ตอนที่ 11 ในฝัน 2

1912 คำ
โรงแรมริมแม่น้ำเจ้าพระยา  ภายในโรงแรมสุดหรูริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณชั้นบนสุดมองเห็นสายน้ำใหญ่ที่ไหลผ่านกรุงเทพมหานครลมเย็นๆ พาดผ่านมาเบาๆ ในช่วงพลบค่ำ ร่มรื่นเย็นสบายผ่อนคลายกับผู้มาเยือน และมารับประทานอาหารได้ดีมากทีเดียว โต๊ะอาหารของโรงแรม จัดวางเรียงรายไว้อย่างสวยงาม เป็นมุมที่มองเห็นทัศนียภาพของแม่น้ำเจ้าพระยาได้เป็นอย่างดี ดวงตาสีสนิมเหล็กคมกล้า กำลังทอดสายตาชมทัศนียภาพของแม่น้ำเจ้าพระยาด้วยความสำราญใจ เขาชอบทุกอย่างที่เป็นเอกลักษณ์ของความเป็นไทย แม้อลัน แอนเดอร์สัน จะเติบใหญ่และใช้วิถีชีวิตทั้งชีวิตอยู่ที่สหรัฐอเมริกามาโดยตลอด แต่เขากลับไม่เคยคิดว่าประเทศนั้นคือบ้านของเขาเลย ตรงกันข้ามเพียงแค่บินมาถึงแผ่นดินไทยและเพิ่งจะอยู่พำนักในเมืองไทยยังมาถึง 24 ชั่วโมงด้วยซ้ำ แต่ชายหนุ่มกลับคิดว่า ที่นี่คือบ้านของเขาที่แท้จริง และรู้สึกอย่างไรบอกไม่ถูกที่พาตัวเองมาชมวิวทิวทัศน์ของแม่น้ำเจ้าพระยา ทั้งๆ ที่ไม่เคยมาเลย แต่อะไรสักอย่างดลใจให้เขามา นิ้วเรียวยาวของชายหนุ่มกำลังวนปากแก้วไวน์ด้วยความเพลิดเพลิน หนุ่มหล่อนั่งกินลมชมวิวจิบไวน์ด้วยความเพลิดเพลินเจริญใจอย่างยิ่งยวด ท่ามกลางเสียงเพลงขับกล่อมดนตรีทำนองแนวแจ๊ซ ซึ่งโรงแรมนำเสนอให้แขกผู้มาเยือนได้ยินได้ฟัง ท่ามกลางเสียงเพลงขับกล่อมทำนองแจ๊ส บรรเลงมาอย่างยาวนานก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเสียงดนตรีไทย เสียงดนตรีไทยเล่นสดไม่ได้เปิดเทปสะด้วย ทำให้อลันหันกลับมาพิจารณาวงดนตรีไทยที่กำลังบรรเลงโหมโรงขึ้นมาทันที “โรงแรมนี้มีวงดนตรีไทยมาเล่นสดด้วยเหรอ มิยักกะรู้” ชายหนุ่มรำพึงพร้อมทอดสายตามองเข้าไปภายในโรงแรมบริเวณที่เป็นลานวงดนตรีของเพลงแจ๊ส ทันใดนั้นเอง ดวงตาสีค่อยๆ เบิกกว้างขึ้น เมื่อสองตาของเขามองเห็นพื้นที่ที่เขานั่งอยู่ในขณะนี้ กลับกลายเป็นพื้นที่โล่งกว้าง ท่ามกลางหญ้าเขียวขจี มีลานพิธีและมีดนตรีไทยกำลังขับกล่อมผู้คน ทว่าเหตุใดเล่าผู้คนที่กำลังเดินขวักไขว่อยู่ในขณะนี้ จึงแต่งกายดั่งเช่นคนไทยสมัยโบราณ ทั้งชายและหญิงต่างนุ่งโจงกระเบน ห่มสไบ ด้วยผ้าหลากสีสันมากมาย ท่ามกลางผู้คนที่แต่งกายโบราณกำลังเดินขวักไขว่ อยู่ใกล้ริมแม่น้ำราวกับว่ามีงานสำคัญอะไรบางอย่าง และมีหญิงสาวร่างหนึ่งกำลังเดินตรงมาที่อลันกำลังนั่งอยู่ และมีคนเดินตามหลังเป็นผู้หญิงอีกสองคน ร่างสูงโปร่งงามระหง แลอรชรอ้อนแอ้นพิไลพรรณเป็นอย่างยิ่ง เครื่องแต่งกายเฉิดฉายแลดูสูงส่งด้วยยศศักดิ์ยิ่งนัก เครื่องประดับทั่วเรือนกายล้วนวิจิตรและสูงค่า ร่างระหงค่อยๆ ก้าวเดินตรงมาหาเขาอย่างช้าๆ จนกระทั่งหยุดยืนตรงหน้าก่อนจะค่อยๆ ทรุดตัวลงนั่งกับพื้นหญ้า ซึ่งระยะห่างการนั่งของเธอกับอลันอยู่ใกล้กันชนิดที่ว่าลมหายใจเป่ารดต้นคอ พร้อมเสียงบริวารที่ตามมาด้วยเอ่ยขึ้นทางด้านหลัง เมื่อนางทั้งสองทรุดตัวลงนั่งพับเพียบพร้อมยื่นบางสิ่งให้ “ท่านหญิงเพคะ” บริวารหญิงอายุราว 50 ปีเศษเอ่ยพร้อมยื่นกระทงที่ทำจากใบตอง ซึ่งทำอย่างประณีตวิจิตรบรรจงยิ่งนักอย่างที่ไม่เคยพบเห็นที่ใดมาก่อน มือเรียวของโฉมงามผู้สูงศักดิ์ รับกระทงที่ทำอย่างวิจิตรมาจากบริวารมาถือเอาไว้ พร้อมรับโคมไฟจากบริวารเพื่อจะนำมาจุดธูปเทียนซึ่งปักอยู่ในกระทง มือเรียวสวยประดับด้วยแหวนทองคำโบราณสุดวิจิตร เธอค่อยๆ วางบางอย่างลงบนกระทงใบน้อย อลันพยายามเพ่งมองใบหน้าหญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขาในระยะลมหายใจเป่ารดต้นคอ เขาไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เขากำลังเห็นอยู่ในขณะนี้คืออะไร ภาพหลอนลวงตาหรือมันคือเรื่องจริง และทันทีที่หญิงสาวผู้สูงศักดิ์ จุดธูปและเทียนแสงสว่างทำให้เขามองเห็นใบหน้าของหญิงสาวผู้สูงศักดิ์ซึ่งอยู่ตรงหน้า และนั่นทำให้เขาถึงกับหยุดลมหายใจของตัวเองเมื่อได้พิศใบหน้างามของหญิงสาวผู้สูงศักดิ์เต็มสองตา ทั่วเรือนกายชาวาบไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้กับเขา ใบหน้างามที่มีเครื่องหน้าครบสูตรของความงามของหญิงไทย หากแต่เธองามล้ำยิ่งนัก ไม่ว่าจะเป็นคิ้วที่เรียงตัวกันเป็นแนวโค้งได้รูปสวยรับกับใบหน้า จมูกโด่งเป็นสัน ดวงตาหวานกลมโตภายใต้ขนตางามงอนเป็นแพยาว รูปหน้าเรียว ปากหยักเป็นกระจับสีชมพูระเรื่อ พวงแก้มแดงสุกปลั่งเป็นสีเลือดฝาดของวัยสาว เธอคือหญิงงามที่มีรูปโฉมรัญจวนใจอย่างยิ่งและนี่หรือโฉมหน้าของหญิงสมัยโบราณ แต่หน้าตาไม่โบราณแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามงดงามมากจนสาวสมัยใหม่ยังต้องอายเพราะเธองามไร้สิ้นการปรุงแต่งและไร้ศัลยกรรมอย่างสิ้นเชิง อลันหัวใจหยุดเต้นไปชั่วครู่ก่อนจะเต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะ เมื่อได้เห็นรูปโฉมของหญิงสาวตรงหน้า “ผู้หญิงคนนี้เหมือนคนที่อยู่ในรูปถ่ายที่เราเก็บได้!” อลันรำพึงอยู่ภายในใจ ก่อนจะได้ยินเสียงหวานของเธอเอ่ยขึ้นให้เขาได้ยินเป็นครั้งแรกในชีวิต เมื่อเธอกำลังตั้งจิตอธิษฐาน “ลูกขอกราบสักการบูชาพระแม่คงคาอันศักดิ์สิทธิ์ ผู้ดูแลผืนน้ำอันยิ่งใหญ่และบันดาลความอุดมสมบูรณ์ให้แก่แผ่นดินสยามให้อุดมสมบูรณ์มาเป็นเวลาช้านาน กราบพระคุณอันยิ่งใหญ่ของพระแม่คงคาด้วยเครื่องสักการบูชาซึ่งจัดเตรียมถวายให้แก่พระแม่ ขอพระแม่คงคาบันดาลความอุดมสมบูรณ์ให้แก่สยามประเทศตราบนานเท่านาน ไม่ว่าเกิดภพชาติใดขอให้ลูกได้เกิดบนผืนแผ่นดินสยามประเทศ และหากแม้นในภพชาติใดลูกต้องพานพบคู่ครองที่จะต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ก็ขอให้พานพบคู่แท้ที่ร่วมกันสะสมบุญบารมีมาทุกภพทุกชาติ อย่าได้พานพบคู่เวรคู่กรรมให้มีวิบากกรรมต่อกัน หากแม้นในภพชาติใดลูกได้พานพบคู่แท้ ก็ขอให้จดจำกันได้ซึ่งกันและกันด้วยเทอญ” สิ้นคำกล่าวอธิษฐาน เกิดลมพัดผ่านขึ้นมาทันที ราวกับว่าได้รับรู้คำอธิษฐานของหญิงสาวผู้สูงศักดิ์ กระทงวิจิตรใบน้อยค่อยๆ นำลงในน้ำพร้อมๆ กับสายตาของอลันมองตามกระทงใบนั้นโดยไม่คลาดสายตา และสิ่งที่อยู่ในกระทงทำให้ดวงตาสีสนิมเหล็กของชายหนุ่ม เบิกกว้างขึ้นมาทันที ภาพถ่ายขาวดำของหญิงสาวผู้สูงศักดิ์ในชุดไทยโบราณ อยู่ในกระทง ตรงมุมของภาพถ่ายเขียนบางอย่างไว้ และเมื่อชายหนุ่มได้เห็นข้อความตรงมุมของภาพถ่าย อลันหลุดปากออกมาทันที “มณีภัสสร!” ชายหนุ่มอ่านข้อความที่อยู่บนภาพถ่ายนั้น และทันทีที่เขาอ่านข้อความบนภาพที่ละม้ายคล้ายชื่อเรียก หญิงสาวผู้สูงศักดิ์หยุดชะงักทันทีราวกับว่าเธอนั้นก็ได้ยินเสียงของอลัน “ผู้ใดเรียกชื่อของเรากระนั้นรึ เหตุใดจึงเรียกชื่อของเราเฉยๆ เช่นนี้ได้” เสียงหวานของหญิงผู้สูงศักดิ์เอ่ยขึ้นด้วยความสงสัย พร้อมขยับพระวรกายของพระองค์จนทะลุร่างของอลันที่กำลังนั่งมองด้วยความตื่นตะลึงอยู่ในขณะนั้น พรึ่บ! ร่างของหญิงสาวผู้สูงศักดิ์หายวับไปกับตา โฉมสะคราญผู้งามล้ำ เลือนหายไปทันทีพร้อมบรรยากาศรอบด้านราวกับว่าเคยบังเกิดขึ้นในสมัย 100 กว่าปีก่อน เลือนหายลับไปเช่นกัน เสียงบรรเลงเพลงแจ๊สของโรงแรมยังคงบรรเลงขับกล่อมให้ความสำราญกับบรรดาแขกที่เข้ามารับประทานอาหารและชมบรรยากาศแม่น้ำเจ้าพระยาในเวลาค่ำกันอย่างเนืองแน่น ในขณะที่อลัน กำลังอยู่ในภาวะตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเขาเมื่อครู่ที่ผ่านมา ดวงตาสีนิลคู่สวยค่อยๆ สำรวจไปทั่วบริเวณของโรงแรม “นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับเรา ทำไมเราถึงเห็นภาพผู้คนในสมัยก่อน ผู้หญิงคนนั้น ผู้หญิงในภาพถ่ายขาวดำที่เราเก็บได้มีตัวตนเมื่อร้อยกว่าปีก่อนอย่างนั้นเหรอ ความฝันหรือความจริงกันแน่วะหรือว่าเราเมาไวน์ แต่ไม่ใช่สิ แทบจะไม่ได้แตะเลย เรามีปัญหาทางด้านประสาทกับสายตาหรือเปล่า หรือตั้งแต่เราสัมผัสกับเจตน์ได้ก็เลยเห็นผีได้ทุกที่อย่างนั้นเหรอ มันจะใช่เหรอ!” อลันรำพึงรำพันอยู่เพียงลำพัง แก้วไวน์ถูกจับยกขึ้นก่อนจะกระดกขึ้นดื่มรวดเดียวหมดแก้ว เพื่อขับไล่ภาพหลอนออกจากความทรงจำของเขา “นี่เราเห็นอะไรกันแน่ ทำไมถึงได้เห็นอะไรแปลกๆ แบบนี้ เฮ้ย! หรือผีหลอก!” อลันโวยวายขึ้นมาทันที และเสียงโวยวายของเขาทำให้สายตาทุกคู่ที่กำลังนั่งรับประทานอาหารกันอยู่ภายในบริเวณนั้นหันมามองเขาเป็นตาเดียวกัน “เอ่อ...เอ่อ...เอาเข้าแล้ว ใครๆ ก็พากันมอง อยู่ไม่ได้แล้วเดี๋ยวจะถูกเหมาว่าเราบ้า” ชายหนุ่มรำพึงในใจพร้อมรีบลุกขึ้นจากโต๊ะที่เขานั่ง ก้าวเดินออกไปอย่างรวดเร็ว ร่างสูงใหญ่ของหนุ่มหล่อมาดแมน ในชุดสูทลำลองราคาแพงลิบเดินผ่านผู้คนที่กำลังรับประทานอาหาร สายตาของทุกคู่จ้องมองเขาไม่วางตา เมื่อทุกคนต่างมองเห็นเหมือนกันหมดจนอดไม่ได้ที่จะกล่าวออกมา “ผู้ชายก็หล่อมาก ผู้หญิงก็สวยไม่มีที่ติ เขาสมกันมากเลยนะคู่นี้ ทำบุญด้วยอะไรหนอถึงได้เกิดมาสวยหล่อสมบูรณ์แบบขนาดนี้ ว่าแต่ผู้หญิงเขามางานเลี้ยงที่ต้องแต่งชุดไทยเหรอ ถึงได้แต่งชุดไทยโบราณอลังการงานสร้างสะขนาดนั้นเชียว” “คงจะมีงานประกวดการแต่งกายชุดไทยสมัยโบราณกระมัง แหมดูผ้าสิ ลวดลายฝีมือการทอเหลืองอร่ามไปหมด ยังกับทอทองคำลงบนผ้าเลยว่าไหม” “เออใช่ คิดเห็นเหมือนกันเลย ไม่ต้องประกวดก็ได้รางวัลชนะเลิศไปเลย แหมแต่งกายห่มผ้าไทยโบราณ งดงามมาก ผู้หญิงสมัยโบราณถ้าสวยขนาดนี้ เขาเรียกว่านางสวรรค์เลยล่ะเธอ” เสียงผู้คนต่างเอ่ยชมกันเอ็ดอึง บรรดาแขกที่เข้ามารับประทานอาหารต่างมองเห็นอลัน แอนเดอร์สัน ควงคู่มากับหญิงสาวโฉมสะคราญน่าหลงใหลเป็นที่สุด ร่างระหงดังกล่าวกำลังเดินตามหลังเขาไปติดๆ โฉมงามผู้สูงศักดิ์ก้าวเดินพร้อมรอยยิ้มหวานที่แสนตรึงใจ ติดตามหลังชายหนุ่มไปทุกฝีก้าว สิ่งที่มหาเศรษฐีหนุ่มได้ประสบเหตุการณ์คืออะไรกันแน่! ภาพลวงตา ผี จิตวิญญาณ เหตุการณ์ในอดีตเมื่อ 100 กว่าปีก่อน เหตุใดจึงย้อนกลับมาให้ชายหนุ่มได้เห็น และสิ่งที่เขาเห็นมันเกี่ยวพันกับอลันโดยตรงหรือทางอ้อม หญิงสาวสวมชุดโบราณท่าทางแลดูสูงศักดิ์มีความเกี่ยวพันกับเขาหรือไร ใครจะให้คำตอบกับเขาเรื่องนี้ได้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม