ภายในกระท่อมไม้กลางป่าสนชายชรารูปร่างสูงใหญ่กำลังนอนซมด้วยพิษไข้อยู่บนเตียง อาการของเขาเป็นเช่นนี้มาได้สามสี่วันแล้ว เขาเหม่อมองลอดบานหน้าต่างออกไปยังผืนฟ้าสีน้ำเงินเข้มยามค่ำคืนที่มีหมู่ดวงดาวสุกสกาวเปล่งประกายระยิบระยับอยู่เต็มไปหมด ใบหน้าเหี่ยวย่นที่เจือไปด้วยความใจดีตอนนี้กำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง ความวิตกกังวลฉายชัดในดวงตา คิ้วดกขาวขมวดแทบจะเป็นปม
แค่ก แค่ก แค่ก! เสียงไอโขลก ๆ จากชายชราดังมาเป็นระยะ ๆ ทันใดนั้นประตูไม้ก็ถูกผลักเข้ามาตามมาด้วยร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่ง เขารีบปราดเข้าไปหาชายชราทันที
“คุณปู่เป็นยังไงบ้างครับ”
“มาแล้วหรือนิค” นิคหรือนิโคลัสเป็นหลานชายคนโปรดของชายชรานั่นเอง ถามว่าโปรดแค่ไหนก็ลองดูจากชื่อซึ่งเป็นชื่อเดียวกันกับชายชราบนเตียงนี้
“ครับปู่”
“มาก็ดีแล้ว ปู่มีเรื่องอยากให้หลานช่วย”
“ครับ”
สายตาของผู้สูงวัยเหม่อมองออกไปด้านนอกอีกครั้ง ตอนนี้หิมะกำลังโปรยปราย จากนั้นก็วกสายตากลับมาจ้องที่หน้าของนิโคลัส แล้วถอนหายใจออกมา
เฮ้อ!
“พรุ่งนี้ก็จะเป็นวันคริต์มาสอีฟแล้ว ปีนี้ปู่คงออกไปทำหน้าที่ไม่ได้” เอ่ยเพียงแค่นี้นิโคลัสก็พอเข้าใจถึงความกังวลของชายชรา
“โธ่ปู่ครับ ปู่ก็อายุมากถึงขนาดนี้แล้ว ร่างกายก็ไม่แข็งแรงอีก ผมว่าปู่ควรจะเลิกทำมันได้แล้วนะครับ”
“ไม่ได้!” เสียงแหบแห้งเอ่ยแย้งทันที ตามมาด้วยเสียงไอโขลก ๆ
“แต่ว่า...”
“นี่มันเป็นหน้าที่และความภาคภูมิใจของบรรพบุรุษเราที่เราต้องสืบสาน”
“ปู่ครับ แต่นี่มันยุคสมัยไหนแล้วครับ ไม่มีใครเชื่อเรื่องตำนานซานตาคลอสแล้วครับ แม้แต่เด็กสามขวบยังไม่เชื่อเลยครับ พวกเขารู้ดีว่าคนที่ให้ของขวัญคือพ่อแม่ของพวกเขา”
“แต่ตัวหลานเองก็รู้ดีว่าตำนานนั่นมันมีจริงไหม”