ตอนที่สอง เผชิญหน้ากับซาตาน 2

937 คำ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก อารามร้อนใจทำให้พราวตะวันไม่ได้ฟังเสียงอนุญาติให้เข้าห้องจากอีกฝ่าย เธอเปิดประตูเข้าไปอย่างกระทันหันและเห็นว่าผู้จัดการนั่งอยู่คนเดียวเธอก็ถลาเข้าไปหารุ่นพี่ทันที “พี่โก้ ช่วยโยโกะด้วยค่ะ” เธอบอกน้ำเสียงสะอื้น น้ำตาใสๆ ไหลนองเต็มหน้า”แม่โยโกะไสบาย แม่เป็นมะเร็ง โยโกะจะทำไงดี โยโกะอยากไปหาแม่ค่ะ” “โยโกะ ใจเย็นก่อน เดี๋ยวเอ่อ” อดิศักดิ์แทรกพูดได้แค่นั้นรุ่นน้องของเขาก็ฟูมฟายเล่าต่อ “โยโกะอยากกลับเมืองไทย ให้โยโกะย้ายกลับเมืองไทยได้ไหมคะ พี่โก้ช่วยเดินเรื่องให้ที ถ้าพี่โก้อยากจะคิดเงิน โยโกะก็ยินดีค่ะ”พราวตะวันรู้เลาๆ ว่าอดิศักดิ์นั้นเป็นคนที่ชอบรับเงินใต้โต๊ะจากพนักงานหากอยากเลื่อนตำแหน่ง เมื่อก่อนเธอก็ไม่ได้สนใจเพราะตำแหน่งเธอเลื่อนจากยอดขายที่เธอทำได้อยู่แล้ว แต่เห็นทีคราวนี้จะต้องใช้วิธีที่ไม่ถูกต้องดูบ้าง ถึงจะเสียเงินแต่ว่ายังมีงานและได้ดูแลแม่เธอก็ยอม ให้ตายเธอก็ยอมแค่ขอให้แม่เธอหายดีเท่านั้น เสียงกระแอมจากคนที่ยืนพิงเสาอยู่อีกมุมหนึ่งของห้องทำให้พราวตะวันและอดิศักดิ์หันไปมอง ร่างสูงนั้นมองหญิงสาวที่น้ำตานองหน้าอยู่อย่างพิจารณา และพึงใจ หากแต่ พราวตะวันกลับไม่สนใจเขา เธอคิดว่าคงเป็นลูกค้าที่มาติดต่อกับเจ้านายของเธอ และคงฟังไม่รู้เรื่อง ตอนนี้เธออยากได้คำตอบจากอศักดิ์มากกว่า “พี่โก้คะ ว่าอย่างไรคะ พี่โก้จะช่วยโยโกะได้ไหม” “เรื่องช่วยพี่ช่วยได้เอ่อ โยโกะ” ผู้จัดการหนุ่มทำเป็นเหมือนว่าไม่กล้าพูด “แต่ว่าเอ่อ ไม่ต้องให้เงินพี่ก็ได้ พี่ยินดีช่วย” “อดิศักดิ์ คุณไปเอาเอกสารกับเลขาผมที่สำนักงานใหญ่ เรื่องที่เราคุยกันวันนี้เป็นอันว่าจบผมและจะลืมมันไป ถ้าคุณทำตาที่ผมสั่ง” ไมเคิลบอกเป็นอังกฤษ อดิศักดิ์อึ้งไปถนัดตาเมื่อได้ยิน เอกสารที่ไมเคิลให้ไปเอานั้นคือใบลาออก เนื่องจากอดิสักดิ์บริหารงานโดยไม่โปร่งใส ไมเคิลจึงเสนอให้เขาลาออกอย่างเงียบๆ เพื่อแลกกับการที่เดอ ลา ครูเซด์จะไม่เปิดโปงประวัติของเขา นับว่าเป็นความปราณีที่สุดที่ไมเคิลให้ แต่เขาไม่คิดว่ามันจะเป็นตอนนี้ ตอนที่เขากำลังจะช่วยพราวตะวันให้ได้ตามที่ต้องการ เขาเริ่มทำคะแนนกับเธอมาตั้งนาน แต่พอตอนจะได้เป็นฮีโร่ในสายตาของคนที่ตัวเองชอบ เขากลับต้องถูกไล่ออก “แต่ คุณไมค์ครับ” “อย่าเรียกชื่อเล่นผม ผมเป็นเพื่อนคุณหรือไง” น้ำเสียงที่พูดนั้นเป็นโทนเสียงธรรมดาของผู้พูด หากแต่คนที่อยู่ในห้องกลับรับรู้ได้ถึงความเยือกเย็นได้ชัดเจน โดยเฉพาะพราวตะวันที่ยืนตัวลีบทำอะไรไม่ถูกอยู่ เธอมองเห็นความมีอำนาจในดวงตาเขาชัดเจน สายตาเขา น่ากลัวจริงๆ “เอ่อครับ” “ผมต้องการให้คุณไปตอนนี้ ว่าอย่างไร คุณจะอยู่หรือไป” เขาเดินมาพูดกับอดิศักดิ์ที่โต๊ะ สายตาคมกริบที่หรี่มองอดิศักดิ์นั้นบอกความนัยน์มากมายกว่าที่เขาพูดนัก อดิศักดิ์รู้ว่าเขาจต้องทำอย่างไร เขาจึงออกไปอย่างจำใจที่สุดในชีวิต ก่อนออกไป แม้แต่มองหน้าพราวตะวันเขาก็ไม่ได้ทำ เขาไม่อยากอยู่นานถ้าไมเคิลได้ขู่อย่างนั้นแล้ว เพราะเขารู้ดีว่า ไมเคิลไม่ได้ใจดี พราวตะวันเสียดายที่ไม่ได้คุยกับผู้จัดการต่อ แถมเธอยังทำเสียมารยาทกับลูกค้าอีก เมื่อสติมาแล้วเธอก็แทบอยากเขกหัวตัวเองสักสิบที เพราะความใจร้อนเป็นห่วงมารดาของเธอแท้ๆ เชียว หญิงสาวนึกได้อย่างนั้นก็ก้มหน้าก้มตาหลบตาคมที่ตอนนี้หันมามองเธอเหมือนจะเล่นงานอะไรสักอย่าง เธอค่อยๆ เดินตัวลีบตามผู้จัดการออกไป “จะไปไหน” เสียงห้าวทุ้มนั้นเอ่ยขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้เป็นภาษาไทย ภาษาที่พราวตะวันไม่คิดว่าเขาฟังรู้เรื่อง เธออึ้งสักพักเพราะรู้ว่าเขาคงเข้าใจเรื่องที่เธอพูดมาทั้งหมด น่าอายเหลือเกิน “ผมถามว่าจะไปไหนหรือ” เขาถามย้ำอีกครั้ง พราวตะวันหยุดก่อนจะหันมามองเขาเกรงๆ “จะออกไปทำงานต่อค่ะ” “ไม่อยากคุยเรื่องที่คุยค้างไว้หรือไง” “ไม่แล้วค่ะ เดี๋ยวค่อยมาคุยกับผู้จัดการทีหลังก็ได้ค่ะ” “งั้นมีอะไรเธอก็พูดกับฉันได้เลย เพราะฉันนี่แหล่ะคือผู้จัดการคนใหม่และเป็นเจ้าของที่นี่ด้วย” พราวตะวันหันมามองหน้าเขาเต็มตา แล้วเธอก็ต้องอ้าปากค้างเมื่อเห็นหน้าเขาชัดๆ เพราะตอนนี้ไม่มีน้ำตาบดบังดวงตาเธออีกแล้ว ใบหน้าทรงเสน่ห์แย้มยิ้มออกมาช้าๆ หากแต่ดวงตาเขาไม่ได้ยิ้มด้วย มันมีแววแปลกๆ อะไรเธอก็อ่านไม่ออก แต่เธอแค่รู้สึกว่ามันทำให้เธออึดอัดและหายใจไม่ออกเลย ทั้งที่เขาไม่ได้ทำอะไรเธอ เขาแค่ยิ้มให้เท่านั้น เขาทำให้พราวตะวันรู้สึกว่ากำลังต้องมนตร์ “ว่ายังไง เล่าเรื่องของเธอมาสิ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม