ตอนที่ 2 บ่วงแค้น/1

3008 คำ
สามวันต่อมา ในยามนี้บริเวณบริเวณเรือนไทยปีกซ้ายของวังจันทรา เต็มไปด้วยบ่าวไพร่วิ่งขึ้นลงเรือนกันอย่างจ้าละหวั่น ในขณะที่เหล่าทาสชายหญิง ต่างพากันหันกลับไปมองบนเรือนใหญ่เป็นระยะๆ กรี๊ดดดดด!!! เสียงกรีดร้องโหยหวนของคุณหญิงบัวดังออกมาไม่ขาดสาย ใบหน้าบ่งบอกถึงความเจ็บปวดอย่างเห็นได้ชัด ด้วยเพราะยาขับเลือดส่งผลให้เจ้านายผู้สูงศักดิ์ปวดท้องเจียนอย่างรุนแรง โลหิตไหลออกมาอยู่ตลอดเวลาตั้งแต่ย่ำรุ่งจนถึงกลางดึกแต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าเด็กจะออกมาจากครรภ์แต่ประการใด คุณหญิงบัวพยายามยันกายลุกขึ้นมาจากเตียงพร้อมชี้หน้าไปที่นางนวล บ่าวที่รับหน้าที่ปรุงยาตามคำสั่ง “อีนวล! ทำไมจนถึงป่านนี้เด็กในท้องจึงยังไม่ถูกขับออกมาเสียที กูปวดท้องทรมานเจียนตายยิ่งนัก”คุณหญิงบัวถามบ่าวที่ปรุงยาขับเลือดดังกล่าว ข้างฝ่ายนางนวลได้แต่กลืนน้ำลายลงคอ มิรู้ว่าจะกล่าวเช่นไรดี ด้วยล่วงรู้ดีว่าการใช้ยาขับเลือดอย่างแรงในขณะที่มีอายุครรภ์เช่นนี้ แน่นอนว่าเด็กโตเกินกว่าที่จะถูกขับออกมาได้เองตามธรรมชาติ “ตอบกูมา!!!”คุณหญิงบัวตวาดกลับไป ทั้งๆ ที่เสียงแทบจะไม่มีด้วยเพราะเสียเลือดไปมากนั่นเอง เสียงตวาดแม้จะไม่เบาแต่เต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด เล่นเอานางนวลกลัวจนลนลาน ผ้าแถบที่มันห่มอยู่ถูกจับชายขึ้นซับเหงื่อบนใบหน้าพร้อมตอบกลับไป “หะ..เห็นทีเด็กไม่อาจขับออกมาได้เองเจ้าค่ะ เกรงว่าตัวจะโตเกินไปเพราะอายุก็หกเดือนแล้ว ตอนนี้เด็กในท้องก็ตายแล้วด้วยตั้งแต่ดื่มยาถ้วยแรก บ่าวยังคิดว่าเมื่อคุณหญิงท่านดื่มยาครบสามถ้วยย่ำรุ่งวันนี้เด็กก็จะออกมาเองตามธรรมชาติอย่างแน่นอน แต่จนถึงป่านนี้ยังไม่ยอมออกก็แสดงว่าเด็กในท้องไม่ยอมเจ้าค่ะ”นางนวลตอบกลับไปตามความเป็นจริง คำตอบของบ่าวคนดังกล่าวทำให้คุณหญิงบัวที่หงายท้องล้มลงไปนอนบนฟูกตามเดิม ริมฝีปากเริ่มซีดเซียว รวมถึงใบหน้าก็ด้วยเช่นกัน เหงื่อเม็ดโตผุดพรายขึ้นเต็มใบหน้า ทั่วทั้งกายร้อนรุ่มดั่งไฟบรรลัยกัลป์ “มันจะยอมออกหรือไม่กูไม่สนใจ..แต่มึงต้องหาวิธีเอาเด็กในท้องของกูออกมาให้ได้! และต้องเดี๋ยวนี้!!!”คุณหญิงบัวตวาดก้อง พร้อมหันหน้ากลับมามองบ่าวไพร่ที่นั่งพับเพียบพากันก้มหน้ามองพื้นไม่กล้าสบตาผู้เป็นนาย “พวกมึงหูแตกหรืออย่างไร! มิได้ยินที่กูสั่งความรึ! เอามันออกจากท้องกูเดี๋ยวนี้!!!” เฮือก!!! บ่าวไพร่ทั้งสามอันได้แก่ นมตลับ นางนวล นางแย้ม สะดุ้งจนสุดตัว แต่ละคนหันกลับมามองหน้าสบสายตากันไม่รู้ว่าจะทำเช่นไรต่อไปดี “จะทำเยี่ยงไรดีเล่า ตอนนี้เด็กในท้องไม่ยอมออกมาจากท้องของคุณหญิงนี่ก็หลายวันแล้วนะ ตอนนี้เด็กก็ตายในท้องแล้วด้วย จะปล่อยให้เน่าอยู่ในท้องของคุณหญิงอย่างนั้นเหรอ”นางแย้มถามคนที่มีประสบการณ์มากกว่า นมตลับหันกลับไปมองหน้านางนวลหมอยาที่รับหน้าที่ปรุงยาขับเลือดในครั้งนี้ “เอ็งว่าเยี่ยงไรนางนวล เด็กไม่ออกดั่งที่คิดเอาไว้ ขืนปล่อยไว้นานกว่านี้คุณหญิงท่านต้องแย่แน่ๆ เลย คิดออกหรือไม่”นมตลับถามกลับไป นางนวลส่ายหน้าไปมาติดๆ กัน ด้วยคิดหาวิธีไม่ได้เช่นกันพร้อมเอ่ยขึ้น “วิธีใช้ยาเพื่อให้เด็กออกมาไม่มีมีแล้วนม แต่ถ้าใช้คนละก็มีแน่นอน”นางนวลตอบกลับไป “อย่างไงวะเอ็ง”เสียงนมตลับและนางแย้มพูดออกมาพร้อมกัน “ตามหมอตำแยมาทำคลอดเอาเด็กในท้องออกมา มีวิธีนี้เท่านั้น”นางนวลให้ตอบกลับไป หา!!!! นมตลับและนางแย้มอุทานออกมาพร้อมกันครั้นได้ยินเช่นนั้น “หากไปตามหมอตำแยจากคุ้มเจ้าหลวงมาทำคลอด เรื่องที่คุณหญิงท่านตั้งท้องต้องเล็ดรอดออกไปแน่ๆ”นมตลับแย้งสวนกลับมาทันใด “พวกมึงก็ไปตามหมอตำแยที่ไหนมาก็ได้ให้มาทำคลอดกู! จะได้เอาเด็กในท้องออกไปเสียที จะพากันหน้าโง่เสียเวลาอีกนานไหม!!!”เสียงของคุณหญิงบัวพูดแทรกทะลุกลางปล้องขึ้นมา จนบ่าวทั้งสามพากันเงียบงันไปตามๆ กัน “ไปสิวะ! จะนั่งมองหน้ากูอยู่เช่นนี้รึ!”คุณหญิงบัวตวาดอีกครา “เจ้าค่ะ! พวกบ่าวจะไปเดี๋ยวนี้แล้ว”บ่าวทั้งสามรีบคลานเข่าออกจากห้องแทบไม่ทัน “กูต้องการหมอตำแยบัดเดี๋ยวนี้! พวกมึงไปหามาให้ได้! ไปหามาให้กู!!!”เสียงผู้เป็นนายดังไล่หลังตามมาติดๆ ในขณะที่บ่าวทั้งสามต่างพากันแยกย้ายออกไปตามหมอตำแยที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงของวังจันทรา ห้าวันผ่านไป ร่างของคุณหญิงบัวกำลังนอนหายใจรวยริน ด้วยช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตกำลังเข้ามาเยือน ท่ามกลางข้าทาสรับใช้ที่ติดสอยห้อยตามมาจากพระนครจนถึงวังจันทรา ซึ่งตั้งอยู่นครเชียงใหม่ หัวเมืองเอกทางเหนือ คุณหญิงบัวผู้โชคร้ายถึงคราวเคราะห์ตกเลือดเพราะได้ทำแท้งในขณะที่อายุครรภ์เข้าสู่เดือนที่หก ทว่าเด็กกลับไม่ยอมออกจำต้องใช้หมอตำแยที่อยู่ภายในละแวกวังจันทราเข้ามาทำคลอดถึงในวัง เพื่อกำจัดทารกในครรภ์ไม่ให้เกิดมาลืมตาดูโลกและสร้างความอับอายให้แก่คนเป็นแม่ เนื่องจากเด็กจะต้องเกิดมาโดยไม่มีบิดา สาเหตุเพราะบิดาผู้ให้กำเนิดนอกจากจะไม่ยอมรับว่าเป็นผู้กระทำให้หญิงสาวต้องตั้งครรภ์และบังเกิดลูกน้อยในอุทรขึ้นมาแล้วไซร้ แต่กลับลาโลกไปอย่างไม่มีวันหวนกลับคืนมาได้อีก และกว่าเด็กจะออกมาได้นั้น ก่อนหน้านั้นคุณหญิงบัวก็ตกเลือดอยู่แล้ว ครั้นหมอตำแยทำคลอดออกมาได้เป็นผลสำเร็จสมดั่งใจก็ตาม แต่กาลกลับกลายเป็นว่าราชนิกุลผู้สูงศักดิ์ยังคงตกเลือดอยู่เช่นนั้นมิอาจทำให้หยุดลงได้เลย สภาพเช่นนี้ไม่ต้องตามหมอมาดูอาการก็ล่วงรู้แล้วว่าไม่อาจยื้อชีวิตต่อไปได้อีกแล้ว หม่อมราชวงศ์อุบลวรรณ เทพรัตน์ ราชนิกุลหญิงผู้สูงศักดิ์จากวังเทพรัตน์ กำลังอยู่ในวาระสุดท้ายของชีวิต ใบหน้าซีดขาวราวกระดาษ ไร้สิ้นสีเลือดเจือจาง ริมฝีปากซีดซ้ำแห้งผาก เฝ้าเหม่อมองเพดานห้องเบื้องบนอยู่เช่นนั้นนิ่งนาน ร่างซูบซีด ผ่ายผอมพยายามยื้อยุดลมหายใจของตนเอาไว้ให้ได้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้ ท่ามกลางเสียงร่ำไห้ของข้าทาสบริวารทั้งสามที่คอยรับใช้ปรนนิบัติเจ้านายของพวกตน ติดสอยห้อยตามตั้งแต่พระนครจนถึงนครเชียงใหม่ในเพลานี้ “ทูนหัวของนม ขออย่าได้เป็นห่วงกังวลอีกเลยนะเจ้าค่ะ นึกถึงพระอรหันต์ไว้” หญิงสูงวัยนามแม่นมตลับ เอ่ยกับเจ้านายผู้สูงศักดิ์ของนาง เสียงสะอื้นไห้ดังออกมาเป็นระยะด้วยความสงสารในชะตากรรมของผู้เป็นนาย “ข้าจะต้องไม่ตาย ข้าจะไม่ไปไหนทั้ง...นั้น!” เสียงแหบแห้งเอ่ยบอกบริวาร “โธ่! ทูนหัวของบ่าว...อย่ายึดติดเลยเจ้าค่ะ หาไม่แล้วคุณหญิงจะจากไปอย่างไม่เป็นสุขนะเจ้าคะ” แม่นมตลับเอ่ยบอกเสียงสะอื้น ทันทีที่ราชนิกุลสาวได้ยินคำกล่าวพร้อมเสียงสะอื้นไห้เอ่ยออกมาเช่นนั้น ดวงตาเหม่อลอยเมื่อเพียงครู่กลับลุกโพลงโดยพลัน ดวงตาดุดันพร้อมหันกลับมาจ้องมองเหล่าบริวารตรงหน้าอย่างน่าสะพรึงกลัว “หุบปากของพวกเอ็งเอาไว้ซะ! อย่ามาสั่งสอนข้า! ถึงแม้นว่าข้าต้องตาย ข้าก็จะไม่ไปไหนทั้งสิ้น พวกเอ็งก็เช่นกัน อย่าเอาร่างของข้าออกจากวังจันทรานี้เด็ดขาด ห้ามทำพิธี ห้ามเผาร่าง ห้ามทำอะไรกับร่างของข้าเป็นอันเด็ดขาด! จำคำที่ข้าบอกเอาไว้ให้เป็นแม่นมั่น” คำกล่าวของคุณหญิงบัวสร้างความตกตะลึงให้กับบ่าวไพร่ไปจนถ้วนทั่ว หากปฏิบัติดั่งคำสั่งเช่นนั้นก็เท่ากับว่าดวงวิญญาณก็มิอาจสามารถไปผุดไปเกิดได้ “เหตุใดคุณหญิงจึงสั่งความเช่นนั้น หากทำเช่นนั้นแล้วดวงวิญญาณจะไม่สามารถไปไหนได้นะเจ้าคะทูนหัวของนม อย่าสั่งความเช่นนั้นเลย” นมตลับเอ่ยเกลี้ยกล่อม ทว่ากลับยิ่งเพิ่มความเดือดดาลให้กับผู้เป็นนายของตนมากล้นพ้นทวียิ่งขึ้นไปอีก “อย่ามาแส่เรื่องของกู! กูสั่งเช่นไรให้ทำเยี่ยงนั้น พวกมึงเป็นบ่าวของกูมีหน้าที่ทำตามที่กูสั่ง กูไม่มีวันนอนตายตาหลับอย่างเป็นสุข ตราบใดที่พวกอิศราและสุริยารังษียังไม่ได้รับกรรมที่มันทำไว้กับกู! เพราะพวกมัน กูจึงต้องมีสภาพเช่นนี้!” คุณหญิงบัวกล่าวอย่างเคียดแค้น ฉับพลันร่างบางหยุดชะงักงันเมื่อลมหายใจเริ่มขาดห้วง ทว่ามีหรือจะยอมจากไปง่ายๆ ดั่งคำกล่าว หญิงสาวผู้สูงศักดิ์พยายามสูดลมหายใจสุดท้ายของชีวิต พร้อมกล่าวในสิ่งที่ทุกคนอยู่ในบริเวณนั้นต่างพากันตกตะลึงไปตามๆ กัน “ในเมื่อกูไม่สมหวัง อย่าหวังเลยว่าไอ้อีหน้าไหนจะสมหวังดั่งใจได้ กูจะตามจองเวรมัน สิ่งที่พวกมันมีต้องตกเป็นของกู สิ่งที่พวกมันได้กูต้องแย่งจากมันให้หมด แม้แต่ลูกหลานของพวกมันต้องไม่เหลือสิ้นสมบัติ หรือแม้กระทั่งชีวิต! กูจะคอยเฝ้าดูความฉิบหายของพวกมัน! กูจะสาปแช่งพวกมันทุกภพทุกชาติไป!” สิ้นคำกล่าวสาปแช่งร่างคุณหญิงบัวเกิดอาการกระตุก คล้ายพยายามยื้อยุดลมหายใจสุดท้ายของชีวิตแต่ก็ไม่วายกล่าวคำอาฆาตขึ้นมาอีกคำรบ “ก...กู...จะจองเวร...พ...พวกมัน...ทุกๆ ชาติไป!” สิ้นคำกล่าวร่างบางกระตุกติดๆ กัน ก่อนจะค่อยๆ เบาลงจนกระทั่งเงียบไปในที่สุด ทว่าดวงตากลับยังคงเหลือกค้างจ้องเขม็งอยู่เช่นนั้น “คุณหญิง! คุณหญิง!” “ทูนหัวของบ่าว!” เสียงร่ำร้องเรียกนายของตนและเสียงร่ำไห้ของข้าทาสบริวารทั้งสามดังออกมาจากห้องนอนของเรือนไทยปีกซ้ายดังระงม เสียงสะอื้นไห้ดังกล่าวทำให้เหล่าบรรดาทาสที่อยู่ด้านล่างคอยฟังข่าวอาการป่วยของราชนิกุลผู้สูงศักดิ์ ต่างพากันมองหน้าไปตามๆ กัน “เสียงร้องไห้ดังเอ็ดอึงมาถึงนี่เลย คุณหญิงท่านเป็นเยี่ยงไรหนอ” ทาสชายเอ่ยกับพรรคพวกซึ่งนั่งออกันอยู่ด้านหน้าเรือนทั้งหญิงและชาย ก่อนจะต้องตกใจเมื่อได้ยินเสียงเอ่ยขึ้นตรงหน้า “เหตุใดพวกเอ็งมาออกันอยู่ตรงนี้ ไม่ไปหลับนอนเอาแรงกันหรืออย่างไร” เสียงของสตรีเอ่ยขึ้นตรงหน้าบรรดาทาสที่คอยฟังข่าว ทาสชายหญิงนับสิบชีวิตต่างพากันตกใจกันถ้วนหน้า ที่เห็นร่างบอบบางของราชนิกุลผู้สูงศักดิ์ซึ่งเพิ่งจะเอ่ยถึงเมื่อครู่ ยืนอยู่ตรงหน้าทั้งๆ ที่เมื่อครู่ที่ผ่านมาไม่มีแม้นเพียงเงาพาดผ่านเบื้องหน้านี้แต่อย่างใด พร้อมเสียงทาสชายเอ่ยถามพลางพนมมือขึ้นกลางอก “คะ...คุณหญิง...หายป่วยแล้วกระนั้นหรือขอรับ เกล้ากระผมแลข้าทาสทั้งหลายคอยฟังอาการว่าจะทุเลาไปมากน้อยเพียงใด” ร่างบอบบางตรงหน้าหรือแท้ที่จริงคือหม่อมราชวงศ์อุบลวรรณ เทพรัตน์ หรือคุณหญิงบัว ยืนมองทาสชายหญิงนับสิบชีวิตที่มาคอยฟังข่าวอาการเจ็บป่วย แต่หารู้ไม่ว่า ร่างที่ยืนอยู่ตรงหน้าในเวลานี้หาใช่คนแต่อย่างใดไม่ แต่กลับเป็นดวงวิญญาณของคุณหญิงบัวที่เพิ่งออกจากร่างมาปรากฏกายอยู่เบื้องหน้าทันทีที่สิ้นลม “ขอบใจพวกเอ็งทั้งหมดที่มาคอยฟังอาการเจ็บไข้ของข้า นับแต่นี้ต่อไปข้าหาได้ไข้ได้เจ็บอีกต่อไปไม่ ไม่ต้องทนทุกข์เวทนาอีกต่อไป และข้าจะอยู่ที่นี่ตลอดไปตราบนานเท่านาน ฮิฮิฮิฮิ” สิ้นเสียงกล่าวร่างของคุณหญิงบัวก็เปล่งเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ ร่างค่อยๆ เลือนหายไปโดยพลันต่อหน้าทาสชายหญิงนับสิบชีวิต ท่ามกลางอาการตกตะลึงของบรรดาทาสที่อยู่ด้านหน้าเรือน ที่เห็นร่างของคุณหญิงบัวหายลับไปต่อหน้าต่อตา แต่ยังมิทันจะเอื้อนเอ่ยสิ่งใดเสียงของนางแย้มและนางนวลบ่าวรับใช้ของคุณหญิงบัวก็เดินร่ำไห้ลงมาจากเรือนทันที “พวกเอ็งใครก็ได้ช่วยแจ้งข่าวกลับไปที่วังเทพรัตน์และเสด็จในกรมวังอิศรา ว่าคุณหญิงบัวสิ้นบุญแล้ว เมื่อเพลาที่ผ่านมานี่เอง และพวกเอ็งทั้งหมดไปช่วยข้าและแม่นวลจัดเตรียมพิธีศพให้กับคุณหญิงเสร็จแล้วจะได้เผาท่านให้เรียบร้อย” ขาดคำของนางแย้ม เสียงของบรรดาทาสทั้งหลายต่างเอ่ยออกมาอย่างพร้อมเพรียงกัน หา! สิ้นเสียงคำอุทาน เหล่าบรรดาทาสทั้งหลายต่างขวัญหนีดีฝ่อไปตามๆ กัน เมื่อเห็นบางสิ่งบางอย่างกำลังเกิดขึ้นตรงหน้า “กูสั่งมึงแล้วใช่ไหมอีแย้ม อีนวล ว่าห้ามทำพิธีหรือแม้แต่จะเผาร่างของกูเด็ดขาด เหตุใดพวกมึงจึงขัดคำสั่งของกูเยี่ยงนี้!” เสียงเย็นยะเยือกแผดเสียงกึกก้องขึ้นท่ามกลางค่ำคืนเดือนมืด พร้อมร่างโปร่งแสงของคุณหญิงบัวปรากฏกายยืนอยู่ด้านหลังของบ่าวทั้งสองขึ้นมาทันที “แม่แย้ม! แม่นวล!...คะ...คุณ...” บรรดาทาสต่างยกมือขึ้นชี้ไปทางด้านหลังของบ่าวทั้งสองที่ยืนอยู่ตรงหน้าตน จนทำให้ทั้งสองคนต้องหันกลับไปมองด้านหลังด้วยความแปลกใจ “พวกเอ็งเห็นอะไรกันรึ! ทำราวกับว่ากำลังเห็นผีไปได้” นางแย้มเอ่ยขึ้น ก่อนที่นางแย้มและนางนวลจะหันกลับไปมองพร้อมกัน “คุณหญิง!” บ่าวรับใช้คนสนิททั้งสองต่างตกตะลึงพรึงเพริด เมื่อเห็นดวงวิญญาณของเจ้านายผู้สูงศักดิ์ปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตา “เออ...กูเอง มึงยังจำกูได้อยู่หรอกหรืออีแย้ม! อีนวล!” พรืดดดด!!!! ดวงวิญญาณของคุณหญิงบัวเอื้อมมือกระชากผมของนางแย้ม และนางนวลจนหน้าหงายมองขึ้นฟ้าเบื้องบนพร้อมกันทันที ดวงตาลุกเพลิงและค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงดั่งเช่นสีเลือด “ผ...ผะ...ผีหลอก! ผีหลอก!” บรรดาทาสทั้งหลายต่างตะโกนร้องเสียงหลงกันระงมไปหมด ด้วยความแตกตื่นตกใจกลัวกันถ้วนหน้า ก่อนจะต่างคนต่างลุกวิ่งหนีกระเจิดกระเจิงไปคนละทิศละทาง “เสียงเอะอะอะไร! นางแย้ม นางนวล ข้าบอกให้เอ็งทำอะไร ทำไมเรื่องแค่นี้ต้องพากันเสียงดังโวยวายเช่นนี้เล่ากระไรกันนี่พวก...”แม่นมตลับกล่าวยังมิทันจบ ก็ต้องหยุดชะงักลงโดยพลันเมื่อเห็นสิ่งที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าตน เล่นเอาเข่าอ่อนทรุดกายลงนั่งบนเรือน “ค...คะ...คุณหญิงบัว!” นมตลับเอ่ยเรียกชื่อราชนิกุลผู้สูงศักดิ์ตรงหน้าซึ่งเพิ่งวายชนม์เมื่อครู่ที่ผ่านมา ก่อนจะได้ยินเสียงตะโกนก้องอย่างน่าสะพรึงกลัว “กูสั่งพวกมึงแล้วใช่ไหม! ห้ามทำอะไรกับร่างของกู! เหตุใดพวกมึงจึงขัดคำสั่งของกู หาได้ปฏิบัติตามดั่งเช่นคำที่กูสั่งความไว้ไม่ พวกมึงวอนให้กูคร่าชีวิตพวกมึงให้ตายกลายเป็นผีอยู่เคียงข้างกูรึ!” คุณหญิงบัวตวาดข้าทาสบริวารพร้อมกวาดสายตาที่เต็มไปด้วยสีเลือดแดงฉาน จ้องมองบ่าวไพร่ที่คอยตามรับใช้จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต ตุบ! ตุบ! ร่างของนางแย้มและนางนวล ยังมิทันกล่าวสิ่งใดต่างพากันเป็นลมล้มลงไปนอนกองกับพื้นทันที ด้วยความตกใจสุดขีด พร้อมเสียงของนมตลับดังขึ้น “นมกลัวแล้วเจ้าค่ะ! นมจะไม่ขัดคำสั่งคุณหญิงอีกแล้ว! ไม่แล้วเจ้าค่ะ!” นมตลับยกมือขึ้นไหว้ ตัวสั่นงันงกด้วยความกลัวสุดขีดกับสิ่งที่ปรากฏขึ้นอยู่ตรงหน้าในขณะนี้ “อย่ามายุ่งร่างของกู! หาไม่แล้วพวกมึงจะไม่ได้ตายดี!” สิ้นเสียงตวาดอันน่าสะพรึงกลัว ดวงวิญญาณของคุณหญิงบัวหายลับไปกับตา ล่องลอยหายเข้าไปในห้องนอนอันมีร่างไร้วิญญาณนอนสงบแน่นิ่งอยู่ภายในนั้นพร้อมเสียงดังเอ็ดอึงติดตามมา ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! เสียงประตูและหน้าต่างปิดตัวลงอย่างรุนแรง เรือนไทยปีกซ้ายของวังจันทราปิดตัวลงอย่างพร้อมเพรียงกัน พรึ่บ! พรึ่บ! พรึ่บ! พรึ่บ! แสงไฟจากตะเกียงที่จุดให้ความสว่างไสวไปทั่วบริเวณเรือนไทยปีกซ้าย ต่างดับลงพร้อมกัน พร้อมเสียงตะโกนก้องจากดวงวิญญาณสุดเฮี้ยน “อย่ามายุ่งร่างของกูอีก! ไอ้อีผู้ใดกล้าขัดคำสั่งกู! กูจะไม่ให้มันได้ตายดีสักคน!” สิ้นเสียงตวาดก้อง ข้าทาสบริวารที่อยู่ในบริเวณนั้น ตลอดจนถึงอยู่ภายในบริเวณวังส่วนอื่นๆ ต่างพากันวิ่งหนีเอาตัวรอดทางใครทางมัน วิ่งหนีเตลิดขวัญหนีดีฝ่อออกมาจากวังจันทราด้วยความหวาดกลัวอย่างสุดขีด ท่ามกลางเสียงหัวเราะหวีดหวิวของดวงวิญญาณสุดเฮี้ยน! “กูจะไม่ไปไหนทั้งนั้น กูจะอยู่ที่นี่! อยู่ตรงนี้! ที่นี่เป็นเรือนหอของกู วังจันทราเป็นของกู!!! ฮิฮิฮิฮิฮิ!!!!” เสียงหัวเราะหวีดหวิวดังก้องไปทั่วบริเวณวังจันทรา บัดนี้ทั่วอาณาบริเวณเต็มไปด้วยความมืดมิดที่แผ่เข้ามาปกคลุมโดยรอบ เสียงหัวเราะยิ่งฟังยิ่งขนหัวลุกเกรียวไปทั่วเรือนกาย จนไม่มีใครกล้าย่างกรายหรือแม้แต่เดินเฉียดเข้าใกล้แม้แต่น้อย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม