล่ะ” ฉันเสนอตัวช่วย จริงๆ ก็แค่อยากเอาใจราฟาเอลเท่านั้นแหละ “เฮ้ย ไม่ต้อง แทนที่จะพูดว่าจะซื้อมาให้ เธอน่าจะชวนฉันไปซื้อที่นั่นพร้อมเธอมากกว่านะ” “เอ๊ะ อย่างงั้นเหรอ” “ก็ใช่น่ะสิ ฮะๆๆ เธอนี่ยังเหมือนเดิมทุกครั้งที่เจอกันเลยนะ” นาวินพูดพร้อมยิ้มกว้าง เขาเป็นเพื่อนคณะฯ เดียวกันกับราฟาเอล ฉันเพิ่งรู้จักเขามาได้สองปีกว่า นานๆ จะได้เจอกันสักครั้งเพราะถึงจะอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกันแต่ก็อยู่คนละคณะฯ ได้ยินมาว่ารองจากราฟาเอลก็นาวินนี่แหละ ที่ฮฮตเป็นเบอร์สองคณะฯ นั้น “งั้นไปด้วยกันแล้วกันเนอะ” ฉันยิ้มให้เขาบ้าง ฉันจะได้เจอเขาทุกๆ วันเกิดของราฟาเอล หรือเวลาที่พวกเขาไปตั้งแคปม์กัน ราฟาเอลก็จะพาฉันไปด้วย รวมๆ ระยะเวลาที่รู้จักกันมา พวกเราเคยเจอกันประมาณสิบกว่าครั้ง แต่นาวินเป็นคนคุยเก่ง ยิ้มง่าย เราสองคนเลยเข้ากันได้สบายๆ ฉันไม่ค่อยรู้สึกอึดอัดเวลาเจอเขาหรืออยู่กับเขาสองคน ต่างจากเพื่อนอีกคนของพวกเขาที่รู้สึกจะชื่อกังหัน รายนั้นค่อนข้างเจ้าชู้มือไว ฉันเลยไม่ค่อยอยากอยู่ใกล้เท่าไหร่ “แล้วเธอไม่มาปาร์ตี้ด้วยกันเหรอ ไม่ได้มีแต่ผู้ชายหรอกนะ มีผู้หญิงด้วย” “ผู้หญิงเหรอ...” ฉันพึมพำเบาๆ “เฮ้ย ไม่ต้องเป็นห่วงนะ สองคนนั้นเป็นเพื่อนกินเหล้าที่เจอกันประจำอยู่แล้ว ไม่มีอะไรในก่อไผ่แน่นอน” “ฉันรู้น่า ไม่ต้องแก้ตัวแทนราฟขนาดนั้นหรอก” ฉันรีบบอกเขา กลัวเขาจะเข้าใจผิดคิดว่าฉันเป็นพวกแฟนขี้หึง ที่แค่ราฟาเอลพาเพื่อนมาบ้านก็นอยด์อะไรเทือกนั้น สำหรับฉัน...ต่อให้เห็นเขาไปดูหนังกับผู้หญิงสองต่อสองก็คงสะเทือนจิตใจฉันเท่ามดต่อยแค่นั้นแหละ เพราะหัวใจมันเจ็บจนเยินมากกว่านั้นหลายเท่าเรื่องที่เขานอนกับผู้หญิงคนอื่น “เฮ้อ...” “อะไรของเธอเนี่ย เดี๋ยวก็ยิ้ม เดี๋ยวก็ทำหน้าเศร้า ฉันปรับอารมณ์ตามไม่ทันเลย” นาวินเปลี่ยนเป็นมายืนข้างหน้าฉันแล้วเดินถอยหลังแทน เขาก้มหน้าลงมาจนอยู่ในระดับเดียวกับสายตาของฉัน “เวลามองเธอฉันไม่เคยเบื่อเลยจริงๆ ต้องคอยลุ้นว่าวินาทีต่อไปเธอจะทำสีหน้าแบบไหนกันนะอยู่ประจำ” “นั่นคำชมหรือหลอกด่า” “ชมสิ ฉันไม่เคยเจอใครเป็นแบบเธอเลยนะ” “ราฟก็พูดเสมอว่าฉันเป็นพันธุ์หายาก อีตานั่นเห็นฉันเป็นแม่วัวหรือไงถึงได้จำแนกสายพันธุ์ให้แบบนั้น” ป่านนี้คงจามบ้านแตกแล้วมั้ง ถูกฉันและเพื่อนสนิทนินทาเอาๆ แบบนี้ “โอ๊ะ ถึงแล้ว ไวจัง ปกติตอนเดินมาคนเดียวฉันรู้สึกว่ามันนานมากๆ เลยนะ ทำไมพอมีเพื่อนเดินด้วยแบบนี้ถึงรู้สึกแป๊บเดียวจัง” “ถ้าวันหลังอยากเดินมาซื้อของที่นี่อีกก็โทรเรียกฉันได้นะ ฉันจะรีบมาทันทีด้วย” คำพูดของเขาทำฉันชะงักไปเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าจะเป็นคนใจดีขนาดนี้ ผิดคาดหน่อยๆ แฮะ “เอ่อ แต่ถ้าเธอไม่ต้องการก็ไม่...” “ขอบคุณนะ” ฉันยิ้มกว้างตอบเขา “อื้ม ด้วยความยินดี” “เข้าไปข้างในกันเถอะ ฉันกับนาวินพากันเข้าไปในร้านสะดวกซื้อแล้วต่างเลือกของที่ตัวเองต้องการจะซื้อ เขาไม่พูดถึงสิ่งที่เห็นในวันนี้เลยสักคำ ทั้งที่เพิ่งจะเห็นฉันในโหมดบ้าๆ น่าอายขนาดนั้นไปแท้ๆ รอบตัวของฉันคง... เต็มไปด้วยคนใจดีล่ะมั้ง ใช้เวลาเลือกของกันอยู่เกือบครึ่งชั่วโมง ไหนจะรอคิวที่จะจ่ายเงิน กับเวลาเดินไปเดินกลับ รวมๆ แล้วพวกเราใช้เวลากันไปชั่วโมงกว่าเลยทีเดียว และตอนนี้ฉันกับนาวินก็กำลังพากันเดินกลับบ้าน อีกไม่กี่เมตรก็จะถึงหน้าบ้านราฟาเอลแล้ว ฉันเปลี่ยนใจจะไปร่วมงานปาร์ตี้กับพวกเขาด้วยเพราะนาวินชวน “ฉันไม่ได้อยู่ก๊วนของพวกนาย จะไปด้วยได้จริงๆ เหรอ” ถามย้ำอีกครั้ง เพราะกลัวจะไปเป็นตัวเกะกะทำพวกเขาหมดสนุก “ไปได้สิ เธอเป็นแฟนไอ้ราฟ ก็เหมือนเป็นเพื่อนของพวกเราด้วยนั่นแหละ” “ขอบคุณนะ” ฉันยิ้มกว้างให้เขา “เธอขอบคุณฉันกี่รอบแล้วได้นับบ้างไหม” นาวินที่กำลังจะเอามือมาลูบหัวฉันชะงักค้างเอาไว้กลางอากาศก่อนจะค่อยๆ ลดมือลง ฉันรู้สึกได้ว่าเขาพยายามเว้นระยะห่างกับฉันเป็นอย่างดี อาจเพราะฉันเป็นแฟนของเพื่อนสนิทเขาก็เป็นได้ เพราะสองคนนี้ถึงจะเพิ่งได้เรียนด้วยกันตอนขึ้นมหาวิทยาลัย แต่พวกเขาก็เคยเจอกันบ่อยๆ ตอนแข่งฟุตบอลระดับโรงเรียน ในที่สุดก็เดินมาถึงหน้าบ้านของราฟาเอล ทว่าประตูบ้านกับเปิดแง้มอยู่ “เอ้า สงสัยฉันปิดประตูไม่สนิทล่ะมั้งเนี่ย ตายๆ ถ้าไอ้ราฟมาเห็นคงด่าตาย โทษฐานปล่อยยุงเข้าบ้าน” “ไม่เป็นไรหรอก ถ้าเขาเห็นคงปิดไปแล้ว ที่ยังเปิดอยู่แบบนี้ก็แปลว่ายังไม่เห็นละนะ เดี๋ยวนายเดินเบาๆ นะ ฉันอยากเซอร์ไพร์สราฟให้ตกใจ” ฉันปลอบใจเขาก่อนจะค่อยๆ เดินเข้าไปข้างในโดยไม่ให้เกิดเสียงฝีเท้าแม้แต่นิดเดียว “ขอถามได้หรือเปล่า ว่าทำไมนายถึงไม่จูบ” เสียงหนึ่งดังขึ้นจากทางห้องครัว ซึ่งเป็นจุดที่ฉันกำลังจะเดินผ่านพอดีเลยหยุดเดินแล้วแอบชะโงกหน้าไปดูว่าใครอยู่ข้างใน โดยมีนาวินยืนอยู่ข้างหลัง “ฉันไม่จูบใครนอกจากซันนี่” เสียงที่ฉันคุ้นเคยดีตอบกลับอย่างไม่ใสใจ ก่อนจะพ่นควันบุหรี่ที่ตัวเองสูบออกมา ฉันยกมือขึ้นอุดปากแน่นเพื่อไม่ให้เสียงสะอื้นเล็ดลอด น้ำตาไหลพรากอาบแก้มทั้งสองข้าง ราฟาเอลอยู่ในสภาพสวมแค่กางเกงยีนส์ตัวเดียว ส่วนเสื้อกองอยู่บนพื้น ขณะที่ผู้หญิงอีกคนยืนหันหน้าให้เขา และหันหลังมาทางประตูห้องครัวกำลังใส่เสื้อในของตัวเอง ท่อนล่างสวมเพียงกกน.ตัวเดียว สภาพแบบนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพวกเขาเพิ่งจะทำอะไรกันไป...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม