ย่งยี่ตื่นขึ้นมาในตอนสาย อาการหล่อนดีขึ้นมากเมื่อได้หลับเต็มตื่นเป็นคราแรกในช่วงหลายวัน หลังจากที่ก่อนหน้านี้รู้สึกกังวลใจจนนอนไม่หลับแม้สักคืน แต่เมื่อกลับมามีสติครบ ความกังวลใจก็กลับมาจู่โจมหล่อนอีกอยู่ดี หญิงสาวผิวขาวซีดในวัย35นั่งเหม่ออยู่บนเตียงอีกต่อไปอีกครู่ใหญ่ ก่อนที่นางรับใช้จักเข้ามาเรียกสติ “คุณย่งยี่จักรับเป็นข้าวต้มไหมเจ้าคะ น่าจักเหมาะกับคนป่วย” บ่าวร่างท้วมหญิงกลางคนวัยล่วง50ถาม เพื่อจักได้ไปเตรียมสำรับถูก “ไม่เอาล่ะแม่แจ่ม ฉันจักไปกินที่ตลาดเอาดอก” ย่งยี่ว่า “คุณจักออกไปข้างนอกหรือเจ้าคะ ให้บ่าวตามไปด้วยไหมเจ้าคะ เผื่อเกิดเป็นลมเป็นแล้งขึ้น” นางแจ่มถามด้วยห่วงใย ถึงหล่อนจักไม่ใช่บ่าวรับใช้โดยตรง เพราะย่งยี่ไม่นิยมมีบ่าวรับใช้ดังนางคนอื่น ด้วยสำเหนียกว่าตนก็เป็นบ่าวในเรือนคนหนึ่ง ที่บังเอิญโชคดีกว่าบ่าวคนอื่นก็เท่านั้น แต่ด้วยย่งยี่ก็ดีกับนางทั้งยังให้เกียรติเสมอหนึ่งฐา