ตีสามกว่าๆ นิลนารารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาภายในห้องที่เต็มไปด้วยความมืดสลัว มีเพียงแต่เสียงจากดวงจันทร์ที่ส่องผ่านผ้าม่านเนื้อดีเข้ามาเท่านั้นที่ให้แสงสว่าง หยาดน้ำตาไหลรินออกมาจากสองดวงตา ร่างอรชรบอบช้ำรีบสวมเสื้อผ้า มือไม้ยังคงสั่นเทา สมองยังคงไม่หยุดคิดถึงฉากสวาทร้อนแรงที่เพิ่งเกิดขึ้น
นับครั้งไม่ถ้วน...
ชาร์ล... ผู้ชายที่หล่อนแอบรักกระทำกับร่างกายของหล่อนอย่างเหี้ยมโหด รุนแรง ร่างสาวบอบช้ำ แดงก่ำไปทั้งตัว โดยเฉพาะตรงนั้น... ตรงที่ถูกรุกรานยาวนาน มันเจ็บระบมจนต้องนิ่วหน้าทุกครั้งยามที่ก้าวเดิน
มือเล็กยกขึ้นปิดปากเพื่อกลั้นเสียงสะอื้นไห้เอาไว้ พยายามบอกตัวเองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นเพียงแค่ความฝัน แต่กลับไม่อาจจะช่วยเยียวยาอะไรได้ เมื่อหล่อนรู้อยู่เต็มอกว่ามันคือความจริง มันคือเรื่องจริง และท่อนเอ็นของชาร์ลก็ฝังลึกเข้ามาในร่างกายของหล่อนจริงๆ
พรหมจรรย์ถูกพร่าผลาญไปอย่างเหี้ยมโหด แต่ก็โทษเขาไม่ได้ ในเมื่อหล่อนเป็นคนหลงทางเข้ามาหาพยัคฆ์ร้ายอย่างเขาเอง
น้ำตาไหลอาบแก้ม ไหลไม่หยุด และตัดสินใจที่จะเดินออกไปจากที่นี่ พร้อมกับทิ้งความอัปยศอดสูเอาไว้เบื้องหลัง แต่ก้าวไปข้างหน้าเพียงแค่สองก้าว ก็ต้องชะงักเท้า และหมุนตัวเดินกลับมาที่ข้างเตียงอีกครั้ง
หัวใจของหล่อนลุ่มหลง และยิ่งถลำลึกมากขึ้นเมื่อได้เป็นของเขาแล้ว แม้จะรู้ดีว่าในสายตาของชาร์ล หล่อนเป็นเพียงแค่อีตัว แต่หัวใจไม่รักดีก็ยังคงรัก ยังคงแอบรักเขาต่อไปไม่มีทีท่าว่าจะหยุดรักได้เลย
“ลาก่อน... ค่ะ”
น้ำเสียงสั่นเครือดังออกมาจากกลีบปากบวมช้ำ พยายามจะตัดใจเดินจากไป แต่หัวใจกลับอาลัยอาวรณ์เหลือเกิน
ขอมองเขา... ขอมองเขาเป็นครั้งสุดท้าย...
ดวงตากลมโตเลื่อนมองใบหน้าหล่อเหลาของคนที่หลับสนิทผ่านม่านน้ำตา ก่อนจะเลื่อนต่ำลงมายังหน้าอกกว้างรกเลื้อยไปด้วยเส้นขนสีเข้ม หน้าอกนี่ไงที่หล่อนฝากรอยข่วนจากเล็บเอาไว้มากมาย และต่ำลงไปกว่านั้น... มันยังคงหลับใหลไม่ต่างจากเจ้าของ และขนาดก็ลดลงมาก แต่ก็เป็นมันนั่นแหละที่เข้าไปในร่างกายของหล่อน และทำให้หล่อนกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด และความเสียวซ่านในเวลาเดียวกัน
หญิงสาวแก้มแดงระเรื่อขึ้นมา เมื่อสมองไม่รักดีหวนคิดไปถึงจังหวะกระหน่ำที่บั้นท้ายทรงพลังกระแทกกระทั้นเข้าใส่ ไม่น่าเชื่อว่าคนเราจะสามารถเคลื่อนไหวได้รวดเร็วแบบนั้น โดยเฉพาะยามที่มีหล่อนอยู่ใต้ร่าง
บ้า... หยุดคิดได้แล้วนิลนารา และไปจากที่นี่ซะ ให้ทุกอย่างมันจบลงไปตลอดกาล
มือเล็กยกขึ้นป้ายน้ำตาทิ้ง ก่อนจะตัดสินใจเดินออกไปจากห้องนั้นทั้งน้ำตา
คนที่นอนหลับเป็นตาย เพราะก่อนหน้านี้ใช้เรี่ยวแรงไปจนหมดตัวรู้สึกตัวขึ้นตอนตีสี่กว่าๆ เขาพลิกตัวและวาดแขนไปที่ที่นอนข้างตัว หวังว่าจะได้ร่างนุ่มนิ่มที่หอมกรุ่นเข้ามากกหอด แต่กลับคว้าได้มาแค่เพียงหมอนข้างเท่านั้น แม่ผู้หญิงที่เขาสอดใส่จนดิ้นทุรนทุรายด้วยความเสียวมาหลายชั่วโมงติดหายไป
มือใหญ่เอื้อมไปกระตุกโคมไฟจนสว่างวาบ ก่อนจะพบว่าที่นอนข้างตัว และภายในห้องว่างเปล่าไร้เงาของเจ้าหล่อน
“หนีไปจนได้”
เขาเต็มไปด้วยความหงุดหงิด ยกมือขึ้นเสยผมที่ตกลงมาปรกหน้าผากอย่างรำคาญ ร่างหนุ่มยังคงโหยหาความหวานฉ่ำและคับแน่นของเจ้าหล่อนไม่สร่างซ่า ราวกับเสพติด
ท่อนชายแข็งชันและพร้อมจะดำดิ่งขึ้นมาอย่างน่าตกใจ
“บ้าชิบ”
เขาตวัดขาจะก้าวลงจากเตียง แต่ผ้าห่มที่ถูกเลิกขึ้น ทำให้สายตาคมกริบปะทะเข้ากับหยดเลือดเล็กๆ หลายหยดบนผ้าปูเตียงสีขาว
หัวใจของเขาราวกับถูกหมัดของนักมวยรุ่นใหญ่ซัดกระหน่ำเข้าสักร้อยหมัด มันอ่อนเปลี้ยไร้เรี่ยวแรง และเต็มไปด้วยความละอายใจ
“ฉันไม่ใช่... คนที่คุณพูดถึง... ปล่อยฉัน... ได้โปรดปล่อยฉันไป...”
คำขอร้อง คำคร่ำครวญร้องวิงวอนขออิสรภาพของเจ้าหล่อนดังลั่นอยู่ในหัว
นี่เขาทำอะไรลงไป...!
หยาดน้ำตา และคำวิงวอนของหล่อนดังลั่นไม่หยุด และมันก็ทำให้เขาทรมานเหลือเกิน จนต้องถลาไปที่โทรศัพท์มือถือที่ชาร์ตแบตเตอรี่อยู่อย่างรวดเร็ว
เขาจะต้องรู้ให้ได้ว่าเดวิดไปได้หล่อนมาจากไหน และทำไมถึงเลือกสาวพรหมจารีมาให้เขา ทั้งๆ ที่มันคือข้อห้ามข้อแรกสำหรับผู้หญิงที่จะขึ้นเตียงกับเขาเลยทีเดียว
นิ้วเรียวกดเปิดเครื่อง และเมื่อหน้าจอโทรศัพท์ติด ทั้งสายมิสคอล และข้อความจากเดวิดมากมายก็เด้งขึ้นให้เห็นทันที
ชายหนุ่มขมวดคิ้วอย่างแปลกใจ และกดอ่านข้อความจากเดวิดเป็นอันดับแรก
‘ผู้หญิงคนนั้นมาไม่ได้ครับท่านประธาน เธอประสบอุบัติเหตุ ท่านประธานต้องการให้ผมส่งคนอื่นไปแทนไหมครับ ตอบผมด้วยนะครับ’
สิ่งที่ค้างคาอยู่ภายในใจกระจ่างชัดใสแจ๋วราวกับกระจกเงาในทันที
“นี่เธอไม่ใช่... ผู้หญิงที่เดวิดส่งมาให้ฉันหรอกหรือ งั้นเธอก็ไม่ได้ขายตัวน่ะสิ”
รอยยิ้มน้อยๆ ระบายเต็มใบหน้าหล่อจัด และก็ไม่อาจจะหักห้ามความพึงพอใจจากการร่วมรักเมื่อคืนนี้ได้
เขาลุ่มหลง ติดใจ และยิ่งรู้ว่าเจ้าหล่อนไม่ใช่ผู้หญิงขายตัวคนนั้น เขาก็ยิ่งเต็มไปด้วยความต้องการที่มีต่อหล่อน
นิ้วยาวจิ้มโทรศัพท์ และต่อสายหาเดวิดคนสนิททันที
“ท่านประธานครับ ผมขอโทษนะครับ ผมติดต่อท่านประธานตั้งแต่เย็น แต่ติดต่อไม่ได้เลยครับ” เดวิดที่ไม่ยอมหลับยอมนอน รอสายของชาร์ลรีบละล่ำละลักมาตามสาย
“แบตฉันหมดน่ะ”
“เรื่องนั้น... ผมจะรีบส่งผู้หญิงคนใหม่ไปให้ท่านประธานนะครับ แต่คงต้องพรุ่งนี้ เพราะต้องพาไปตรวจร่างกายก่อนนะครับ”
“ไม่ต้องส่งใครมาแล้ว”
“ว่ายังไงนะครับ?”
“ฉันบอกว่าไม่ต้องส่งใครมาแล้ว อ้อ แล้วก็ยกเลิกนัดกับผู้หญิงคนอื่นให้ฉันด้วยนะ ฉันไม่ว่างแล้ว”
“ท่านประธาน... พูดเล่นหรือเปล่าครับเนี่ย”
“ฉันไม่ได้พูดเล่น ฉันจะไม่ใช้บริการผู้หญิงพวกนั้นอีกแล้ว”
เดวิดตกใจกับความเปลี่ยนแปลงของชาร์ลจนพูดไม่ออก
“ฉันเจอคนที่ถูกใจแล้วน่ะ”
“ท่านประธาน... เจอใครเหรอครับ”
“เอาไว้นายจะรู้เอง ไม่มีอะไรแล้วไปนอนเถอะ อ้อ แล้วพรุ่งนี้ไม่ต้องมานะ ฉันให้ลาพักผ่อนหนึ่งวัน”
“ขอบคุณมากครับ ท่านประธาน”
ชาร์ลระบายยิ้มน้อยๆ
“พรุ่งนี้เรียกผู้จัดการฝ่ายบุคคลให้มาพบฉันแต่เช้าด้วยนะ”
“มีอะไรผิดพลาดหรือเปล่าครับท่านประธาน”
“ไม่มีอะไรผิดพลาดหรอก แค่ฉันจะทำในสิ่งที่ควรจะทำเท่านั้นเอง ทำตามที่ฉันสั่งก็พอ”
“ครับ ท่านประธาน”
ชาร์ลกดตัดสายสนทนาจากลูกน้องคนสนิทแล้ว ก็ยืนกอดอกอมยิ้มอยู่ภายในห้องพัก ดวงตาของเขายังคงเต็มไปด้วยความปรารถนา ก่อนจะพาร่างเปลือยเดินไปหยุดที่หน้าต่าง และจ้องมองออกไป
“คงเป็นพระพรหมสินะ ที่โยนเธอเข้ามาในห้องของฉัน”
หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความสุข ความพึงพอใจจากเซ็กซ์ร้อนฉ่าของสาวน้อยไร้เดียงสายังคงทำให้เขาอิ่มเอมไม่คลาย
“พรุ่งนี้เช้าเจอกัน คนสวย...”