ตอนที่ 1-1

1583 คำ
ย้อนอดีต......... ณ จังหวัดภูเก็ต “นรินดา” สาวน้อยหน้าคมกำลังนั่งหน้างอนใส่พ่อและแม่ของตัวเอง ที่พยายามจะส่งเธอไปเรียนมหาลัยในกรุงเทพเหมือนกับพี่ชายของเธอ ทั้งๆที่เธอก็สามารถเรียนที่ภูเก็ตนี้ก็ได้ แต่ทำไมต้องไปเรียนที่นั่นด้วยเธอก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน “อย่ามาทำแบบนี้ไวน์ แม่บอกแล้วไงว่าแกต้องไปเรียนที่นั่น แกจะได้มีเพื่อนมีสังคมดีๆ พี่แกก็ยังจบที่นั่นเลย ทำไมแกถึงไม่อยากไปห้ะ” ปาริดาเอ่ยถามลูกสาวด้วยเสียงโมโห อย่างไม่เข้าใจว่าทำไมลูกสาวถึงไม่อยากไปเรียนในกรุงเทพ ทั้งๆที่ใครๆก็อยากจะไปกันทั้งนั้น “โอ๊ยแม่ กรุงเทพวุ่นวายจะตายไป คนก็ไม่ได้จริงใจมีแต่สังคมสวมหน้ากาก ไวน์ไม่อยากไปหรอก อีกอย่างโง่ๆอย่างไวน์ไปเรียนมหาลัยอินเตอร์แบบนั้นคงไปไม่รอดอ่ะ ไวน์ไม่ใช่พี่นายนะที่เรียนจบได้เกียรตินิยมน่ะ ” นรินดาบอกเหตุผลของตัวเองไปแล้วไม่ยอมไปท่าเดียว “ลูกพ่อเก่งจะตายทำไมจะไปไม่รอดล่ะ เรียนเอาแค่จบก็พอลูก ไม่ต้องไปแข่งใครเขาหรอก พ่อแค่อยากให้ลูกเลิกติดพ่อกับแม่แล้วลองไปใช้ชีวิตในแบบวัยรุ่นดู พ่อว่ามันก็ดีนะ ลูกจะได้ค้นพบตัวตนของตัวเอง แล้วเรียนๆไปลูกก็จะได้ความรู้เอามาช่วยดูแลธุรกิจที่ฟาร์มของเราไง ลูกจะให้พ่อพึ่งตานายมาคอยดูแลงั้นเหรอ ฟาร์มพ่อก็เจ้งกันพอดี พี่แกมันเป็นนักบริหาร มันมาทำฟาร์มแบบลูกไม่ได้หรอก ถ้าลูกไปเรียนพ่อจะซื้อรถให้ใหม่เลย เอารุ่นไหนก็บอก พ่อจะจัดให้” สิทธิกรที่รู้จักวิธีหว่านล้อมลูกสาวก็เอารถยนต์มาล่อ เพราะเขาอยากให้ลูกสาวได้เจอสิ่งดีๆที่รออยู่ แล้วที่สำคัญเขาอยากจะให้ลูกสาวมาสานต่อฟาร์มไข่มุกของเขาในอนาคตด้วย “ถ้าแกไม่ไปแม่จะโทรไปหาตานายให้มารับแกไปอยู่ด้วย เพื่อเรียนรู้งานกับพี่แก จะเอาไหมล่ะ ถ้าตานายมันรู้ว่าแม่เสียค่าเทอมเป็นแสนๆแล้วแกไม่ไป ตานายมันคงร้อนหูน่าดูเลยว่าไหม ฮ่าๆ” ปาริดาขู่ลูกสาวออกไป เพราะรู้ดีว่าลูกสาวของเธอนั้นกลัวพี่ชายขนาดไหนเพราะรายนั้นสั่งทำอะไรก็ยอมไปหมด “ไม่เอาๆนะแม่ อย่าบอกพี่นายนะคะ พี่นายบ่นจนไวน์หูชาจะทำยังไงคะ ไวน์ยิ่งโง่ๆอยู่ด้วย อือๆ ไวน์ไปเรียนที่กรุงเทพก็ได้ แต่ขอรถหนึ่งคันแล้วก็คอนโดหนึ่งห้องนะคะ ไม่งั้นไวน์ไม่ไป” นรินดาพูดไปแบบจำยอม เพราะเธอไม่อยากจะไปอยู่กับไอ้พี่ชายจอมขี้บ่น ที่บ่นเรื่องความโง่ของเธอได้ทุกครั้งที่เจอ กะอีแค่เธอสอบได้เกรดสองกว่าๆทำมาบ่น “จัดไปเลยลูกแม่ แม่พร้อมให้ลูกเสมอจ้ะ” ปาริดาพูดไปก็ยิ้มอย่างดีใจ เพราะที่เธอคะยั้นคะยอให้ลูกสาวไปเรียนกรุงเทพก็เพราะอยากให้ลูกสาวได้ดี   อีกด้านหนึ่งในกรุงเทพมหานคร ณ บ้านตระกูลสิริภักวานิช “ปาร์ค ปากรณ์” ว่าที่คุณหมอสุดหล่อที่เรียนคณะแพทย์ศาสตร์ชั้นปีที่สาม ก็กำลังเร่งแต่งตัวเพื่อไปรับน้องในเช้าวันนี้ เพราะตอนนี้ทางคณะกำลังทำกิจกรรมรับน้องใหม่ที่เข้ามาใหม่ เขาในฐานะรุ่นพี่ก็ต้องไปทำความรู้จักและให้คำแนะนำกับน้องๆในฐานะของรุ่นพี่ ที่ทางเพื่อนๆจงใจเลือกเขาเป็นตัวแทนของรุ่นไปพบปะกับน้องๆ เพียงเพราะเขาเป็นหน้าเป็นตาให้กับรุ่นได้ และแล้วโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นรัวๆ ก่อนจะกดรับสายไปเมื่อเห็นว่าเพื่อนสาวโทรเข้ามา “ปาร์ค วันนี้ให้เจนไปรับไหม พอดีเจนผ่านคอนโดปาร์คพอดีน่ะ”  เจนจิราเพื่อนสาวที่เรียนหมอมากับปากรณ์ โทรมาหาเพื่อที่จะแวะรับปากรณ์ไปด้วย เพราะเธอกับเขาจะได้ใกล้ชิดกัน เนื่องจากเธอแอบชอบเขามานานโดยที่เขาไม่รู้ และเพราะคำว่าเพื่อนมันจึงทำให้เธอเข้าถึงตัวเขาได้ดีกว่า “ไม่เป็นไร วันนี้ปาร์คไม่ได้นอนคอนโด ปาร์คไปเองสะดวกกว่า เจนไปมหาลัยก่อนเลย แค่นี้นะ” ปากรณ์พูดจบก็กดวางสายไปทันที ก่อนจะเดินลงไปหาป้าและพี่ๆที่อยู่ข้างล่าง โดยไม่ได้สนใจเพื่อนสาวเลยสักนิด “เฮ้อ แห้วอีกแล้วสิเรา” เจนจิราพูดออกไปแบบเสียดาย ทั้งที่เธออุตส่าห์ขับรถจะมารับเขาที่คอนโดอยู่แล้ว ไม่รู้จะใจแข็งไปถึงไหน ผู้ชายอะไรจีบยากชะมัดเลย แต่ช่างเถอะ คนดีๆมันก็ควรจะเล่นตัวหน่อยสิ เจนจิราคิดไปก็รีบขับรถไปมหาลัยเพื่อไปรอปากรณ์ที่นั่น “อรุณสวัสดิ์ครับป้ากัน พี่ปาล์ม พี่เปรม” ปากรณ์เดินลงมาจากชั้นบนก็เข้ามาทักทายทุกคน โดยเฉพาะป้ากันติมาที่เขานั้นรักและเคารพเหมือนกันแม่ของเขาคนหนึ่ง เนื่องจากพ่อและแม่ของเขาเป็นเอกอัคราชทูตอยู่ต่างประเทศจึงไม่ได้อยู่ไทยดูแลพวกเขาเท่าไหร่นัก พวกเขาทั้งสามพี่น้องก็ได้ป้ากันนี่แหละคอยดูแลมาตั้งแต่เล็กๆ “วันนี้ป้าให้แม่บ้านเขาเตรียมของโปรดเราไว้แล้ว ไปนั่งสิลูก” กันติมาพูดไปก็ยิ้มแล้วเอามือตีแขนหลานชายเบาๆอย่างเอ็นดู “วันนี้ผมมีรับน้องครับป้า คงทานไม่ทันแล้ว ขอตัวเลยนะครับป้า ไปนะพี่ปาล์ม พี่เปรม อ่อ แล้วคืนนี้ไม่ต้องพาสาวๆไปคอนโดผมอีกนะ ช่วงนี้ผมต้องการความเงียบสงบ” ปากรณ์เอ่ยบอกทุกคนไปก็รีบเดินออกไปด้านนอกทันที เพราะเขาทนมาพอแล้ว เมื่อพี่ชายทั้งสองชอบเอาสาวๆมานอนที่คอนโดของเขา จนเขาอ่านหนังสือแทบไม่ได้ เพราะมีเสียงโอดร้องครวญครางดังออกมา นี่ถ้าเขาไม่โดนขู่เรื่องที่แอบมีหนังสือโป๊ไว้ในห้องล่ะก็ เขาก็คงไม่ยอมมานานถึงขนาดนี้ ทั้งๆที่หนังสือนั่นมันไม่ใช่ของเขาเลยสักนิด มันเป็นของไอ้บาส เพื่อนที่ชอบมานอนคอนโดของเขาต่างหาก แต่พี่ชายทั้งสองก็ไม่ยอมฟัง วันนี้เขาจะไม่ยอมอีกต่อไป “ไอ้น้องเวร” พี่ชายทั้งสองถึงกับแอบด่าปากรณ์ในใจออกไปอย่างอดไม่ได้ ที่ไอ้น้องตัวดีมันเอาเรื่องนี้มาพูดต่อหน้าป้าของเขาที่พร้อมจะจัดการพวกเขาตลอดเวลา “เย็นชากับพี่มันจริงๆไอ้น้องคนนี้ อยากจะเห็นตอนมันมีเมียจริงๆว่ามันจะเย็นชาแบบนี้ไหม” ปาล์ม ปริญอายุยี่สิบเจ็ดปี เป็นพี่ชายคนโตของบ้านเอ่ยพูดตามร่างน้องชายที่เดินออกไปแล้ว ตั้งแต่เด็กจนโต น้องชายคนนี้มันใช้ชีวิตแบบมีความเป็นส่วนตัวสูงมาตั้งแต่เด็ก จนเขาและทุกคนเข้าไม่ถึงมันสักที “ไม่ต้องมาเนียนเลยนะ ป้าอุตส่าห์ขายคอนโดพวกแกไป เพื่อที่จะได้หยุดความเจ้าชู้ของพวกแกสองพี่น้องได้บ้าง แต่นี่แกสองคนกล้ามากนะที่เอาสาวไปนอนคอนโดของน้องน่ะ ต่อไปถ้าป้าได้ยินเรื่องแบบนี้อีก เรื่องนี้ถึงหูพ่อแม่พวกแกแน่ๆ” กันติมาขู่ออกไป เพราะไม่รู้จะทำยังไงกับความเจ้าชู้ของหลานทั้งสองแล้ว ขายคอนโดก็แล้ว ยึดเงินในบัตรก็แล้ว ยังจะมีความพยายามพาสาวไปนอนคอนโดน้องชายอีก เธอล่ะอยากจะเป็นลม “ครับๆ ผมสองคนจะไม่ไปยุ่งคอนโดของหลานรักป้าอีก อย่าโมโหไปสิครับ” ปริญตอบไปแบบกวนๆ เพราะใครบอกให้ป้ามายึดคอนโดนของเขาไปขายเองล่ะ เขาไม่มีที่พาสาวๆไปก็ต้องไปคอนโดของน้องรักสิ มันมีตั้งสองห้อง แบ่งๆกันใช้จะเป็นอะไรไป “พี่ปาล์ม ผมว่าไอ้ปาร์คนี่มันชักจะหล่อเกินหน้าเกินตาเราสองคนแล้วนะพี่ ดูสิ ทั้งหุ่นทั้งหน้า มันกินขาดไปหมดเลย ทำไมพ่อกับแม่ไม่ให้มาเท่าๆกันนะ เฮ้อ ขนาดป้าก็ยังรักหลานไม่เท่ากันเลย” เปรม ปติภพ อายุยี่สิบสี่ปี พี่ชายคนรองของบ้านเอ่ยพูดไปแบบอิจฉาน้องตัวเอง ที่มันหน้าตาหล่อเหลาจนเกินพี่ๆของมันไปแล้ว แถมยังได้ความเอ็นดูจากผู้เป็นป้าไปเต็มๆ เขาจึงพูดหาเรื่องแกล้งผู้เป็นป้าไปแบบขำๆ ก่อนจะขยิบตาส่งซิกให้พี่ชายเข้าใจ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม