ตอนที่ 3 เอาแต่ใจ...บ้างก็ได้? (1)

1678 คำ
“จู่ๆ คุณป้าก็วิ่งมาเคาะประตูบ้านฉันด้วยหน้าตาตื่นๆ ว่าเธอหายไป ฉันเกือบจะไปแจ้งความที่สถานีตำรวจแล้วรู้ไหม” ราฟาเอลถาม ขณะที่มือใหญ่ของเขากุมมือฉันไว้แน่นระหว่างที่เราสองคนกำลังเดินไปตามทางเพื่อจะกลับบ้าน “ขอโทษที พอดีฉันนอนไม่หลับเลยออกมาจ้อกกิ้งน่ะ แต่เห็นว่ามันยังเช้าเกินไปเลยไม่ได้บอกคุณแม่ก่อนจะออกมา” “คราวหลังห้ามทำแบบนี้อีกนะ จะไปไหนมาไหนก็บอกกันด้วย ถ้ามีเรื่องแบบนี้อีก ฉันจะเอาปลอกคอมาล่ามเธอไว้ในห้องเลยคอยดูสิ” “คนที่ควรถูกใส่ปลอกคอแล้วล่ามเอาไว้มันคือนายต่างหาก” ฉันสวนกลับทันที ตัวเองนั่นแหละที่ชอบหายไปนานๆ จนบางทีก็อยากจะใส่ปลอกคอแสดงความเป็นเจ้าของให้รู้แล้วรู้รอดไปซะ เผื่อบางทีถ้าพวกเธอรู้ว่าเขามีเจ้าของอยู่แล้ว อาจจะไม่อยากนอนด้วยก็ได้ “วันนี้นายไปไหนหรือเปล่า” “วันนี้เหรอ ก็มีนัดไปเตะบอลกับพวกไอ้วินนะ มีอะไรหรือเปล่า” งั้นเหรอ วันนี้ก็มีนัดอีกแล้วเหรอเนี่ย เราไม่ได้ไปไหนมาไหนด้วยกันเป็นเดือนแล้วนะ เพราะเขาเอาแต่นัดไปเที่ยวหรือไม่ก็ไปเตะบอลกับเพื่อนๆ จนไม่เหลือเวลาว่างให้ฉันได้ชวนเขาไปไหนบ้างเลย “ปะ...เปล่าหรอก ไม่มีอะไร” สุดท้ายก็ทำได้แค่ส่งยิ้มให้เขาอย่างทุกที ก็ฉันไม่กล้านี่นา ถ้าฉันงี่เง่าเอาแต่ใจตามสไตล์ผู้หญิงทั่วไปแล้วเกิดเขารำคาญจนเบื่อหรืออยากเลิกกับฉันขึ้นมาจะทำยังไง ฉันน่ะ...สำหรับฉันน่ะ... ถ้าไม่ใช่ราฟาเอล ฉันก็ไม่สามารถรักใครได้อีกแล้ว “ก็ไม่รู้หรอกนะว่าเป็นอะไรถึงได้เอาแต่ทำหน้าเศร้าแบบนั้น แต่ว่าเธอน่ะ...ไอ้นิสัยขี้เกรงใจ ไม่กล้าบอกความต้องการของตัวเองออกไปตรงๆ ถ้าแก้ได้ก็แก้ไขซะบ้างเถอะ” “นายหมายความว่ายังไง” ฉันหยุดเดินแล้วเอ่ยถามเขาที่เดินนำหน้าไปประมาณสองก้าว คนถูกถามหยุดเดินก่อนจะหันกลับมา เขาค่อยๆ เดินเข้ามาหาฉันก่อนจะหยุดอยู่ตรงหน้า หมับ... ฝ่ามือใหญ่วางลงบนหัวของฉันก่อนจะลูบมันเบาๆ อย่างอ่อนโยน “เธอเป็นแฟนฉันนะ จะเอาแต่ใจบ้างก็ไม่เป็นไรหรอก” ราฟาเอลยิ้มกว้างก่อนจะหมุนตัวกลับไปแล้วออกเดินต่อ ฉันมองตามแผ่นหลังของเขาก่อนจะยิ้มออกมาทั้งน้ำตา เอาชนะหมอนี่ไม่ได้เลยจริงๆ หมับ! ฉันวิ่งเข้าไปสวมกอดเขาจากด้านหลัง สองแขนเล็กๆ โอบรอบเอวของราฟาเอลไว้แน่น ใบหน้าซุกกับแผ่นหลังที่แสนอบอุ่นของอีกฝ่าย “อย่าไปนะ” “...” “วันนี้...อย่าไปเตะบอลกับเพื่อนๆ เลย” “...” “ฉัน...อยากไปเที่ยวกับนาย” ในที่สุดก็พูดความในใจออกไปจนได้ ฉันหลับตาปี๋เพราะกลัวที่จะฟังคำตอบจากเขา ราฟาเอลค่อยๆ แกะมือฉันออกแล้วหันกลับมาหา มือข้างหนึ่งของเขาเชยคางฉันขึ้นให้เงยหน้าสบตากัน “รับทราบครับผม” สิ้นคำนั้น ร่างสูงก็โน้มลงมาจูบฉันอย่างอ่อนโยนและเนิ่นนาน... สวนสนุก “ที่นี่น่ะเหรอที่เธออยากมา” ราฟาเอลเอ่ยถามพร้อมกับทำหน้าเหม็นเบื่อทันทีที่เราสองคนก้าวขาลงมาจากแท็กซี่ ถึงหมอนี่จะมีนิสัยเรี่ยราดเรื่องผู้หญิงไปทั่ว และเข้าสังคมเก่ง มีเพื่อนเยอะยิ่งกว่าเส้นผมบนหัว แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็เป็นพวกไม่ชอบที่ที่มีคนพลุกพล่านอย่างงานคอนเสิร์ต ตลาดนัด หรือสวนสนุก “ใช่ ก็แหม...นานแล้วนะที่พวกเราไม่ได้มาเที่ยวสวนสนุกด้วยกัน ครั้งสุดท้ายก็ตั้งแต่ป.4 เลยมั้ง ที่พี่น้ำหวานเป็นคนพามาไง” “...” อ๊ะ...บ้าชะมัด ดันเผลอพูดชื่อต้องห้ามออกไปซะได้! “ราฟ คือว่า...” “ไปกันเถอะ แค่เข้าไปก็พอใช่ไหม” เขาหันมาถามฉันด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง พอฉันพยักหน้ารับ ราฟาเอลก็เอื้อมมือมาจับมือฉันแล้วพาเดินเข้าข้างในทันที ฉันมองมือของเราสองคนที่ประสานกันไว้แน่นด้วยหัวใจที่เต้นรัว มีความสุขจัง... ราฟาเอลวันนี้ก็หล่อมากๆ เลยด้วย อย่างกับหลุดออกมาจากนิตยสารอย่างนั้นแหละ “ตั๋ววีไอพีสองใบครับ” “อ๊ะ ฉันจ่ายส่วนของฉันเอง” “ไม่ต้อง เดี๋ยวฉันจ่ายเอง” เขาปฏิเสธ ก่อนจะหยิบบัตรเครดิตส่งให้กับพนักงานของสวนสนุก ไม่นานนัก สายข้อมือสำหรับวีไอพีก็ถูกสวมเข้าที่ข้อมือของเราสองคน “ตื่นเต้นจังเลย วันนี้ต้องสนุกแน่ๆ เลยเนอะ” ฉันยิ้มกว้างพลางยื่นแขนออกไปข้างหน้าเพื่อดูสายรัดที่ข้อมือด้วยความดีใจ คอยดูนะ วันนี้แหละ ฉันจะต้องสร้างความทรงจำดีๆ กับราฟาเอลให้เยอะๆ เอาให้เป็นวันดีๆ ที่ลืมไม่ลงไปเลย “เป็นเด็กประถมหรือไง ผู้หญิงวัยมหา’ลัยที่ยังอยากเที่ยวสวนสนุก เห็นทีจะมีแค่เธอนี่แหละนะ อ้อ แล้วอย่าไปแย่งเด็กๆ เล่นม้าหมุนเชียวล่ะ” “ราฟ! นี่นายหลอกด่าฉันหรือเปล่าเนี่ย” “เปล่านะ ฉันกำลังชมเธอต่างหาก” “ตรงไหนกันที่ชม!” “ก็...เหมือนเด็กไง” “เหมือนเด็กเนี่ยนะคำชม ไม่ใช่หลอกด่าว่าฉันปัญญาอ่อนเหรอ” “ว้า แย่จัง ทีแบบนี้ล่ะฉลาดเป็นกรด” “อีตาบ้าราฟ!” เพี๊ยะ! ฉันตีเข้าที่แขนของเขาเต็มแรง ราฟาเอลหัวเราะเสียงดังลั่นก่อนจะวิ่งหนี แต่มิวายหันกลับมาล้อเลียนฉันอยู่เรื่อยๆ จนฉันต้องวิ่งไล่ตีเขาไปทั่ว บ้าจริง ทั้งที่ถูกเขาแกล้งอยู่แท้ๆ แต่ฉันกลับมีความสุขเสียจนหัวใจแทบระเบิด ตอนนี้ฉัน...ยิ้มกว้างเกินไปหรือเปล่านะ? ฉันพาราฟาเอลเล่นเครื่องเล่นมากมาย ทั้งที่เขาไม่ค่อยชอบเล่นอะไรที่น่าหวาดเสียวเพราะรำคาญเสียงกรี๊ดของคนอื่นๆ ที่เล่นอยู่ด้วย แต่พอฉันบอกว่าอยากเล่น เขาก็ยอมเล่นกับฉันโดยไม่บ่นอะไรสักคำ ถึงจะทำหน้าตาไม่ค่อยเอ็นจอยเท่าไหร่ แต่ฉันก็แอบเห็นนะว่าเขาอมยิ้มตอนที่หันมามองฉันแล้วเห็นว่าฉันกำลังยิ้มอย่างมีความสุขน่ะ แฟนฉันนี่...น่ารักจริงๆ “สู้เขานะราฟ เหลืออีกนัดเดียวเท่านั้น” ฉันกำลังร่ายมนตร์ใส่เขา จริงๆ คือเราพากันมาเล่นยิงปิงเอาตุ๊กตาที่ซุ้มในสวนสนุกต่างหาก ฉันอยากได้ตุ๊กตาหมาป่าตัวใหญ่ที่เหลืออยู่ตัวเดียวของซุ้มนี้ ก็เลยขอให้ราฟาเอลช่วยเล่นให้ “เงียบๆ ได้ไหม ฉันจะเสียสมาธิก็เพราะเธอเนี่ย” “จ้าๆ ไม่ส่งเสียงก็ได้” ฉันตอบรับ สองมือประสานกันด้วยความลุ้นระทึก ที่ข้างแก้มของราฟาเอลมีเหงื่อเม็ดเป้งไหลย้อยลงมา เขาเองก็กำลังกดดันอยู่สินะ ถ้าสามารถยิงนัดนี่เข้าเป้า ก็จะได้ตุ๊กตามาครอบครอง แต่ถ้าพลาด...ก็อด! ขอให้ได้ขอให้โดน เพี้ยง! ปัง! ตุ้บ! “ไชโย!!! เย่!!!” ฉันกรีดร้องด้วยความดีใจเสียงดังลั่นอย่างไม่อายใคร เมื่อลูกกระสุนที่ถูกยิงออกไปเข้าเป้าเต็มๆ เจ้าของซุ้มปรบมือให้ก่อนจะเดินไปหยิบตุ๊กตาหมาป่าที่ฉันอยากได้มาส่งให้ “เอ้า เก่งมากเลยนะน้อง พี่ไม่เคยเจอใครยิงแม่นแบบนี้มาก่อนเลย” “ขอบคุณครับ รับไปสิ” ราฟาเอลเอ่ยขอบคุณเจ้าของซุ้ม ก่อนจะหันมาบอกให้ฉันรับตุ๊กตามาจากพี่เขา ตัวของมันใหญ่ประมาณอ้อมแขนฉันพอดิบพอดี “ทำไมถึงอยากได้ตัวนี้ล่ะ หมีตัวนั้นน่ารักกว่าตั้งเยอะเลยไม่ใช่เหรอ” “ไม่หรอก ตัวนี้แหละดีแล้ว” “ตรงไหน ฉันว่าหน้าตามันดูเจ้าเล่ห์ยังไงชอบกล” เขาก้มหน้าเข้ามาดูหน้าของตุ๊กตาใกล้ๆ เห็นแบบนี้ก็อดยิ้มไม่ได้จริงๆ เหมือนกันอย่างกับแกะเลย “เหมือนนายไง” “หา?” “ฉันอยากได้ตุ๊กตาตัวนี้ก็เพราะว่ามันเหมือนนายไงล่ะ เวลาที่นายไปนอน...เอ่อ...ยังไม่กลับบ้าน ฉันก็จะได้นอนกอดเจ้าตุ๊กตาตัวนี้แทนไปเลย” ฉันลูบหัวตุ๊กตาอย่างเอ็นดู ยิ่งมองก็ยิ่งเหมือนเขาจริงๆ นั่นแหละ เป็นพี่น้องคลานตามกันมาหรือไงนะ “นี่หน้าตาฉันมันดูมีพิรุธตลอดเวลาเหมือนไอ้ตุ๊กตาตัวนี้จริงๆ เหรอ ฉันไม่ได้เพิ่งปล้นร้านทองมานะ จะได้ทำหน้าตาน่าสงสัยแบบนี้ทั้งวัน” “ไม่นะ นายทำหน้าตาแบบนี้จริงๆ โดยเฉพาะสายตาที่เหมือนมีแผนร้ายในใจตลอดเวลานี่ยิ่งเหมือนเลย” “เธอกำลังว่าฉันนะยัยตัวแสบ” “อ๊า! เจ็บนะตาบ้า” ฉันร้องเสียงหลงเมื่อถูกเขาจับดึงแก้มทั้งสองข้างจนยืด พอดึงจนยืดเสร็จก็บีบต่อจนฉันปากจู๋ จุ๊บ! “ส่วนนี่ค่าเหนื่อยของฉัน” ราฟาเอลฉวยโอกาสเพียงเสี้ยววินาทีที่ปล่อยมือออกจากแก้มของฉัน โน้มหน้ามาขโมยจุ๊บปากไปหนึ่งทีก่อนจะทำเป็นเดินลอยหน้าลอยตาไปทางโซนอาหารเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทิ้งให้ฉันยืนหน้าแดงอยู่คนเดียวท่ามกลางผู้คนมากมายที่มาเที่ยวสวนสนุก “ดูผู้ชายคนนั้นสิ หล่อเป็นบ้าเลย อย่างกับนายแบบแน่ะ” “ใช่ไหมล่ะ ฉันเห็นเขาตั้งแต่ตรงทางเข้าแล้ว หล่อวัวตายควายล้มเลยแหละ แต่น่าเสียดายนะ เหมือนเขาจะมีแฟนแล้ว แต่แฟนก็หน้าตางั้นๆ นะ” สาบานซิว่านั่นคือการกระซิบกระซาบคุยกัน! ฉันได้ยินเต็มสองหูเลยนะ ฮือ...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม