บทที่ 9

1197 คำ
“ไม่ๆ ไข่หวาน เธอต้องสวมชุดราตรีเหมือนที่สาวๆ พวกนั้นได้สวมกัน” ดารีนแย้มยิ้มหวานขณะเอ่ยค้านเพื่อนสาวแสนสวย จากนั้นก็เดินไปหยิบกล่องขนาดย่อมในกองสัมภาระของตนเองมายื่นให้กับบัณฑิตา “เอ้า...เอาไป ฉันให้เธอยืมใส่ก่อน” บัณฑิตารับกล่องกระดาษสีสวยมาถือไว้อย่างงงๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นเอ่ยถามผู้ที่ยื่นมันให้กับเธอ ด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสงสัย “อะไรหรือดารีน” ดารีนเปิดฝากล่องออก พร้อมกับเอ่ยไขข้อสงสัยว่าข้างในนั้นมันคืออะไรกัน “ชุดราตรียังไงล่ะ ก่อนที่จะมาทำงาน ฉันแวะไปช้อปปิ้งที่ห้างฯ แล้วก็ได้ซื้อชุดราตรีสีแดงเพลิงชุดนี้ติดมือมาด้วย ฉันให้เธอยืมใส่ก่อน รับไปสิไข่หวาน” “จะดีหรือดารีน เธอเพิ่งซื้อมาใหม่ๆ ยังไม่ได้ใส่เลยนะ แล้วจะเอามาให้ไข่หวานใส่ก่อน มันคงไม่ดีเท่าไร” บัณฑิตาบ่ายเบี่ยงที่จะหยิบยืมชุดราตรีของเพื่อนสาว ซึ่งที่ทำไปหาใช่เพราะรังเกียจไม่ แต่คิดว่ามันไม่สมควรอย่างยิ่งที่เธอจะมาสวมใส่ชุดใหม่ ก่อนที่ผู้เป็นเจ้าของจะได้สวมมัน “เอาน่า...ไข่หวาน อย่ามามัวเกรงอกเกรงใจกันเลย ตอนนี้เธอต้องทำทุกอย่างเพื่อไข่ตุ๋นนะ ถ้าไม่ได้เงินห้าล้าน ไข่ตุ๋นก็คงถูกพวกมาเฟียเล่นงานเอา คราวนี้คงถูกตุ๋นสมชื่อแน่” ดารีนพยายามย้ำเตือนให้บัณฑิตาได้นึกถึงน้องสาวเข้าไว้ พร้อมกันนั้นก็ได้ฉุดแขนเจ้าของร่างบางระหงให้ลุกขึ้นยืน ก่อนจะดุนดันให้อีกฝ่ายได้เดินเข้าไปเปลี่ยนชุดในห้องน้ำ “รีบๆ ไปเปลี่ยนชุดซะ ส่วนเรื่องหน้ากาก เดี๋ยวฉันจัดการหามาให้เอง” บัณฑิตายอมลุกขึ้นตามแรงฉุดดึงของดารีน และก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ เพื่อเปลี่ยนมาใส่ชุดราตรีสีแดงเพลิง ก็ไม่ลืมโผเข้าไปสวมกอดเพื่อนรักไว้แนบแน่น “ดารีน ขอบใจเธอมากนะ เธอเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดที่ไข่หวานเคยมี”  “ย่ะ! แม่ไข่หวาน คงเป็นเวรเป็นกรรมของฉันเองแหละ ที่ต้องมาเป็นเพื่อนกับเธอและยายไข่ตุ๋นตัวแสบ” บัณฑิตาหัวเราะร่วนกับคำประชดประชันอันแฝงไปด้วยความรัก ที่ดารีนได้เอ่ยพูดมา หญิงสาวแย้มยิ้มให้กับดารีนอีกครั้ง ก่อนจะเดินเร็วๆ เข้าไปในห้องน้ำ เพื่อเปลี่ยนชุดออกไปเล่นเกมรจนาเสี่ยงคู่กับท่านชีคฮาริค เพียงแค่ว่าคราวนี้ไม่ใช่ฝ่ายหญิงที่ต้องโยนพวงมาลัย แต่เป็นฝ่ายชายต่างหาก ที่ต้องโยนพวงมาลัยเลือกหญิงสาวสวยๆ ไปประคองกอดตลอดราตรีกาลอันหนาวเหน็บ อีก 10 นาทีต่อมา บัณฑิตาก็ออกมาจากห้องน้ำในชุดราตรีสีแดงเพลิง ที่เข้ารูปได้สวยกับเรือนร่างอรชรอ้อนแอ้นของเธอ ชุดราตรีสีแดงเพลิงแบบเกาะอก จับจีบตรงเอวคอดกิ่วปล่อยชายยาวเฟื้อยไปกับพื้นพรม ช่วยขับผิวของผู้สวมใส่ให้ดูขาวผ่องชวนพิศยิ่งนัก ขนาดว่าผู้เป็นเจ้าของชุดที่เดินกลับเข้ามาในห้องอีกครั้งพร้อมกับหน้ากากสีทองในมือ ถึงกับตกตะลึงไม่นึกว่าชุดราตรีที่มองดูราบเรียบตอนอยู่บนหุ่นในร้าน จะดูสวยงามขึ้นมาทันที เมื่อได้ผู้สวมใส่ที่แสนจะงดงามอย่างบัณฑิตา “อุแม่เจ้า! เธอสวยมากเลยไข่หวาน” บัณฑิตาหมุนตัวไปมาหน้ากระจกเงาบานใหญ่ ก่อนจะเอ่ยถามเพื่อนสาวด้วยความไม่มั่นใจ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอมีโอกาสได้สวมใส่ชุดแบบนี้ “สวยจริงหรือดารีน แต่ไข่หวานว่าชุดมันคับๆ ไปนะ ยิ่งตรงหน้าอกนะ มันรัดติ้วจนไข่หวานหายใจแทบไม่ออก” ดารีนหลุบสายตามองตามคำบอกของบัณฑิตา พอได้เห็นดอกบัวปริ่มน้ำ ขาวผ่องยองใยที่ดูอะร้าอร่ามเกือบล้นจากขอบชุดราตรี ก็ถึงกับเบิกตาโตไม่นึกว่าเพื่อนสาวจะซ่อนรูปได้ถึงเพียงนี้ “ไข่หวาน เคยมีใครบอกไหมว่าเธอเป็นคนที่สวยที่สุด” บัณฑิตาส่ายหน้าปฏิเสธ พลางขยับตัวเสื้อให้เข้าที่เข้าทางให้มากกว่าเดิม จากนั้นก็เอ่ยถามความเห็นเพื่อนสาวอีกครั้ง “ดารีน เธอว่ามันไม่คับแน่นเกินไปหรือ มองดูแล้วน่าเกลียดจัง” “ไม่เลยไข่หวาน ผู้ชายคนไหนเห็นว่าเธอสวมชุดนี้แล้วน่าเกลียด ผู้ชายคนนั้นมันก็ตาบอดแล้ว” ดารีนค้านความคิดของเพื่อนสาวแสนสวย ยอมรับว่าบัณฑิตาสวยงดงามไม่ต่างจากเจ้าหญิง เมื่อได้อยู่ในชุดราตรีสีแดงเพลิง เธอเชื่อว่าหากชีคฮาริค ผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเสือผู้หญิงตัวยงได้เห็นบัณฑิตาเข้า จะต้องทรงชื่นชอบเพื่อนสาวของเธออย่างแน่นอน “นั่งลงนะไข่หวาน เดี๋ยวฉันแต่งหน้าทำผมให้อีกนิดหน่อยก็เรียบร้อยแล้ว” ช่างแต่งหน้าทำผมจำเป็น ได้จับร่างบางระหงในชุดราตรีแสนสวยให้ทรุดกายลงนั่งหน้าตนเอง จากนั้นก็ลงมือแต่งหน้าทำผมให้กับบัณฑิตาด้วยหลักสูตรเร่งรัด เพียงไม่กี่นาทีก็เสร็จเรียบร้อย ซึ่งนาทีนี้เธอต้องทำทุกอย่างให้เร็ว ให้ไวที่สุด เพราะเวลากำลังงวดไล่หลังมาทุกขณะจิตแล้ว “เสร็จแล้วไข่หวาน” ดารีนวางอุปกรณ์แต่งหน้าทำผมลง พร้อมกับจับร่างเพื่อนสาวให้หันซ้ายหันขวาสำรวจความเรียบร้อยอีกครั้ง ก่อนจะไปปรากฏโฉมต่อสายตาของชีคฮาริคในนาทีถัดไป “สวยไม่มีที่ติเลยไข่หวาน เธอคนเดียวเท่านั้น ที่สมควรจะได้เป็นซินเดอเรลล่าในคืนนี้” “เดี๋ยวก็รู้ว่าจะได้เป็นซินเดอเรลล่าหรือได้เป็นนางซินเหมือนเดิม” บัณฑิตาเอ่ยอย่างปลงๆ พอได้มองตัวเองในกระจกเงา ก็รู้สึกได้ว่าตัวเธอนั้นแปลกตาไปจริงๆ ชุดราตรีเกาะอกสีแดงเพลิง ส่งให้เธอดูสวยสง่าราวกับเจ้าหญิงในนิทาน “เอานี่ ดื่มพั้นซ์ย้อมใจหน่อยนะไข่หวาน” ดารีนรินพั้นซ์สีสวยมาให้เพื่อนรักครึ่งแก้ว ซึ่งบัณฑิตาก็ได้ส่ายหน้าปฏิเสธรัวเร็ว “ไม่เอาหรอกดารีน” “เอาหน่อยน่าไข่หวาน ย้อมใจสักนิด จะได้กล้าเข้าไปเดินเฉิดฉายสู้กับพวกนางแบบดาราที่อยู่ในห้องจัดเลี้ยง” ดารีนคิดว่าบัณฑิตาไม่อยากดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ผสมอยู่ด้วย จึงได้คะยั้นคะยอให้บัณฑิตาได้ดื่มน้ำพั้นซ์ เพื่อเป็นการสร้างแรงกระตุ้น เพิ่มความกล้าให้กับตัวเอง แต่พอได้ยินความต้องการของเจ้าของนัยน์ตาสีนิล ก็ถึงกับหัวเราะร่วนอย่างกลั้นไว้ไม่อยู่ “พั้นซ์นะน้อยไป ไข่หวานของบรั่นดีสักอึกสิดารีน”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม