Rhyya: ลูกสาวคุณพ่อยะค่ะ
สองพ่อลูกต่างส่งข้อความหากันอย่างเป็นสุข โดยเฉพาะคนเป็นลูก จ้องหน้าจอไปก็ยิ้มไปด้วย ใจอยากไปหาพ่อเร็วๆ จะได้กอด ถ้าไม่ติดว่ามีข้อตกลงกับสามีขี้สั่ง ป่านนี้คงได้นอนคุยกับพ่อแล้ว
“ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้หน้าจออย่างนี้ คงไม่ได้คุยกับผู้ชายหรอกนะครับคุณหนูย้า”
อารมณ์กำลังดีๆ พอเสียงนี้ดังอยู่ด้านหลัง ถึงกับหน้าบึ้ง รีบลาพ่อแล้วหันไปมองด้วยความไม่เข้าใจ ว่าเขาจะมาไม้ไหนอีก ก่อนหน้าก็ยังดีๆ อยู่
“ใช่ มีอะไรมั้ย”
เลยตอบด้วยสีหน้าท้าทาย พร้อมยักคิ้วให้ด้วย
“แรดได้แม่หรือได้ใครกันล่ะ”
หรัญญ์ส่งสายตาดูหมิ่นอย่างไม่ปิดบัง ถึงกับชักสีหน้าไม่ดีใส่ทันที
“หมายความว่ายังไง”
“ต้องให้อธิบายด้วยเหรอ ในเมื่อผัวมาเห็นเมียคุยกับผู้ชาย แล้วยิ้มหน้าบานอย่างนี้ ไม่ให้คิดว่ามีชู้แล้วจะให้คิดไปทางไหนล่ะ”
“คุณไม่มีสิทธิ์มาใช้คำว่าชู้กับฉัน เพราะคุณเองก็รู้ว่าเราแต่งงานกันเพราะอะไร”
“เพราะผมอยากได้หุ้นพ่อคุณ มีคุณพ่วงมาเป็นรางวัล ทั้งๆ ที่ผมก็รู้ ว่าเป็นเดนคนอื่น และจนป่านนี้ ผมก็ยังทำใจให้กินคุณไม่ลงน่ะเหรอ”
“ถ้าคิดว่าฉันไม่ดีพอ จะหย่าก็ได้นี่ วันนี้เลยมั้ยล่ะ”
“พอมีเศรษฐีมาทำท่าว่าชอบเข้าหน่อย ใจกล้าถึงขนาดจะหย่าเชียว”
“เหมือนคำว่าผัว คุณไม่มีสิทธิ์ใช้นะ ในเมื่อคุณบอกเองว่าทำใจให้กินฉันไม่ลงเองนี่”
“ลงไม่ คุณก็ได้ชื่อว่าเป็นเมียผม ใช้นามสกุลผม อยู่บ้านผม คุณจึงไม่มีสิทธิ์จะชายหูชายตาหรือให้ท่าผู้ชายหน้าไหนทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นผัวเก่า หรือคนที่คิดจะคว้ามาทำผัวใหม่ ท่องเอาไว้ว่าคุณไม่มีสิทธิ์”
“มีหรือไม่มี ฉันจะเป็นคนตัดสินใจเอง ที่ฉันยอมทุกวันนี้ อย่าคิดว่าไม่มีทางเลือกหรือไม่มีทางไปนะ เพราะฉันยังไม่อยากเลือกหรือไม่อยากไปต่างหาก จำเอาไว้ด้วย ว่าถ้าฉันได้ตัดสินใจแล้ว ใครหน้าไหนก็ห้ามไม่อยู่”
จ้องหน้าเขาอย่างเอาเรื่อง แล้วเดินหนีด้วยความอารมณ์เสีย อุตส่าห์มานั่งรับลมเย็นๆ ดันได้อะไรร้อนๆ แทน หวังว่าน้ำในจากุซชี่คงจะช่วยได้กระมัง
“อยู่นี่เอง ป้าก็ให้เด็กตามหาอยู่”
แต่เข้าบ้านมา วันดีก็เดินออกจากประตูครัวทักทายก่อน นั่นทำให้แปลกใจไม่น้อยกับท่าทีเป็นมิตรมากกว่าเดิม
“ย้าไปเดินเล่นมาค่ะ คุณป้าวันมีอะไรคะ”
พยายามปรับน้ำเสียงให้ปกติสุด ถึงแม้จะทำได้ยาก เพราะอารมณ์เสียอยู่
“ไม่มีอะไรมากหรอก ป้าแค่จะมาถามว่า พรุ่งนี้อยากกินอะไรเป็นมื้อเช้า”
ความจริงวันดีชอบใจในตัวหลานสะใภ้ ที่คอยช่วยจัดแจงเรื่องเสิร์ฟแขกมากกว่า แต่ไม่อยากบอก เลยแสดงความเอื้ออาทรในรูปแบบอื่นแทน
“คุณป้าวันทำอะไร ย้าก็กินได้หมดค่ะ เพราะคุณป้าทำอาหารอร่อยค่ะ”
“ป้าคิดไม่ออกว่าจะทำอะไรดี เลยจะมาถามคนกินดีกว่า”
“ย้าว่าต้องรอถามหลานชายคุณป้าวันดีกว่าค่ะ เผื่อย้าจะอยากกินอะไรไม่ตรงกับใจเขา แล้วจะยุ่งค่ะ”
“ป้าตัดสินใจเองว่าจะถามใคร และป้าก็มาถามหนู ตกลงอยากกินอะไร บอกมาเลย ป้าจัดการให้ทั้งหมด”
“เอางั้นเหรอคะ”
“จ้ะ”
“ย้าเลือกแล้วจะไม่มีใครบ่นแน่ๆ ใช่มั้ยคะ”
“ไม่แน่นอน อยากกินไรบอกมาเลย”
“ข้าวต้มขาว กับคะน้าหมูกรอบ ผัดหอยลาย หรือปลาเค็ม อะไรทำนองนี้ค่ะ พื้นไปมั้ยคะ เห็นแต่ละวันคุณป้าวันจัดหรูๆ ทั้งนั้นเลย กลัวจะเหนื่อยค่ะ”
“ก็คิดไม่ออกว่าจะจัดอะไรแล้ว ป้าเลยต้องมาถามไง เป็นอันว่าพรุ่งนี้ป้าจะจัดให้แล้วกัน”
“ขอบคุณค่ะ แล้วคุณป้าวันมีอะไรให้ย้าช่วยมั้ยคะ”
“ไม่มีจ้ะ จะขึ้นนอนแล้วเหรอ”
“ค่ะ”
“งั้นก็ไปเถอะ”
“ค่ะ ฝันดีค่ะคุณป้าวัน”
ยิ้มให้แล้วเดินไปหาบันไดโค้งแทนการขึ้นลิฟต์ เพราะบ้านมีแค่สามชั้น ก็ไม่รู้ว่าจะมีไว้ทำไม แต่คิดอีกที ก็เจ้าของรวยนี่นะ อยากทำอะไรก็คงไม่ยาก
“ไปไหนมาเหรอจ๊ะย้า”
เห็นสาวสตอแลรี่แล้วเลยทำหน้าเซ็งใส่ และไม่คิดจะปิดบัง เพราะในหัวกำลังมีภาพเมื่อวันวานวาร์ปขึ้นมาทันใด ภาพที่ไม่เคยทำให้ตัวเองสุขใจเลยเมื่อคิดถึงมัน
“ขับเป็น มีใบขับขี่แล้วจ้า แต่คุณพ่อยังไม่ยอมให้ขับมาเอง”
“แดดดี๊ห่วงและหวงน่ะสิยะ มีลูกสาวคนเดียวนี่นา แถมยังขาวจั๊วะ ออร่าจับเกิ๊น หนุ่มๆ มองคอจะพลิกละ ไม่หวงสิกูว่าแปลก จริงมั้ยไอ้คุณเวย์”
กรรัมภารู้ดีว่าวายุสเหล่เพื่อนร่วมรุ่นตั้งแต่วันรับน้องแล้ว
“ไปหาไรกินกันเถอะ หิวจะตายละ”
พชิรา หนึ่งในกลุ่มเพื่อนรีบติดบทด้วยน้ำเสียงห้วนนิดๆ และไม่ชอบใจหน่อยๆ ที่ผองเพื่อนพากันชื่นชมรถใหม่ จะอะไรนักหนา แค่ป้ายแดง คนอื่นก็มีกัน บางคนคันใหญ่กว่าแพงกว่าด้วย
“ก่อนออกบ้านไม่ได้กินอะไรเหรออีพีชซี่ ถึงได้มองเพื่อนตาขวางเชียวมรึง”
กิ๊ฟซี่หันไปมองตาขวางเหมือนกัน ก็กำลังคุยสนุกอยู่ แต่ดันถูกขัดคอ
“เออน่ะสิ อีกะเทยควาย”
“มัวทำอะไรอยู่ล่ะอีชะนี”
“ก็กูตื่นมาทำรายงานแทนพวกมึงอยู่ไงล่ะ ถึงได้ไม่มีเวลากิน รู้ไว้ซะด้วยนะ ว่ากูได้นอนไม่ถึงสามชั่วโมง ยังจะมาคุยเรื่องรถอยู่ได้ หิวนะโว้ย”
รู้ว่าเพื่อนไม่ค่อยชอบ ที่ตัวเองออกอาการหนักไปหน่อย เลยแกล้งทำเป็นพูดเล่นในคำท้าย ยังไงๆ ก็ต้องเกาะกลุ่มนี้ไว้ก่อน การไม่มีกลุ่มคือฝันร้ายของคนในวัยเรียน อีกทั้งไรยามักจะใจป้ำ
เพิ่งคบกันยังไม่ถึงเดือน ก็เลี้ยงข้าวกับซื้อนั่นนี่ให้บ่อยๆ เลยต้องยอมก่อน ไว้รวยเมื่อไหร่ค่อยถีบหัวส่ง แต่จะรวยตอนไหนนั้น ก็ยังไม่เห็นช่องเลย