“เธอนี่นะ เหลือกินเหลือใช้เหลือเกิน” ผู้ชายวัยเกือบเข้ากลางคน อายุไม่น่าเกินสี่สิบต้นๆ วิจารณ์เธอด้วยท่าทางน่ารังเกียจ สายตาโลมเลียนั่นยิ่งทำให้ณิรินขยะแขยงมากขึ้น “ถ้าเปลี่ยนใจ อยากขายสมบัติเก่าละก็ รีบบอกพี่เลยนะ”
ณิรินแอบผ่นลมหายใจ และแสยะยิ้ม “ตอนนี้ฉันยังไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินค่ะ หากฉันมีความจำเป็นฉันจะรีบมาหาพี่คนแรกเลยค่ะ”
“ปากหวานแบบนี้ น่าจะเป็นตัวท็อปเร็วๆ นี้แหละ”
“ถ้าพี่สนับสนุนฉัน ฉันก็จะสนับสนุนพี่เช่นกันค่ะ”
เพราะความที่ณิรินอยู่ในโลกมโนเป็นประจำ ทุกคำพูดนั่นเลยเหมือนกับว่าเธอรู้จักโลกเป็นอย่างดี ณิรินมองออกว่าเธอควรจัดการกับคนประเภทนี้แบบไหน เธอจับได้ตรงจุด ณิรินเลยพาตัวเองไปยังเป้าหมายได้ แบบไม่มีอะไรติดขัด
ตำแหน่งแรกของเธอไม่ใช่เด็กเสิร์ฟ แต่เป็นเด็กดริ้งแทน...
ตอนที่ 2.เด็กเลี้ยงแกะปะทะคาสโนว่าตัวบิดา
“เอาใจลูกค้าดีๆ นะหากได้ทิปเยอะก็อย่าลืมมาแบ่งให้พี่ด้วยละ”
ณิรินกลอกตามองบน พยายามรั้งกระโปรงที่ยาวแค่คืบกว่าๆ ให้ปิดช่วงล่างมากขึ้น เธอเตรียมตัวจะหย่อนก้นนั่ง แต่...
“น้องๆ ลูกค้าเรียก” ใครบางคนกวักมือเรียก
ณิรินยืนอึ้ง “ลูกค้าเรียกแล้วก็ไปสิ!!” เพื่อนร่วมงานสีหน้าเซ็งสุดขีดตะคอกใส่ “ใหม่ๆ ก็แบบนี้แหละ ตูดไม่ติดเก้าอี้ นานๆ ไปนั่งจนหยากไย่ขึ้นก็ไม่มีคนเรียก”
ใบหน้าสวยก้มต่ำ พยายามสะกดความไม่พอใจไว้
คนเหล่านี้ไม่มีทางเจอเธอในครั้งหน้า เธอหลุบเปลือกตาลงและสะกดตัวเองด้วยการท่องจำ ‘เธอมาเพื่อจับผิดว่าที่พี่เขย’ เธอไม่เพื่อมาขัดแข้งขัดขาใคร หากทำภารกิจสำเร็จ ณิรินสัญญา เธอจะสาปส่งสถานที่แบบนี้จนตาย
ณิรินกลืนน้ำลายลงคอฝืดๆ
ลูกค้ารายแรกที่เธอต้องดูแล ‘หล่อ’ หล่อแบบตะโกน เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว พับแขนเสื้อถึงข้อศอก ผิวเนื้อช่วงแขนค่อนข้างคล้ำ น่าจะเป็นเพราะแดด เธอเห็นผิวช่วงคอที่ค่อนข้างจะขาวมากกว่า
“เด็กใหม่นะครับ หากบริการไม่ดีต้องขออภัยล่วงหน้า”
คาลวินโบกมือไล่ “มารินเหล้าให้หน่อย” แล้วก็สั่งเสียงเรียบ เขาเอนตัวพิงพนักเบาะ ยกมือปลดกระดุมตรงหน้าอกเพิ่มอีกสองเม็ด เขาเหนื่อยเขาอยากพัก อยากนอนมากกว่ามานั่งดื่ม
“ไปสิ อย่าให้เสียชื่อละ” หลังจากกำชับน้องใหม่เสร็จ ชายผู้นั้นก็เดินจากไป
ณิรินผ่อนลมหายใจ เดินไปย่อตัวนั่ง เธอพยายามที่สุดที่จะไม่โป้ แต่ชุดที่เธอสวมไม่เปิดโอกาสให้เธอทำเช่นนั้นได้เลย เธอย่อตัวหันข้างให้โต๊ะ เอื้อมหยิบขวดบรั่นดีมาเทใส่แก้วและเลื่อนส่งให้ลูกค้า
คาลวินหรี่เปลือกตาลง เขาฉวยแก้วมาดื่ม แล้วก็ส่งคืน “ขออีกแก้วสิ” ณิรินรับแก้วมาแล้วก็เทบรั่นดีใส่ลงไปในแก้วจำนวนเท่าเดิม
“ขออีกหน่อย ไม่ต้องกลัวว่าฉันจะเมาหรอก ฉันไม่ได้คออ่อนขนาดนั้น”
ณิรินเทบรั่นดีเพิ่มไม่ได้พูดอะไรต่อ
“เพิ่งมาทำงานเหรอ?”
“ค่ะ”
ณิรินตอบแล้วก็ก้มหน้า เปิดโอกาสให้คาลวินสำรวจ เขาชอบผู้หญิงคนนี้ ผิวของหล่อนสะอาดไร้รอยตำหนิ รูปร่างก็กำลังดีไม่ผอมมาก มีน้ำมีนวล คาลวินไม่ชอบผู้หญิงสมัยนี้เลย ‘โรคคลั่งผอม’ กำลังเป็นที่นิยม ผู้หญิงส่วนใหญ่เลยพยายามอดอาหารตามเทรน ส่วนใหญ่ผมอบางแทบปลิวลม ถึงจะสวมเสื้อผ้าแล้วดูดีขึ้นมาก็เถอะ แต่รูปร่างผู้หญิงที่คาลวินชอบคือต้องมีเนื้อหนังให้แตะต้อง ไม่ใช่แตะส่วนไหนก็เจอแต่กระดูก
“มานั่งนี่สิ” เขาตบพื้นที่ว่างข้างตัว
ณิรินส่ายหน้า “ฉันกลัวคุณอึดอัดค่ะ”
“ไม่เคยทำงานแบบนี้เหรอ?” คาลวินถามกลับ เขาเสือกแก้วเปล่าให้ และณิรินก็ยกขวดบรั่นดีเทใส่ให้เงียบๆ
“เลิกงานแล้วไปกับฉันมั้ย?”
ณิรินชะงัก ตวัดตามองผ่านหน้าผู้ชายที่หล่อวายร้ายคนนั้นไป
เธอเม้มปาก อยากด่ากราดให้สาแก่ใจตนเอง แต่เธอทำแบบนั้นไม่ได้ แผนของเธอไม่ควรแตกตั้งแต่ยังไม่ทันได้เริ่มงาน
“จะรีบถามทำไมคะ ยังเหลือเวลาอีกตั้งนาน กว่าที่ฉันจะเลิกงานค่ะ”
“อยากรู้”
ณิรินถอนใจ กระแทกเสียงตอบกลับ
“ว่างเหรอคะ?”
คาลวินเอนตัวพิงพนักเบาะ กระดิกนิ้วเรียกแม่สาวตรงหน้าให้ขยับเข้ามาใกล้
ณิรินเม้มปาก สูดปากแรงๆ ผู้ชายคนนี้มีอะไรบางอย่างที่กระตุ้นต่อมโมโหของเธอได้ดีจริงๆ
“นี่คนสวย หากฉันไม่ว่าง ฉันจะมานั่งอยู่ตรงนี้เหรอ”
คาลวินไม่ได้กวนโทสะ เวลาของเขามีแบบจำกัด ภาระหน้าที่ของเขาบีบรัดแทบไม่มีเวลากระดุกกระดิกได้ การที่เขาหาเวลามาปลดปล่อยได้นั้นยากเต็มที
“ค่ะ”
เปลือกตาคาลวินกะพริบถี่ๆ
“ว่าไง สนใจจะไปกับฉันหรือไม่ล่ะ?”
คาลวินถามต่อ
ณิรินชะงักมือที่เตรียมจะรินบรั่นดี เธอสูดลมหายใจแรงๆ แล้วก็ส่ายหน้า
“ฉันไปไม่ได้หรอกค่ะ ผัวฉันมารอรับกลับตอนเลิกงาน”
เธอจงใจตอบเช่นนั้น เพื่อตัดบทสนทนา คาลวินขมวดคิ้ว ลมหายใจของเขาสะดุดกับคำตอบที่ไม่เคยคิดว่าตนเองจะได้ยิน เขาหรี่เปลือกตาลง มองแววสีดำสนิทของที่สะท้อนกับแสงไฟจนเกิดประกายระยิบระยับนั่นแบบไม่เข้าใจหน่อยๆ
“มีผัวแล้ว”
เขากระซิบถามเบาๆ ราวกับไม่แน่ใจว่าตนเองฟังผิด หรือหูเขาเพี้ยนไปเอง
ณิรินหันแย้มยิ้ม “ค่ะ มีผัวแล้ว” เธอโกหก เธอกับคำคำนั้นห่างกันจนแทบนึกภาพไม่ออก
“โกหก”
คาลวินหรี่เปลือกตาแล้วก็ขยับปากพูดเสียงแผ่ว
ณิรินชะงัก พยายามปั้นสีหน้าเรียบเฉย ทั้งที่กำลังเดือดปุดๆ
แววตานั่นบอกว่า...ไม่เชื่อ
ในดวงตาคู่นั้นมีแต่ความคลางแคลง
ณิรินฉีกยิ้มซ้ำ “สวยๆ อย่างฉัน ทำไมถึงคิดว่ายังโสดละคะ”
เธอถามกลับหัวใจเต้นแรงมาก ท่าทางเฉลียวฉลาดนั่นทำให้เธอเริ่มรู้สึกหวั่นๆ เธอมองเลยไปที่มุมหนึ่งไม่ไกลจากที่ตนเองนั่งนัก ห้องโซน VIP ที่ติณเปิดใช้ และกำลังสนุกกับกลุ่มก๊วนของเขา มีสาวสวยเดินเข้าเดินออกจนน่าเวียนหัว ณิรินอยากไปตรงนั้น และกระชากหน้ากากของผู้ชายเจ้าชู้ เพื่อปลดปล่อยพี่สาวของตนเอง ออกมาจากพื้นที่ที่ทานตะวันไม่ควรก้าวเข้าไปตั้งแต่แรก
“เพราะถ้าฉันได้มีโอกาสเป็น ‘ผัว’ เธอ ฉันไม่มีทางปล่อยให้เธอมาโชว์ หรือให้ผู้ชายหน้าโง่พวกนั้นได้เห็นเธอแบบนี้หรอก”
คาลวินตอบเสียงแข็ง เขารำคาญสายตาของผู้ชายที่แวะเวียนมาที่หญิงตรงหน้าแทบทนไม่ไหว ผู้หญิงคนนี้มีเสน่ห์ ผิวของเธอเนียนละเอียด ขาวนวลเหมือนกลีบดอกลีลาวดี ริมฝีปากสีกุหลาบของเธอช่างยั่วเย้าอารมณ์เขายิ่งนัก เลือดหนุ่มในกายเขากำลังระอุและเดือดพล่าน คาลวินมองไม่เห็นวิธีจะต้านทานความเย้ายวนของเธอได้ ความรู้สึกชนิดนี้เกิดขึ้นแบบที่เขาตั้งตัวไม่ทัน
ทันทีที่เขาเจาะจง ‘เลือก’ เธอ คาลวินก็มั่นใจ เขาไม่มีทาง ‘แบ่ง’ เธอให้กับผู้ชายคนไหนอีก
ตอนที่ 3.ผิดพลาดเกือบแผนแตก
อังคณาสไลด์หน้าจอโทรศัพท์เธอคุ้นหน้าผู้ชายคนนั้นพิกล และแล้วเมื่อเธอเจอ ‘ชายผู้นั้น’ ในเมมที่แอบเซฟไว้ อังคณายกมือปิดปากกลั้นเสียงกรี๊ด!!
คาลวิน (คีท) ไนน์เอด
ผู้ชายระดับท็อปที่กำลังเป็นกระแส เขาเป็นคนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จมาก บริษัทของเขาถูกจับตามองจากหายฝ่าย ผลกำไรที่หอมหวานนั่นดึงนักลงทุนให้เดินทางเข้าใส่ แต่เขาชอบเป็นฝ่าย ‘เลือก’ มากกว่าถูกเลือกเอง
“ยัยณิรินเอ๋ย!!” อังคณาคราง คาลวินไม่ได้เก่งแค่เรื่องงาน เสน่ห์ของเขาก็มีมากพอๆ กับเงินในกระเป๋าสตางค์ อังคณาอดเสียดายไม่ได้ เธอลืมพกกล้องมาด้วย การมีภาพเขาลงในคอลัมนิสต์ส่วนตัวจะดึงให้สาวโสดหันมาสนใจตนเอง
อังคณาใช้กล้องในโทรศัพท์แอบเก็บภาพคาลวินไว้
แล้วก็ภาวนาให้ชายผู้นั้นไม่สนใจเพื่อนของตนเอง ไม่อย่างนั้น ณิรินลำบากแน่ๆ ผู้ชายคนนั้นไม่เคยพลาดเป้า เขาเป็นคนที่กระหายชนะ ไม่เคยยอมรับความพ่ายแพ้เสียด้วย
ณิรินกลืนน้ำลายลงคอฝืดๆ “ไม่เชื่อ จะรอดูตอนฉันเลิกงานก็ได้นะคะ” เธอไม่ได้ท้าทาย แต่เพราะพอจะเดาได้ ผู้ชายคนนี้ไม่ได้มีเวลาขนาดนั้น