“พรุ่งนี้คุณแจ๊คกี้จะออกเดินทางจากกระบี่กี่โมงคะ”
“ประมาณบ่ายๆ ครับ แล้วครีมล่ะกลับกี่โมง” พูดเรื่องนี้ขึ้นมาก็พา ใจหายด้วยกันทั้งคู่ สีหน้าของเขาและเธอหมองไปในทันที
“เครื่องบินออกตอนเที่ยงค่ะ ครีมออกจากที่นี่ประมาณสิบโมงครึ่ง”
“เราคงไม่ได้เจอกันอีก ผมอยากอยู่ที่นี่ต่ออีกสักหน่อย ถ้าไม่ติดว่าต้องไปเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่ผมเป็นพรีเซ็นเตอร์อยู่ ผมจะเบี้ยวงานจริงๆ นะเนี่ย” คนที่สวมหมวกแก๊ปพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเนือยๆ เหมือนจะขาดใจ
“ครีมขอตัวนะคะ ลาก่อนนะคะคุณแจ๊คกี้”
พิมวดีพูดตัดบทพร้อมกับกล่าวคำลา มือเล็กผลักประตูห้องเข้าไปด้วยมือที่สั่นเทา กะพริบตาถี่เพื่อขับไล่น้ำตาให้ไหลกลับเข้าไปข้างใน ร้องไห้ จะร้องไห้ทำไม แค่ไม่ได้เจอเขาอีกแล้วเท่านั้นเอง
เดวิสมองตามแผ่นหลังของหญิงสาวที่ทำให้เขาตระหนักได้ในเวลานี้ว่าพิมวดีคือรักแรกพบ ความรักที่โถมทับเข้ามาโดยไม่รู้ตัว ความรักที่เกิด ขึ้นในระยะเวลาแสนสั้น ซึ่งเขาเองไม่เคยเกิดความรู้สึกเช่นนี้กับใครมาก่อน พรุ่งนี้คือวันที่เขาและเธอจะต้องจากกัน แล้วอีกนานแค่ไหนกว่าที่หนทางของทั้งสองจะบรรจบลงอีก นั่นแหละคือคำตอบที่เขาต้องค้นหาให้ ได้
“ผมไม่ปล่อยให้ครีมหลุดไปจากหัวใจของผมแน่” คำพูดเบาๆ หลังจากที่บานประตูห้องพักของหญิงสาวปิดลง
09.30 น. ของวันรุ่งขึ้น
เดวิสตัดสินใจเดินทางมายังโรงแรมที่พิมวดีพัก เพื่อพูดบางประโยคกับเธอ หลังจากที่เมื่อคืนเขาคิดทบทวนถามหัวใจตัวเองหลาย ครั้งว่ารู้สึกเช่นไรกับพิมวดี รักหรือหลงในรูปกายสวยงาม ก่อนที่เขาจะ ค้นพบคำตอบที่เด่นชัดในใจ มือใหญ่ยกขึ้นเคาะประตูห้องพักของสาวชาวไทย มืออีกข้างถือช่อดอกกุหลาบสีขาวช่อใหญ่เอาไว้ ยืนรอเจ้าของห้องด้วยหัวใจที่เต้นไม่เป็น จังหวะ
“คุณแจ๊คกี้” พิมวดีมองหน้าคนที่เคาะประตู เรียกชื่อเขาเบาๆ ด้วย ความตกใจ แล้วเป็นอีกครั้งที่เขายื่นช่อดอกไม้ให้กับเธอ
“ดอกไม้สำหรับเจ้าหญิงของผมครับ” เขายื่นช่อดอกไม้พร้อมกับวาจาระรื่นหู พิมวดียิ้มสวยก่อนจะยื่นมือไปรับ
“ไม่คิดว่าคุณแจ๊คกี้จะมา ครีมกำลังเตรียมตัวไปสนามบินอยู่พอดีเลยค่ะ” เธอพูดเมื่อเดินเข้ามาในห้อง โดยมีร่างของเดวิสเดินตามไม่ห่าง
“คุณแจ๊คกี้มีอะไรหรือเปล่าคะ ถึงได้มาที่นี่”
เจ้าของห้องพักถามจุดประสงค์ของผู้มาเยือน นำช่อดอกไม้ไปวางไว้ บนโต๊ะตรงโซฟา ไม่รู้ตัวเลยว่าร่างสูงใหญ่ยืนอยู่ด้านหลังในระยะประชิด พอเธอหันกลับมาร่างบางจึงปะทะกับร่างสูงหนาของเขาพร้อมกับคำอุทาน “ว้าย”
“ผมมีเรื่องอยากจะบอกครีมครับ”
เขาไม่พูดเปล่ายังใช้ลำแขนรัดร่างสาวไว้ค่อนข้างแน่น จนร่างของเขาและเธอแนบชิดกัน พิมวดีตระหนกตกใจ หัวใจสั่นสะท้านไหวระริกทำอะไรไม่ถูก มือเล็กหมายจะยกดันร่างสูงทว่ามันกลับหนักอึ้ง ยกไม่ขึ้นเอาดื้อๆ
“บะ...บอกอะไรคะ” เธอถามเสียงสั่น
“ผมจะบอกครีมว่าผมรักครีม ผมรู้ว่ามันอาจจะเร็วเกินไปสำหรับ คำๆ นี้ แต่ผมอยากจะบอกว่าคำว่ารักมันวิ่งมาหาผมอย่างรวดเร็วและไม่ทันได้ตั้งตัว ครีมเป็นรักแรกพบที่ผมไม่คิดว่าตัวเองจะได้เจอ ไม่ใช่เพราะความสวยของครีม ความสวยงามของสตรีผมเห็นมามากมายหลายร้อยคน แต่ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนทำให้หัวใจชะงักงันได้เหมือนครีม
ครีมทำให้ผมมีความสุข รู้ซึ้งถึงคำว่าความสุขอยู่ที่ใจได้อย่างถ่องแท้ ผมตัดสินใจมาบอกครีมวันนี้เพราะไม่รู้ว่าจะมีโอกาสบอกครีมวันไหน อีก อย่างผมอยากให้ครีมได้รู้ถึงความรู้สึกในใจของผมที่มีต่อครีม ผมรักครีมนะครับ”
พิมวดีอ้าปากค้าง ดวงตาขยายกว้าง มือสั่น ตัวสั่น หัวใจสั่นมาก ที่สุด ประโยคของเขาเป็นอะไรที่เหนือความคาดหมายเป็นคำพูดที่เธอไม่ คิดว่าจะได้ยิน
เขารักเธอ...เดวิส แคนดี้ นายแบบหนุ่มรูปงามเจ้าของดวงตาสีฟ้า มหาเสน่ห์ ชายหนุ่มที่สาวๆ ครึ่งค่อนโลกหลงใหลและคลั่งไคล้ ไม่เว้น แม้แต่พิมพิชชาผู้เป็นพี่สาว
ฝัน...ฝันไปหรือเปล่า ใช่...เธออยู่ในความฝันแน่ๆ แต่ทำไมหัวใจจึง เต้นเร็วและแรง เต้นโครมครามจนเธอได้ยินเสียง อีกทั้งความอุ่นร้อนจาก ร่างกายหนาที่ไหลผ่านเข้ามาในร่างกายของเธอ รู้สึกซาบซ่านระคนอบอุ่น ความมั่นใจยังไม่เต็มร้อยว่าเป็นความฝันหรือว่าความจริง นิ้วเรียวเล็กของ เธอจึงหยิกไปบนลำขาของตัวเอง ความเจ็บเกิดขึ้นบ่งบอกให้เธอรู้ว่ามันคือความจริง เดวิสบอกรักเธอ วินาทีนี้คนที่ถูกบอกรักอยากจะเป็นลมเสียให้ได้
“ครีม ครีม...เอ่อ” พิมวดีพูดไม่ออก สมองมึนงงจนคิดอะไรไม่ออกจึงกลั่นออกมาเป็นคำพูดไม่ได้
“ผมไม่เร่งรัดครีมนะครับ แต่ขอโอกาสให้ครีมเปิดใจรับผมพิจารณาผมเป็นคนแรก”
เขาพูดต่อเมื่อเห็นอาการอ้ำอึ้งของเธอ ลำแขนที่โอบรัดร่างสาวแน่น ยิ่งขึ้น พร้อมกับใบหน้าหล่อก็โน้มต่ำลงมา หัวใจสาวเพิ่มอาการสั่น และอัตราความเร็วมากกว่าเดิม
“ผมจะรอจนกว่าความรู้สึกของเราตรงกันนะครับ แต่ตอนนี้ผมขอตีตราจองก่อนนะครับ”
เสียงห้าวพูดชิดริมฝีปากอิ่มสีสวย เจ้าของเรียวปากบางตกอยู่ในสภาวะไม่เข้าใจความหมายที่เขาเอ่ยขึ้น จนกระทั่งความนุ่มร้อนจากกลีบ ปากหนาแตะสัมผัสกับปากของเธอ เดวิสเพิ่มน้ำหนักการบดทับมากขึ้น เคล้นคลึงไปมาอย่างหยอกล้อ ก่อนจะใช้ปลายลิ้นสากใหญ่ไล้เลียระหว่างกลีบปากล่างและบนของเธอ เพื่อให้หญิงสาวยอมเปิดปากออกแล้วมันก็ได้ผล หญิงสาวแย้มปากออกโดยอัตโนมัติ วินาทีต่อมาลิ้นหนาก็ล่วงล้ำเข้าไปในโพรงปากหอมหวาน
ปลายลิ้นสากกระหวัดเกี่ยวลิ้นเล็กอย่างช่ำชอง จุมพิตของเขาไม่หยาบโลนตรงกันข้ามกลับอ่อนหวาน ทะนุถนอมราวกับเธอเป็นของมีค่า ไม่รีบเร่งที่จะควานหาความหวาน ค่อยๆ ชิม ค่อยๆ ลิ้มรสความหอม ความหวานอย่างเชื่องช้านำความรู้สึกที่ได้รับแทรกซึมเข้าไปในหัวใจ
“ผมรักคุณ...ครีม”
เขาเอ่ยบอกคำว่ารักกับพิมวดีอีกครั้ง หลังจากถอนจุมพิตจากกลีบปากอิ่ม คนที่ถูกจูบเงยหน้ามองผู้พูด ใบหน้าอิ่มซ่านไปด้วยความเขินอาย ขยับปากพูดความรู้สึกของตนเองบ้าง
“ครีมจะบอกความรู้สึกของครีมเมื่อครีมพร้อมนะคะ คุณแจ๊คกี้รอคำตอบจากครีมนะคะ” แค่ประโยคนี้ประโยคเดียว ก็ทำให้หัวใจของเขา เกิดความชุ่มฉ่ำ เขาจะรอวันนั้นรอวันที่เธอพร้อม
“ผมจะรอ...จะรอวันนั้น”
เขาพูดกับคนในอ้อมกอด ลำแขนเรียวเล็กค่อยๆ ยกขึ้นสูง โอบกอด รอบลำตัวใหญ่กอดเหมือนที่เขากอดเธอ... แนบแน่น และเต็มไปด้วยความรู้สึกอบอุ่น
พิมวดีไม่เคยรู้จักความรักมาก่อน มันวิ่งมาหาอย่างรวดเร็วและไม่ทันตั้งตัวเหมือนกับที่เขารู้สึก ความรู้สึกสับสนในใจหมดลงไป หลังจากที่ ริมฝีปากของเขาแนบสนิทบนเรียวปากของเธอ วินาทีนั้นเองที่ทำให้ หญิงสาวตระหนักว่าหัวใจดวงนี้มอบให้เขาไปแล้ว ทว่าเธอยังไม่กล้าเอ่ยคำรักให้เขาได้รับฟัง พิมวดีต้องการความมั่นใจ ความแน่ใจให้มากกว่านี้เพื่อที่จะบอกคำว่า “รัก” กับเขาอย่างเต็มปากเต็มคำ