หลินรู้สึกหิวเพราะวันนี้เธอเพิ่งได้กินข้าวไปมื้อเดียวเอง ก่อนที่จะมาที่นี่ เธอก็ได้แวะซื้อแซนด์วิชกับนมที่ร้านสะดวกซื้อกินก่อนทางเข้าสถานีรถไฟฟ้าตอนเดินทางมายังโรงแรม หญิงสาวเดินไปที่ตู้เย็น เปิดดูว่ามีอะไรพอประทังความหิวได้บ้าง
"อู้หู ผลไม้เต็มเลย" แล้วเธอก็เลือกหยิบเอาแอปเปิลออกมาหนึ่งลูก กำลังจะเอาเข้าปาก นึกขึ้นได้ ว่าถ้ากัดลงไปแบบนี้ ลิปสติกที่ทาไว้ต้องเลอะแน่ ๆ
"ลองหามีดดีกว่า" เธอกำลังเขย่งเท้าตัวเอง เพื่อเปิดช่องต่าง ๆ ของเคาน์เตอร์ ตรงนั้น เพื่อหาของ คิดในใจ
‘ทำไมทำซะสูงเชียว ไม่เห็นใจพวกตัวเตี้ย ๆ บ้างเลย’
หลินเพลินในการหาของกิน โดยไม่ได้ยินว่ามีเสียงเปิดประตูเข้ามา พีคเดินเข้ามาทางด้านหลังของหญิงสาว หยุดนิ่งยืนมองเธอว่ากำลังทำอะไรอยู่
"ทำอะไรอยู่จ๊ะ" เขาเอ่ยถามขึ้น
หลินไม่ทันระวังตัว สะดุ้งตกใจ เซถลาลงมาทางด้านหลังทำท่าจะล้ม ชายหนุ่มใช้วงแขนโอบรั้งร่างบางเอาไว้ไม่ให้ล้ม ทำให้มือสัมผัสแผ่นหลังที่เนียนนุ่มของหลิน ทั้งสองสบตากัน หลินอายหน้าแดง เลือดในกายสูบฉีด ส่งยิ้มเขินให้กับเขา
"ขอโทษครับ ที่พี่ทำให้หลินตกใจ" พร้อมกับส่งยิ้มตอบกลับให้เธอ รีบปล่อยมือออกจากร่างบาง ทำท่าลูบหัวตัวเองอีกครั้งเหมือนเดิม
"หาอะไรกินน่ะค่ะ กำลังจะหามีดมาเฉาะแอปเปิลสักหน่อย กินเข้าไปทั้งลูกแบบนี้ กลัวลิปสติกจะเลอะน่ะค่ะ" หลินหัวเราะเบา ๆ แบบแก้เก้อ
แพรวาและกฤษเดินออกมาจากห้อง กฤษทันเห็นพฤติกรรมลูบหัวของเพื่อน
"ทำอะไรกันอยู่คะ" เสียงแพรวาดังขึ้น พีคหันมาพูด
"สงสัยหลินคงจะหิวแล้ว ทุกคนรอแป๊บนะ ขอเปลี่ยนชุดนิดหนึ่ง ไม่นาน เดี๋ยวขึ้นไปที่งานพร้อมกัน" แล้วเขาก็เดินไปยกหูโทรศัพท์เพื่อสั่งอาหารจากรูมเซอร์วิสให้ขึ้นมาส่งยังห้องพัก
"เอ้... พี่ภุชงค์ยังไม่มาอีกหรือคะ" แพรวาหันไปถามกับกฤษ
"คงอยู่ข้างบนงานแล้วแหละ ต้องเตรียมตัวหลายอย่าง" และทำมือป้องปาก
"มี Surprise ให้กับพีคมั้ง"
เสียงเปิดประตูห้องของพีค เขาเดินออกมา ทุกคนหันไปมองเป็นตาเดียวกัน
‘ว้าว ๆ หล่อจัง เฮ้ย... คนอะไรมองมุมไหนก็ดูดีไปหมด’ หลินคิดในใจ อมยิ้ม ใจเต้นตึกตัก เพราะแอบมองพีคทุกครั้งที่ไปที่ร้าน เขาดูสะดุดตา สุขุม ไม่เสียงดังขี้เล่นเหมือนภุชงค์ ไปทีไร นั่งนิ่ง ยิ้มนิด ๆ ชวนให้หลงใหล
แต่เมื่อได้รู้ว่าชายหนุ่มชอบคบและคิดกับพวกผู้หญิงอย่างไร ก็หวาด ๆ อีกทั้งเรื่องตัวหลินเอง ทำให้ไม่กล้า และไม่พร้อมจะหาแฟนนั่นเอง
พีคเดินออกมาด้วยสูทผ้าไหมสีกรมท่า รับกับรองเท้าคัทชูที่สวมใส่ ทำผมทันสมัย และที่หลินสะดุดตาคือ ที่คอปกเสื้อของเขา มีเข็มกลัดเนกไทที่หลินเพิ่งให้เป็นของขวัญกับพีคไปเมื่อตอนเจอกันวันนี้ เธอยิ้มดีใจที่เขาเห็นความสำคัญเล็ก ๆ ของเธอ
"ฮู้.... lol" กฤษและแพรตบมือ
"สมกับตำแหน่งใหม่จริง ๆ” กฤษออกปากชมเพื่อน
"ดูดีมากค่ะ" แพรวาผสมโรง
ชายหนุ่มยิ้มกว้าง ก้มมองดูตัวเองอีกครั้ง พร้อมกับยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู
"ไปกันได้แล้วมั้ง ได้เวลางานจะเริ่มแล้ว"
กฤษยื่นมือไปให้แพรวาจับ ฉุดเธอให้ลุกขึ้น เดินคล้องแขนพากันออกไปจากห้อง หลินเดินตามคนทั้งคู่ไป เมื่อทุกคนเข้ามาอยู่ในลิฟต์ พีคกดลิฟต์ไปที่ชั้นหกสิบ
หลินยืนชิดฝาผนังลิฟต์ด้านเดียวกับพีค แอบมองเขาด้วยแววตาชื่นชม ได้กลิ่นน้ำหอมแบบแมน ๆ จากชายหนุ่ม เธอสูดหายใจดมกลิ่นน้ำหอมของเขาอย่างจงใจ ยิ้มกรุ้มกริ่ม ^_^
‘ชื่นใจจริง ๆ มิน่าล่ะ ผู้หญิงพวกนั้น เพียงแค่ได้ควงสักอาทิตย์ ก็คงสุขใจแล้วมั้ง’ เธอเริ่มเห็นด้วยคิดคล้อยตามไปกับผู้หญิงที่เข้ามาใกล้ชิดพีค พวกหล่อนคงเคลิ้มหลงไปกับเสน่ห์ของผู้ชายคนนี้แน่ ๆ ทั้งที่แค่ยืนเฉย ๆ ยังดูดีมากหญิงสาวแอบกรี๊ดเล็ก ๆ อยู่ในใจ
ลิฟต์ขึ้นมาถึงที่ชั้นหกสิบ กฤษและแพรวาคล้องแขนกันนำออกไป หลินจะขยับตาม ชายหนุ่มรีบดึงข้อศอกบางไว้
"ช่วยดูสิคะว่า พี่ติดเข็มกลัดนี้ โอเคไหม เข้าที่หรือยัง"
หลินหันหน้าเข้าหาพีค ใช้มือขยับผ้าเช็ดหน้าที่อยู่ในกระเป๋าที่หน้าอกให้ดูดี แล้วลูบที่เข็มกลัดเนกไท ยิ้มกับตัวเอง
"ดูดีแล้วค่ะ"
ชายหนุ่มจับมือของเธอให้มาคล้องที่แขนของตนเอง หลินเงยมองหน้าพีคแบบงง และประหลาดใจ
"วันนี้ พี่ยืมเป็นคู่ควงหน่อยนะ" เขาพูดพร้อมส่งยิ้มนิด ๆ ให้กับหลิน
‘อ้าว... ทำไมมีผู้หญิงในสังกัดเป็นกุรุส’ เธอคิดในใจ พีคพูดขึ้นมาแบบรู้ทัน
"วันนี้เป็นวันสำคัญ หากพี่ควงกับสาว ๆ คนไหนไป พี่ต้องโดนที่บ้านตำหนิแน่ ๆ และก็กลัวจะโดนสาว ๆ หลายคนเข้าใจผิดด้วย อีกอย่างเลือกไม่ถูกด้วยว่าจะเป็นใครดีครับ" พูดจบก็พาเธอเดินเข้าไปในงาน
สี่คนเดินเข้าไปที่บริเวณการจัดงาน บนชั้นหกสิบที่สูงที่สุดของตึกนี้ มีสระว่ายน้ำขนาดไม่ใหญ่มากนัก อยู่ตรงกลางลานกว้าง การจัดวางสิ่งต่าง ๆ เป็นไปอย่างสวยงามและมีระดับ ประดับประดาไปด้วยหลอดไฟสีต่าง ๆ และหลอดไฟหยดน้ำแบบยาวสักหนึ่งฟุตเห็นจะได้ ประดับไว้อย่างสวยงาม
นักข่าวเมื่อหันมาเห็นเป็นพีค รีบเดินเข้ามาหาชายหนุ่ม กดรัวชัตเตอร์กันยกใหญ่ เขาใช้อีกมือตบที่หลังมือหลินเบา ๆ เธอหันยิ้มให้นักข่าว หันหน้าตามองกล้อง อย่างรู้งาน แล้วยังหันหามุมองศาที่สวยรับแสงแฟลชจากกล้องอีกด้วยพีคหันมาเห็น ยิ้มและหัวเราะในลำคอในความน่าเอ็นดูของเธอ
เสียงพิธีกรประกาศบนเวทีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
"Ladies and Gentlemen, on behalf of Grand SP Suriwong, we are say thank you very much for coming to celebration the grand opening with us this evening." เสียงพิธีกรชายเอ่ยนำ
เสียงพิธีกรหญิงสาว กล่าวเป็นภาษาไทย
"สวัสดีค่ะท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน ดิฉันในนามของโรงแรม แกรนด์ เอส พี สุริวงค์ กราบขอบพระคุณทุกท่านที่ให้เกียรติมาร่วมงานเลี้ยง แกรนด์โอเพนนิ่งในวันนี้ บัดนี้ได้ถึงเวลากล่าวเปิดงาน และต้อนรับแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน เรียนเชิญ คุณพีระ สุขประเสริฐ Managing Director ขึ้นกล่าวเปิดงานค่ะ"
"Ladies and Gentlemen, now is the time for Grand Opening. Please welcome to Mr. Peera Sukpresert, Managing Director of Grand SP Suriwong."
สิ้นเสียงพิธีกรชาย เสียงปรบมือดังกึกก้องไปทั้งชั้นหกสิบ พีคเดินขึ้นเวทีด้วยความสง่างาม แสงแฟลชและเสียงชัตเตอร์กดรัวมาจากหลาย ๆ มุม พีคกล่าวเปิดงานเป็นภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว เขาได้รับคำชื่นชมกับทุกคนที่มาร่วมงาน พูดให้สองสาวได้ยินกันอย่างหนาหู
หลินมองขึ้นไปบนเวทีด้วยความปลาบปลื้ม ยิ้มปริ่มสุข เพ้อในใจ
‘หล่อมาก ๆ กรี๊ด กรี๊ด กรี๊ด’ สุดท้ายจบด้วยประโยคที่ว่า ‘แล้วแกไปเกี่ยวอะไรกับเขาเนี่ย’
จบคำกล่าวสุนทรพจน์ พีคได้รับเสียงปรบมือเช่นเดิม เขาเดินลงจากเวทีด้วยความสง่างาม มีแสงสปอตไลต์ส่องตามพีค เมื่อเขาเดินเข้าไปทักทาย และกล่าวขอบคุณแขกที่ได้รับเชิญมาไปทั้งงาน
บนเวที มีเสียงเปียโนเริ่มบรรเลง ไฟสปอตไลต์หันกลับไปส่องยังนักดนตรีด้านบน ที่กำลังบรรเลงเพลงแสดงความยินดีเป็นภาษาอังกฤษ ทุกคนได้เห็น ชายหนุ่มรูปงาม ในชุดสีขาวทั้งชุด ทำผมทองนำสมัย กำลังบรรเลงเปียโน และร้องเพลงได้อย่างไพเราะ คือ
‘คุณภุชงค์ ศิริพัฒนยางกูร’ แขกปรบมือกันเกรียวกราว เสียงร้องของเขา ร้องเพลงที่เปล่งออกมาทำให้หลินถึงตะลึง หันไปสะกิดเพื่อน
"ว้าว... สุดยอดจังเลย ดูเท่ เสียงก็เพราะมาก ๆ” แพรวาพยักหน้า
"ทางเขาล่ะ คุณภุชงค์ ขวัญใจสาว ๆ”
แขกเริ่มทยอยกันตักอาหารที่ไลน์บุฟเฟ่ต์ แพรวาชวนหลินไปตักผลไม้และขนมไทยที่แอบเหล่ไว้ เพราะอิ่มจากอาหารที่พีคสั่งจากรูมเซอร์วิสให้ขึ้นมาเสิร์ฟที่ห้องกันแล้ว
พีค และกฤษ เข้ามาสมทบกับภุชงค์ เดินเข้าไปหาคุณพีรพัฒน์และคุณพรพรรณ พ่อและแม่ของพีค สองท่านรับไหว้ และกล่าวชมลูกชาย
"ดีมาก ๆ เลยลูก สมฐานะ ไม่เสียแรงที่เป็นลูกพ่อ" คุณพีรพัฒน์เอ่ยชม
"ขยันและตั้งใจทำงานนะลูก แม่อวยพรให้ลูกเจริญรุ่งเรือง" เสียงมาจากคุณพรพรรณ พีคเข้าไปนั่งลงกราบที่ตักคุณพ่อและคุณแม่ ในโต๊ะเดียวกัน มีชายสูงอายุหนึ่งคนนั่งอยู่ด้วยท่าทางน่าเกรงขาม แต่ใบหน้าเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม พีคคลานเข่าเข้าไปใกล้ และก้มลงกราบท่าน
"ตาขอให้หลานแข็งแรง มีมันสมองดีเยี่ยม รู้เท่าทันคน คิดไตร่ตรองเสมอก่อนจะทำการอะไร แล้วให้ความสำคัญกับพนักงานทุกคนเหมือนคนในครอบครัว ต้องรักดูแล และให้เกียรติเขานะลูก"
พีคก้มลงกราบรับคำ คุณตาตบหัวเบา ๆ