พอพรีมกดรับสาย เสียงของคำถามจากอีกฝ่ายก็ดังออกมาจากโทรศัพท์ทันที
(ถึงบ้านแล้วเหรอ)
“ถึงแล้วค่ะ”
(พี่เพิ่งประชุมเสร็จ ขอโทษด้วยนะที่ไม่ได้ไปรับ)
“ไม่เป็นไรค่ะ พี่ธีร์คะ พรีมมีเรื่องจะขอ”
(อืม พูดมาสิ)
“พี่ธีร์จะว่าอะไรไหมคะถ้าคืนนี้พรีมจะขอออกไปเที่ยวกับเพื่อน” ขณะที่เอ่ยก็มองหน้ายิ้มๆ กับเพื่อนรัก พลางลุ้นไปด้วยกันว่าจะได้รับคำตอบเช่นไรกลับมา
(เพื่อนผู้หญิงหรือผู้ชาย)
“ทั้งสองค่ะ”
(อืม)
“อืมนี่คือให้พรีมไปใช่ไหมคะ” พรีมถามต่ออย่างไม่ค่อยไม่มั่นใจ
(อืม แค่นี้ก่อนนะ ไว้เจอกันที่บ้าน)
“ค่ะ”
พรีมกดวางสาย เสียงกรี๊ดเบาๆ ของเพื่อนสาวก็ดังขึ้นอยู่ข้างๆ อย่างคนดีอกดีใจจนออกนอกหน้า
“จะดีใจอะไรขนาดนั้น”
“ก็ดีใจแทนแกไง ฉันก็นึกว่าพี่ธีร์จะไม่ให้ไปแล้วซะอีก นี่ยังดีนะที่ยังให้แกได้ออกไปเปิดหูเปิดตาบ้าง”
“เขาก็เป็นแค่คู่หมั้นไหมแก คงไม่ถึงกับควบคุมความประพฤติฉันหรอก” พรีมเอ่ยขำๆ
ถ้าถึงขนาดไม่ให้ออกไปไหนเลยก็คงจะเกินไป เราทั้งสองก็แค่หมั้นกันตามที่ผู้ใหญ่ร้องขอก็เท่านั้น ไม่มีสิทธิ์ไปบังคับชีวิตของใครให้ทำตามใจตัวเองได้หรอก
นิวเยียร์นั่งคุยเป็นเพื่อนจนถึงบ่ายสามก็ขอตัวกลับบ้าน ส่วนพรีมก็ส่งข้อความไปบอกเพื่อนชายว่าคืนนี้เธอตกลงจะออกไปเที่ยวด้วยกัน
ห้าโมงเย็นธีร์ก็กลับมาถึงบ้าน เขาขึ้นไปบนห้องเพื่อเอากระเป๋าขึ้นไปเก็บและถอดเสื้อสูตตัวนอกกับเนกไท ก่อนจะลงมาชั้นล่างของบ้านเพื่อมองหาหญิงสาวที่ไม่รู้ว่าตอนนี้หายไปไหน
วันนี้พรีมอาสาเป็นลูกมือเข้าไปช่วยแม่บ้านของที่นี่ทำอาหารอยู่ในครัว ถึงเธอจะทำอาหารไม่เก่งแต่ถ้าให้ช่วยหยิบจับ หรือเตรียมวัตถุดิบก็ยังพอทำได้อยู่บ้าง
“พรีม” เสียงทุ้มดังขึ้นจากทางด้านหลัง
“กลับมาแล้วเหรอคะ พรีมกำลังช่วยป้าสายบัวทำอาหารเย็นให้พี่ธีร์อยู่ค่ะ” พรีมเอ่ยพร้อมกับมือที่ช่วยซอยผักอย่างช้าๆ
“ทำให้พี่” ธีร์ถามกลับ แค่จะออกไปเที่ยวกับเพื่อนถึงกับต้องทำอาหารเอาใจกันเลยหรือ
“ค่ะ พี่ธีร์ไปนั่งรอนะคะ อีกสักพักก็เสร็จแล้ว”
ธีร์หันหลังเดินออกไปตามคำขอของเธอ เวลาผ่านไปเกือบสี่สิบนาทีพรีมก็ออกมาเรียกคนที่นั่งทำงานกับโน้ตบุ๊กคู่ใจในห้องนั่งเล่นไปกินมื้อเย็นด้วยกัน
“นัดเพื่อนไว้กี่โมง”
“สองทุ่มค่ะ”
“เพื่อนที่ชื่อนิวเยียร์น่ะเหรอ แล้วผู้ชายล่ะ ใคร” ธีร์เงยหน้าจากจานข้าวจ้องมองใบหน้าหวานและถามเน้นย้ำตรงคำว่าใคร และรอฟังคำตอบอย่างไม่ละสายตา
“ก็คนที่พี่เห็นเมื่อเช้านั่นแหละค่ะ”
“ไว้ใจได้เหรอ” ธีร์ถามต่อ
“เพื่อนพรีมไว้ใจได้ทุกคนค่ะ พี่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ พรีมไปกับนิวเยียร์ ดื่มเสร็จนิวเยียร์ก็จะมาส่งที่บ้านเหมือนเดิม”
“พี่ไม่ได้ห่วง”
“โอเคค่ะ ไม่ห่วงก็ไม่ห่วง หวังว่าคงไม่โทรตามกลับบ้านเหมือนพรีมเป็นเด็กๆ นะคะ” พรีมถอนหายใจ นึกว่าถามมาตั้งหลายประโยคจะนึกเป็นห่วงกัน ที่ไหนได้ ถามไปงั้นๆ
“...” ไร้เสียงตอบกลับ เพราะอีกคนก้มหน้ากินข้าวไม่สนใจสิ่งที่เธอพูดเลยสักนิด
เมื่อกินกันอิ่มแล้ว พรีมก็ขึ้นไปอาบน้ำและแต่งตัวด้วยชุดมินิเดรสสายเดี่ยวสีดำ ความยาวกลางหน้าขาแต่แหวกขึ้นสูงเล็กน้อย ก่อนจะออกมานั่งแต่งหน้าที่โต๊ะกระจก
ธีร์ที่นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานเมื่อเห็นคู่หมั้นสาวออกมาในชุดแบบนั้นก็ดูจะขัดตาเอามากถึงกับลอบถอนหายใจ
“นี่เธอไปเที่ยวหรือไปอ่อยผู้ชาย”
“ไปเที่ยวผับนะคะไม่ได้ไปงานวัด มันก็ต้องมีโชว์บนโชว์ล่างบ้างสิคะพี่ธีร์” พรีมหันไปมองเจ้าของน้ำเสียง ยกยิ้มอย่างไม่ยี่หระ ใครๆ ก็แต่งตัวแบบนี้กันทั้งนั้น
“จำเป็นต้องโชว์ขนาดนั้นเลยเหรอ” ธีร์มองดูแล้วมันจะดูเผยส่วนบนส่วนล่างมากจนเกินไป ไม่เหมาะกับผู้หญิงที่ออกไปเที่ยวกลางคืนเลยสักนิด
“แล้วถ้าบอกว่าจำเป็นล่ะคะ” พรีมเอ่ยหยอกคนตรงหน้าเพราะอยากรู้ว่าเขาจะตอบกลับมาอย่างไร
“...” อีกคนแค่ทำหน้าเหนื่อยเพราะคร้านจะเถียงกันไปมา จึงถอนหายใจแล้วก้มหน้าทำงานต่อทำทีไม่สนใจ แต่ก็ปรายตามองไปที่เธอเป็นครั้งคราว
ยี่สิบนาทีต่อมาพรีมก็ได้รับข้อความจากเพื่อนรักว่ามาถึงแล้ว และจอดรถรออยู่หน้าบ้าน เธอจึงคว้ากระเป๋าสะพายใบเล็กที่ในนั้นมีแค่กระเป๋าเงิน โทรศัพท์ ก่อนจะออกจากห้องก็หันมาบอกกับเจ้าของบ้านอีกครั้ง
“พรีมไปก่อนนะคะพี่ธีร์”
“...” ธีร์แค่เงยหน้าขึ้นมองและให้ความเงียบกลับไป
พรีมคว้ารองเท้าส้นสูงสีดำที่อยู่ในห้องแต่งตัว แล้วรีบลงไปหานิวเยียร์ที่นั่งรออยู่ในรถ
“กว่าจะลงมาได้นะยัยพรีม” พอพรีมขึ้นไปนั่งบนรถนิวเยียร์ก็หันมาถามเพื่อนทันที พร้อมกับขับรถออกจากบ้านของธีร์ตรงไปสถานที่ที่ได้นัดกันไว้
“ฉันก็รีบมานี่แล้วไงยัยปีเก่า แล้วนี่แกอาบน้ำหอมมาหรือไง”
“หอมใช่ไหมล่ะ”
“หอมจนฉันแสบจมูกไปหมดแล้วเนี่ย” พรีมแกล้งทำคิ้วย่น ยกนิ้วขยี้จมูก มันหอมก็จริง แต่กลิ่นมันแรงไปหน่อย
“แบบนี้แหละเดินไปทางไหนผู้ชายก็ได้กลิ่น” นิวเยียร์ไหวไหล่ใส่เพื่อนอย่างไม่ยี่หระ จะออกบ้านทั้งที่ก็ต้องจัดเต็มทั้งเสื้อผ้าหน้าผม รวมทั้งกลิ่นตัวหอมๆ ไว้ล่อผู้ชายในผับ
สองสาวเดินทางไปถึงผับเอ็กซ์เลยเวลาที่ได้นัดหมายกันไว้เล็กน้อย เมื่อเดินเข้าไปด้านในที่มีไฟหลากสีเปล่งแสงวิบวับ ผู้คนมากหน้าหลายตาต่างพากันออกมาดื่มกันเนืองแน่นเต็มพื้นที่ด้านใน
พรีมและนิวเยียร์พากันมองหาโต๊ะของเพื่อนชายที่มาถึงก่อนหน้า และก็เห็นขุนเขานั่งอยู่ที่โซนด้านใน แต่โต๊ะนั้นมีผู้ชายอีกคนที่พวกเธอไม่รู้จักนั่งอยู่ด้วย
พอเดินไปถึงโต๊ะพรีมก็ย่อตัวลงนั่งที่เก้าอี้ว่างข้างขุนเขา ส่วนนิวเยียร์ก็ไปนั่งข้างหนุ่มหล่ออีกคน
“ไฮ หนุ่มๆ” นิวเยียร์ยกมือขึ้นส่งยิ้มทักทาย
“สวัสดีครับสาวๆ” ชายอีกคนทักทายกลับ พร้อมกับกระตุกยิ้มหล่อมองสองสาวสลับกันไปมา
“นี่ใครเหรอ” ด้วยเพลงที่เสียงดังพรีมโน้มใบหน้าสวยไปถามที่ข้างหูของขุนเขา เธอก็อยากรู้เหมือนกันว่าคนที่มานั่งดื่มด้วยคือใคร
“มันชื่อไบร์ท เป็นเพื่อนต่างมหา’ ลัย และก็เป็นน้องชายของเจ้าของผับน่ะ” ขุนเขาโน้มมาพูดที่ข้างหูของพรีม
“ดื่มกันเต็มที่เลยนะครับ เดี๋ยวผมเลี้ยงเอง” เพื่อนใหม่ที่เจอกันวันแรกก็แสดงความมีน้ำใจด้วยการเลี้ยงเหล้า
หล่อแล้วยังใจดีแบบนี้ แถมยังพูดจาด้วยน้ำเสียงหวานหูแบบนี้คงเดาได้ไม่ยากว่าเป็นเสือผู้หญิงอย่างแน่นอน