ทุกคนทานข้าวด้วยความสุขพ่อแม่พี่ชายถึงกับน้ำตาไหลที่ผ่านมาตั้งแต่แต่งงานกับมารดาบิดาก็ไม่เคยได้กินเนื้อเต็มปากเต็มคำ ต้องแอบย่างไปให้ภรรยาที่ทุ่งนาบางครั้งที่จับไก่ได้หลายตัวไปให้ แต่มันก็ไม่ใช่จะจับไปบ่อยได้เพราะมารดาจ้องมองครอบครัวของตนตลอดเวลาหาโอกาสช่างยากเย็น แม้คนที่หาเนื้อได้แต่ไม่เคยได้กินอิ่มเลยสักครั้ง เซียวอี้ถังน้ำตาซึมพอคิดถึงสิ่งที่ตัวเองกับลูกทุกคนถูกคนที่เป็นแม่ลำเอียงมาโดยตลอดจนบุตรชายอายุสิบเจ็ด ชีวิตของครอบครัวไม่เคยมีความสุขเหมือนที่ครอบครัวของคนอื่นเลย นางเซียวอี้หลันมองสามีคู่ทุกข์คู่ยากก็เข้าใจนางจับมือสามีและสบตากันด้วยความเข้าใจ
ตลอดเวลาที่แต่งงานกับสามีนางไม่เคยถูกสามีด่าว่าเขาดีกับนางทุกอย่างจนมีลูกสองคนชายหญิงเป็นโซ่คล้องใจ ปัญหาทุกอย่างมันอยู่ที่คนที่สามีเรียกว่าแม่กตัญญูทุกอย่างแต่ที่ได้รับกลับมาคือคำด่าทอทุกวัน ไม่เว้นแม้แต่ลูกทั้งสองที่ไม่เคยได้ใช้ชีวิตของวัยเด็กเหมือนบ้านอื่นเลย แต่ทุกคนก็อดทนกับการกตัญญูโง่ๆ เหมือนที่บุตรสาวบอกกับคนบางคนที่เกลียดเราทำให้ตายเขาก็ไม่เห็นค่าสู้มาทำให้ครอบครัวของเรากินอิ่นนอนหลับและใช้ชีวิตที่เหลือให้มีค่ากับลูกๆทั้งสองคนดีกว่า นางคิดและได้พูดคุยกันกับสามีในห้องนอนที่บุตรสาวมอบให้นางกับสามีห้องใหญ่สะดวกสบาย
"ท่านพ่อท่านแม่อย่าได้คิดถึงสิ่งที่มันผ่านมาอีกเลยเจ้าค่ะ จากนี้บุตรสาวคนนี้จะพาพวกท่านร่ำรวย กินเนื้อทุกมื้อที่ท่านอยากกินเจ้าค่ะสิ่งที่ผ่านมากลับไปแก้ไขไม่ได้แต่พวกเราจะทำทุกวันให้ดีต่อไปข้างหน้าเจ้าค่ะ"
เย่วเย่วบอกบิดามารดาด้วยรอยยิ้มคีบเนื้อใส่ถ้วยให้ทั้งสามคนที่นั่งกินมื้อเช้าร่วมกันด้วยรอยยิ้ม
"พวกเราเชื่อเย่วเอ๋อร์เด็กดี" มารดาเอามือลูบผมบุตรสาวด้วยแววตารักใคร่อบอุ่น
ตบท้ายด้วยด้วยผลไม้หวานๆจากไร่ของนางที่แช่เย็นล้างปากด้วยความอร่อยจนอิ่มแปล้กันไปถ้วนหน้า ในมื้อเช้าที่แสนอร่อยของครอบครัวสี่คนพ่อแม่ลูกในรอบหลายสิบปี
หลังจากนั้นนางก็ให้พี่ชายพยุงบิดาเข้าห้องและลงมือรักษาขาของบิดาด้วยการแพทย์สมัยใหม่ แผลนางก็ล้างจนสะอาดเอาเศษดินออกจนไม่มีสิ่งใดหลงเหลือ ล้างด้วยน้ำยาฆ่าเชื่อนางฉีดยาชาให้บิดาก่อน ตอนทำท่านจึงไม่รู้สึกเจ็บแผลเลย ให้กินแก้อักเสพ ยาฆ่าชื่อ แก้ปวดลดไข้นางลองเอาน้ำที่ผุดขึ้นสวนหลังบ้านทั้งที่มันไม่เคยมีมาก่อน ทั้งมีสีใสมีกลิ่นหอมลอยมาได้กลิ่นก็ผ่อนคลายสดชื่นยิ่งนัก หลังจากที่รักษาบิดาเรียบร้อยนางก็บอกมารดาว่าไม่ต้องออกไปด้านนอกมิติให้มารดาดูแลบิดาในนี้จนกว่าจะหายให้ร่างกายแข็งแรงดีก่อนค่อยออกไปทีเดียว นางกับพี่ชายจะออกไปเองถ้ามีคนมาจะบอกว่าท่านแม่ต้องคอยดูแลท่านพ่ออยู่ในห้อง
"ข้าคิดว่าคงไม่มีใครมาหาพวกเรากระมังเจ้าค่ะท่านแม่"
"ได้สิเย่วเอ๋อร์แต่ลูกก็ยังไม่แข็งแรงอย่าไปตากแดดแรงมากนะลูก"
มารดาบอกบุตรสาวก่อนจะเข้าห้องไปดูแลสามีนางล้มตัวลงนอนข้างสามีและหลับไปด้วยความเหนื่อยหล้า
หลังจากจากที่บุตรสาวให้นอนตามสามีหลับพักผ่อนจะได้มีแรงดูแลสามีเวลาที่เขาตื่น นางจับมือสามีและหลับไปด้วยรอยยิ้มองมือยังจับมือสามีไม่ปล่อยถึงแม้จะหลับไปแล้วก็ตาม
เย่วเย่วนางบอกกับพี่ชายว่าวันนี้ให้ทุกคนพักผ่อนให้หายเหนื่อยหล้าสักอาทิตย์เถอะรอบบ่ายค่อยนางจะพาพี่ชายไปทัวร์ในไร่ของนางทั้งหมดเอง พี่ใหญ่จึงยอมเข้าห้องนอนพักตามคำขอของน้องเล็ก นางยังให้ทุกคนดื่มน้ำจากบ่อน้ำผุดคนละแก้วก่อนจากนั้นก็เข้าห้องนอนพักก่อนวันพรุ่งนี้ยังอีกยาวไกลค่อยลงมือทำงานในไร่ในมิติก่อนค่อยออกไปด้านนอก
หลังจากที่ทุกคนได้นอนเต็มอิ่มและตื่นมากินมื้อเที่ยงและให้บิดากินยาเรียบร้อยแล้วให้มารดาคอยดูแล นางกับพี่ชายจึงพากันขี่รถจักรยานยนต์ของนางในมิติโดยพี่ชายเอาตระกร้าสะภายหลังซ้อนท้ายน้องสาวด้วยความตื่นเต้นที่ได้นั่งรถของน้องสาว มันเร็วมากเขาเอามือจับที่เหลือจับด้านหลังอย่างมั่นคง ตอนนี้สองพี่น้องขี่รถกินลมชมวิวคุยกันด้วยความสนุกนางพาพี่ชายจอดเก็บผลไม้และผักที่คนงานปลูกเอาไว้มากมายในพื้นที่ในไร่แห่งนี้เรียกได้ว่ากินไปทั้งชีวิตก็ไม่หมด
"พี่ใหญ่เจ้าคะข้าคิดว่าบ้านของท่านยายเราซ่อมแซมให้แข็งแรงเอาที่ค้ำตรงหลังคากันถล่มพอถึงหน้าหนาวนี้ เราจะยังไม่สร้างหลังใหม่กันตอนนี้ เพราะตอนกลางคืนพวกเราจะเข้านอนในมิติกัน พวกเราไม่ต้องรีบร้อนทำใหม่เดียวจะชาวบ้านจะจับผิดครอบครัวของเราเอาได้ ส่วนกระเบี้ยงเอาในมิติของน้องนี้ละออกไปซ่อมแต่ข้าว่าจะขอแรงชาวบ้านมาทำรั้วทำประตูใหม่เสียก่อนแล้วเราค่อยปลูกผักกินขายที่หลังบ้านจะได้มีข้ออ้างกลับชาวบ้านค่อยเป็นค่อยไปนะพี่ใหญ่" นางปรึกษาพี่ชาย
"เอาตามที่น้องเล็กว่า ดีเหมือนกันมีรั้วรอบขอบชิดเวลาที่พี่กับน้องเล็กทำอะไรจะได้สะดวกต่อครอบครัวของเราด้วยเย่วเอ๋อร์ของพี่ใหญ่ฉลาดที่สุด"
พี่ชายชมน้องสาวด้วยความภูมิใจจากนั้นนางก็บอกพี่ชายว่าผลไม้มีอะไรผักที่ปลูกกินได้ทุกอย่าง
"ไม่ต้องกลัวว่าพวกเราจะอดข้าจะพาครอบครัวของเรามีความสุขที่สุดในโลกเลยพี่ใหญ่อิๆๆ"
!!!!!โลกคืออะไรพี่ใหญ่คิด "......."
หลังจากที่พากันขี่รถจนรอบบ้านไร่ในมิติของน้องสาวจนหมดแล้วได้ของกินมากมายจนเต็มตระกร้า นางจึงพาพี่ชายมาถึงหน้าบ้านเห็นบิดามารดานั่งรอที่หน้าระเบียงพอเห็นหน้าบุตรสาวแล้วก็ลุกขึ้นยิ้มด้วยความดีใจ
"เย่วเอ๋อร์มาแล้วหรือลูก" มาดารเดินมามองไอ้ตัวประหลาดที่ลูกทั้งสองคนนั่งมันยังพาลูกของนางวิ่งอย่างรวดเร็ว
"ท่านแม่ทำไมพาท่านพ่อออกมานั่งข้างนอกละเจ้าคะไม่นอนพักให้หายดีก่อนค่อยเดินก็ได้เดี๋ยวจะปวดแผลได้นะเจ้าคะ" นางถามบิดาด้วยความเป็นห่วง
"เย่วเอ๋อร์ยากับน้ำวิเศษของลูกดีเหลือเกินพ่อไม่เจ็บแผลทั้งยังเหมือนว่ามันจะหายแล้วด้วย"
เสียงบิดาตอบด้วยความตื่นเต้นและลุกขึ้นเดินให้บุตรสาวกับบุตรชายดู
!!!!!!โอ้แม่เจ้ามีเรื่องตื่นเต้นเกิดขึ้นอีกแล้วน้ำผุดคือน้ำวิเศษรักษาการบาดเจ็บได้อย่างมหัสจรรย์เกินไปแล้ว
เย่วเย่วถึงกับตกตะลึงรวมถึงพี่ใหญ่ของนางด้วยพอได้ยินว่าบิดาหายแล้วจากน้ำพุวิเศษของน้องสาว มิน่าละเขาเหมือนจะรับรู้ว่าร่างกายแข็งแรงมากพอดื่มน้ำที่น้องสาวให้คนละแก้ว ขอบคุณสวรรค์ที่เมตาครอบครัวของลูกเซียวอี้เหอถึงกับคุกเข่าลงก้มหัวคารวะเทพเซียนด้ านหลังบ้านภูเขาที่เรียงรายหลายสิบลูกด้วยความดีใจรวมทั้งบิดามารดาของนางก็ทำเหมือนกันท่านแม่ยังดึงเอานางนั่งลงแล้วบอกให้นางทำเหมือนกับทุกคนอีกด้วย เย่วเย่วก็ทำตามครอบครัวเพราะไม่อยากให้ทุกคนสงสัยในตัวของนางเอง