เผลอหลับไปนานแค่ไหนไม่รู้เหมือนกันค่ะ ตื่นขึ้นมาอีกทีฉันก็เจอคุณเธียร์นั่งทำงานอยู่ข้าง ๆ แล้ว เขากลับบ้านตรงเวลาก็เป็นงั้นเหรอ
"ตื่นแล้วเหรอ"
"ทำไมลิถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะคะ" จำได้ว่าฉันนอนอยู่ห้องของตัวเองนี่ ไหงตื่นขึ้นมาถึงมาอยู่ในห้องคุณเธียร์ได้ล่ะ
"นอนกับผัวสักคืนคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง" เขาพูดกับฉันแต่ตายังคงจ้องเอกสารในมืออยู่
"ไม่เป็นไรค่ะ ลิดีขึ้นแล้ว"
"เธอกำลังขัดใจฉัน?" เขาเลิกคิ้วถามฉันด้วยสีหน้าเรียบนิ่งเป็นเชิงบังคับสินะว่าฉันต้องนอนกับเขา
"ขอโทษค่ะ ถ้างั้นลิขอไปอาบน้ำก่อน"
เขาไม่ตอบอะไรแค่พยักหน้าเล็กน้อยแล้วหันไปสนใจเอกสารตรงหน้าต่อ "อย่าลืมกินข้าวกินยาด้วยล่ะ ฉันให้แม่บ้านเตรียมไว้ให้เธอแล้ว"
"..." ขาที่กำลังก้าวเดินกลับหยุดชะงักไปแทบจะทันที ฉันไม่ได้หูฝาดไปแน่นอน อยู่กันมาจะร่วมปีเพิ่งมีวันนี้แหละที่เขาแสดงความใส่ใจกับฉันแม้ว่ามันจะแค่เล็กน้อยก็เถอะ แต่ถึงยังไงฉันก็อยากเก็บเกี่ยวมันให้ได้มากที่สุดอยู่ดี อย่างน้อยช่วงเวลาหนึ่งก็เคยมีเขา
หญิงสาวปฏิเสธตัวเองไม่ได้เลยว่าเธอนั้นมีความรู้สึกดี ๆ ให้กับชายหนุ่ม ถึงแม้จะแค่ชั่วคราวก็เถอะเพราะถ้าไม่มีเขา พ่อของเธอก็คงจะไม่ได้รักษาตัวด้วยเช่นกัน เธอยอมแลกทุกอย่างขอแค่หัวใจของเธอไม่บอบช้ำไปมากกว่านี้ก็พอ
"คุณมะลิดีขึ้นแล้วเหรอครับ" พี่การ์ดเอ่ยทักทายเมื่อเห็นหน้าฉัน
"ค่ะ วันนี้หนูไม่ได้ไปรดน้ำดอกกุหลาบเลยมันจะเฉาตายไหมคะ"
"สบายใจได้ครับ ผมจัดการให้แล้ว"
"ขอบคุณนะคะ ลิไปหาอะไรกินก่อนดีกว่า"
"รอตรงนี้ดีกว่าครับเดี๋ยวผมให้แม่บ้านยกมาให้ ขืนคุณเป็นอะไรไปนายเล่นงานพวกเราตายแน่!"
"ก็ได้ค่ะ" ฉันยอมทำตามอย่างว่าง่ายพลางคิดอะไรไปด้วยเรื่อยเปื่อย คนไร้หัวใจอย่างคุณเธียร์น่ะเหรอจะเป็นห่วงฉัน ... แค่คิดก็ตลกแล้ว เราสองคนเหมือนอยู่คนละโลกกันด้วยซ้ำไปเป็นเส้นขนานที่ไม่สามารถบรรจบกันได้ซะมากกว่า
"ข้าวต้มทะเลหอม ๆ มาแล้วค่ะ" แค่เพียงไม่นานอาหารกับผลไม้มากมายถูกวางลงตรงหน้าฉันน่าทานมากเชียวล่ะแต่ก็ต้องแปลกใจค่ะ
"ป้าคะ ปกติมีแต่ข้าวต้มหมูไม่ใช่เหรอคะ" ฉันหันไปถามแม่บ้านเพราะมื้อนี้เหมือนจะมีแต่ของโปรดฉันทั้งนั้นเลย
"นายสั่งให้ทำค่ะ แถมยังบอกอีกว่านี่เป็นของโปรดของคุณมะลิ"
เหล่าแม่บ้านและการ์ดต่างพากันยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้กับความใส่ใจของผู้เป็นนายเพราะพวกเขารู้ดีว่านายของเขานั้นปากแข็งขนาดไหน แต่กลับตกม้าตายเพราะภรรยาจำเป็นอย่างเธอซะแล้ว
"ลิว่าเขาต้องกินยาผิดขวดแน่ ๆ ถึงได้เพี้ยนไปขนาดนี้" ปากบ่นแต่ก็กินนะคะ เรื่องอะไรจะหยิ่งใส่ นี่มะลิไงฟาดเรียบไม่เหลือ
"นี่ยาบำรุงค่ะ ทานหลังอาหารทันทีนะคะ"
"ขอบคุณค่ะ เอ่อ...รบกวนป้าไปสวนดอกไม้ข้างหลังเป็นเพื่อนหนูหน่อยสิคะ"
"สวนกุหลาบน่ะเหรอคะ"
"ใช่ค่ะ มันมืดแล้ว อีกอย่างวันนี้หนูยังไม่ได้ไปดูมันเลย" อ้อนหน่อยค่ะก็ฉันอยากไปดูให้เห็นกับตานี่นาว่ามันจะไม่ตายจริง ๆ
"ก็ได้ค่ะไปกันเถอะ แต่คุณต้องทานยาก่อนนะคะ"
"รับทราบค่ะ" รีบกินยาให้ไวค่ะ ก่อนจะพาตัวเองมาหยุดอยู่บริเวณสวนดอกไม้ เป็นอย่างที่พี่การ์ดบอกมันไม่ตายและไม่เหี่ยวเฉาจริง ๆด้วย รอเวลาที่มันจะผลิดอกสวยงามออกมาให้ฉันเห็นเท่านั้นเอง
ไม่รู้ว่าใช้เวลาตรงนี้ไปนานเท่าไหร่ เงยหน้าขึ้นมาอีกทีเป็นจังหวะเดียวกับที่สายตาดันเหลือบไปเห็นคุณเธียร์ยืนอยู่ตรงระเบียงซึ่งเขาเองกำลังมองมาทางฉันพอดีและนั่นก็ทำให้เราสบตากันโดยบังเอิญ จริงสิ! ฉันลืมสังเกตไปได้ยังไงนะว่าสวนกุหลาบมันอยู่ตรงกับห้องของเขาพอดี
"กลับเข้าข้างในกันเถอะค่ะน้ำค้างลงแล้วเดี๋ยวคุณจะไม่สบายไปกันใหญ่"
"ค่ะ"
ตอนนี้เป็นเวลาสามทุ่มแล้วค่ะ ฉันรีบพาตัวเองไปอาบน้ำเตรียมตัวเข้านอนทันที ใช้เวลาราวครึ่งชั่วโมงก็เสร็จแล้ว
แกรก!
"..."
"ทำหน้าให้มันดี ๆ ฉันไม่ได้อยากนอนกับตุ๊กตายางซะหน่อย"
"แล้วทำไมไม่นอนกับคุณเอวาล่ะคะ"
"แล้วตรงนี้มีเอวาไหมล่ะ?" เขาถามสีหน้าเรียบนิ่ง นี่ฉันต้องมานอนทับที่คนอื่นงั้นเหรอ แต่จะว่าไปคุณเอวาเขาไม่ได้มาด้วยนี่แถมเสื้อผ้าของใช้ก็ถูกย้ายออกไปแล้วอีกต่างหาก
"ไหนเธอบอกว่ารีดผ้าเป็นหน้าที่ของภรรยาไง งั้นดูแลคนป่วยก็คงเป็นหน้าที่สามีอย่างฉันด้วยสิ" รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏบนใบหน้าของเขา ฉันไม่ได้ตาฝาดหรือฝันไปแน่นอน ไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไรแต่ช่วงเวลานี้ฉันขอเก็บมันไว้แล้วกันนะ ตอนนี้ยังมีโอกาสรักฉันก็อยากรักให้เต็มที่ถึงเวลานั้นเมื่อไหร่ฉันจะไม่เสียดายมันเลยสักนิด