บทที่ 2

1197 คำ
องครักษ์คาฟาลตีสีหน้าลำบากใจระคนงุนงงอยู่มากกับคำถามของเจ้าเหนือหัว ที่จู่ๆ ก็คิดที่จะล้มงานเลี้ยงขึ้นมาดื้อๆ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ พระองค์ทรงกระตือรือร้นเหลือเกิน ที่จะจัดงานเลี้ยงฉลองวันประสูติครบรอบที่ 34 ปีของพระองค์            “เอ่อ...กระหม่อมคิดว่าอย่ายกเลิกเลยพ่ะย่ะค่ะ งานเลี้ยงจัดมาเกือบครึ่งค่อนคืนแล้ว ก็ควรปล่อยให้มันดำเนินไปแบบนี้ จนกว่างานเลี้ยงจะเลิกราดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ”            “แต่เราชักจะเบื่อแล้วสิ คาฟาล” ราชนิกุลหนุ่มตรัสตอบเสียงเนือยๆ พร้อมกับยื่นแก้วให้องครักษ์เอกได้รินบรั่นดีให้พระองค์อีกแก้ว “ทำไมหรือพ่ะย่ะค่ะ พระองค์เบื่ออะไรกัน หรือว่าพระองค์เบื่อผู้หญิงพวกนั่น” องครักษ์คาฟาลเอ่ยถามพลางยื่นบรั่นดีให้เจ้าเหนือหัวอีกครึ่งแก้ว ซึ่งเจ้าของนัยน์ตาสีเขียวใสก็ได้รับมาดื่มแบบรวดเดียวหมดแก้วไม่ต่างจากเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา            “เราเบื่อผู้หญิงพวกนั้นนะ คาฟาลทำไมมีแต่หน้าเดิมๆ คนเดิมๆ ที่คอยจ้องเขมือบเรา เห็นเราไม่ต่างจากขนมหวาน ทำไมไม่มีผู้หญิงคนใหม่ๆ หน้าใหม่ๆ สะอาดบริสุทธิ์ให้เราได้ยลโฉม ได้ลิ้มลองบ้าง”            ท่านชีคหนุ่มที่ขึ้นชื่อว่าเป็นนักรัก เป็นเพลย์บอยตัวกลั่น ได้บ่นออกมาตามความรู้สึกของคนที่รักสนุก พระองค์จัดงานเลี้ยงฉลองวันประสูติครบรอบปีที่ 34 โดยจัดเป็นงานเลี้ยงสวมหน้ากากแฟนตาซี ก็ด้วยหวังว่าจะมีบรรดาสาวๆ หน้าใหม่ ใสบริสุทธิ์ไม่เคยต้องมือภุมรินใด ได้มาร่วมงานให้พระองค์ได้เชยชมในค่ำคืนนี้ หลังจากงานเลี้ยงเลิกราแล้ว แต่ทว่าบรรดาสาวๆ ที่ต่างก็ตบเท้าเข้ามาในงานเลี้ยง ล้วนแต่เป็นหน้าเดิมที่เคยผ่านมือพระองค์มาทั้งสิ้น และแม้พวกเธอเหล่านั้นจะสวมหน้ากากแฟนตาซี ปกปิดหน้าตาเอาไว้เกือบครึ่ง แต่พระองค์ก็ยังคงจำพวกเธอได้อยู่ดี            องครักษ์ คาฟาลได้ยินคำตอบของเจ้าเหนือหัวหนุ่มแล้ว ก็ได้แต่ลอบถอนหายใจยาว นึกอยากแช่งให้ท่านชีค ที่ใช้ผู้หญิงเปลืองเสียยิ่งกว่ากระดาษทิชชู่ ได้พบกับหญิงสาวที่จะสามารถลบลายความเจ้าชู้ ลบลายคาสโนวาของพระองค์ได้ในเร็ววัน            “กระหม่อมคิดว่าคงไม่มีหญิงสาวใดที่สะอาดบริสุทธิ์ หลงเหลือมาถึงฝ่าบาทแล้วพ่ะย่ะค่ะ เพราะสาวๆ แต่ละคนที่เสนอตัวให้ฝ่าบาท ก็ล้วนแต่ผ่านเวทีรักมาจนเจนจัดกันทุกคนแล้วพ่ะย่ะค่ะ”            องครักษ์เอกเอ่ยพูดตามที่ตนเองได้ประสบพบเจอมา ซึ่งใช่ว่าต้องการจะดูถูกบรรดาดารา นางแบบ หรือไฮโซเหล่านี้ไม่ แต่เป็นเพราะพวกเธอเหล่านี้ ที่ได้เสนอตัวเสนอกายเพื่อมาอยู่รับใช้ท่านชีคฮาริค แค่เพียงไม่กี่ค่ำคืน หรือแค่เพียงไม่กี่ชั่วโมง ล้วนแต่เป็นสาวๆ ที่เจนจัดเก่งกาจเรื่องอย่างว่ากันทั้งนั้น            ชีคฮาริคทรงถอนหายใจลึก พลางโยนแก้วบรั่นดีที่ไม่เหลือน้ำสีอำพันแม้แต่หยดเดียวคืนให้กับองครักษ์ คาฟาลที่รับไปถือไว้แทบไม่ทัน จากนั้นก็ผุดลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ก่อนจะตรัสบ่นกับองครักษ์เอกอีกครั้ง            “สงสัยชาตินี้เราคงไม่เจอชายาที่สะอาดบริสุทธิ์ เหมาะสำหรับการเป็นแม่ที่ดีให้กับลูกๆ ของเรา และเหมาะสำหรับการเป็นชายาที่งดงามคอยอยู่เคียงคู่เรา เพราะหากให้เราคว้าพวกเธอที่มาร่วมงานเลี้ยงในคืนนี้เป็นชายา เราคงรับประทานไม่ลงแน่”            “สักวันพระองค์ต้องเจอหญิงสาวที่ใช่ ที่จะเป็นพระชายาที่แสนงดงาม คอยอยู่เคียงคู่เป็นกำลังใจให้กับพระองค์อย่างแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”            องครักษ์ คาฟาลพยายามเอ่ยปลอบ แกมให้กำลังใจท่านชีคผู้องอาจ ซึ่งตัวเขาเองก็อยากจะเห็นหน้าหญิงสาวผู้งดงาม และเป็นหญิงสาวที่ถือได้ว่าเป็นผู้โชคดีที่สุดในรอบปี ว่าจะเป็นหญิงใด ชาติใด ที่จะสามารถทำให้ท่านชีคฮาริคได้รักใคร่หลงใหล มอบใจภักดิ์ให้กับเธอได้             “งมเข็มในมหาสมุทรยังจะง่ายกว่านะ คาฟาล” ชีคฮาริคโต้กลับคำพูดขององครักษ์เอกแทบจะทันที พร้อมกันนั้นก็ได้ชี้นิ้วไปยังชุดร่วมงานเลี้ยงสีดำสนิท ที่ได้แขวนไว้ที่หน้าตู้เสื้อผ้า ให้องครักษ์คาฟาลได้หยิบออกมาช่วยสวมให้กับพระองค์            องครักษ์ คาฟาลมองตามปลายนิ้วแข็งแกร่ง ที่ได้ชี้ไปยังชุดแฟนตาซีที่แขวนอยู่หน้าตู้เสื้อผ้า ก่อนจะขมวดคิ้วเข้าหากันยุ่ง แล้วเอ่ยถามออกมาด้วยความสงสัย            “ฝ่าบาทจะไปร่วมงานเลี้ยงต่อหรือพ่ะย่ะค่ะ”            “อืม...ใช่” ชีคฮาริคตรัสตอบสั้นๆ ก่อนจะสลัดเสื้อผ้าตัวเก่าออก เหลือเพียงกายเปล่าเปลือย เผยให้เห็นเรือนกายล่ำสันบึกบึนเต็มไปด้วยมัดกล้าม อย่างคนที่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ            องครักษ์ คาฟาลเกาหัวตัวเองแกร็กๆ ใบหน้าคมเข้มไม่ต่างจากผู้เป็นเจ้าเหนือหัว เต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถามที่วิ่งวนไปทั่ว ขณะที่ได้หลุดปากเอ่ยถามท่านชีคต่อ            “ก็ไหนเมื่อสักครู่ฝ่าบาทบอกว่าเบื่อ! อยากจะล้มงานเลี้ยงล่ะพ่ะย่ะค่ะ”            ชีคฮาริคยิ้มเจ้าเล่ห์อยู่ตรงมุมปาก ก่อนจะตรัสตอบอย่างผู้ที่เอาแต่ใจตนเป็นใหญ่            “ก็ตอนนี้เราเปลี่ยนใจแล้ว และก็อยากออกไปดูสาวๆ หน่อย เผื่อว่าจะเจอคนที่ถูกใจ จะได้คว้ามานอนกอดให้หายหนาวในคืนนี้”            องครักษ์ คาฟาลลอบถอนหายใจยาวเป็นครั้งที่สิบเห็นจะได้ แต่เมื่อไม่อาจต้านความประสงค์ของผู้เป็นเจ้าเหนือหัวได้ ก็ได้แต่หยิบเสื้อผ้ามาช่วยสวมใส่ให้กับชีคผู้อาจหาญ พร้อมกันนั้นก็ได้ภาวนา บนบานศาลกล่าวอยู่ในใจแต่เพียงผู้เดียว ‘สาธุ...ขอให้ท่านชีคเจอแม่เสือสาวที่จะลบลาย ขจัดความเจ้าชู้ออกไปจากตัวฝ่าบาทสักทีเถอะ หากท่านชีคเจอหญิงงามที่ใช่ จนยอมมอบใจภักดิ์ให้ ภายในค่ำคืนนี้ ลูกช้างจะถวายผลหมากรากไม้ เห็ด เป็ด ไก่ สัก 9 ชุดเลยครับ’ ชีคฮาริคเหลือบสายตามาเห็นเข้าพอดิบพอดี ตอนที่องครักษ์ คาฟาลทำปากพะงาบๆ ราวกับกำลังพูดอยู่กับใครอยู่ ก็ได้ตะคอกถามเสียงดังลั่นติดห้วนๆ จนผู้เป็นองครักษ์เอกถึงกับสะดุ้งเฮือกหน้าถอดสีด้วยความตกใจ            “ คาฟาล! เจ้าบ่นอะไร ทำปากขมุบขมิบราวกับกำลังร่ายคาถายังไงยังงั้น”            “เอ่อ...ปะ...เปล่าพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท กระหม่อมไม่ได้พูดอะไรเลยนะพ่ะย่ะค่ะ”            องครักษ์ คาฟาลแก้ตัวไปแบบน้ำขุ่นๆ พร้อมกันนั้นก็รีบก้มหน้าก้มตาช่วยท่านชีคแต่งกายให้เรียบร้อย จากนั้นก็หยิบหน้ากากสีทองรูปสิงโตมาให้เจ้าเหนือหัวได้สวมใส่เฉกเช่นแขกเหรื่อที่มาร่วมงาน ซึ่งล้วนแต่สวมหน้ากากด้วยกันทั้งสิ้น        
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม