ตอนที่ 5

2121 คำ
ประเทศไทย หนึ่งเดือนต่อมา มาคัสมองดูความเปลี่ยนแปลงบนท้องถนนของกรุงเทพฯ อย่างแปลกตา เวลาสองปีที่เขาไม่ได้กลับมาที่ประเทศนี้ช่างเปลี่ยนไปมากเสียเหลือเกิน พลางนึกย้อนกลับไปถึงมัมของเขาที่ในคราแรกนั้นไม่ยอมที่จะให้เขาเดินทางกลับมายังประเทศไทย แต่อยู่ๆ ก็เกิดเปลี่ยนใจหลังจากที่แด๊ดเข้าไปพูดให้กับเขา แต่ก็ยังมีข้อต่อรองอยู่อีกเช่นเคยนั่นก็คือ หนึ่งชายหนุ่มจะต้องมีบอดี้การ์ดไปด้วยหนึ่งคน สอง เขาจะต้องไปดูแลงานในบริษัทเดินเรือที่เพิ่งเปิดใหม่ได้ไม่ถึงสามปีแทนการไปประจำอยู่ที่บริษัทฯ เงินทุนหลักทรัพย์ที่เก่าซึ่งดูแลอยู่ และข้อสุดท้ายข้อสามเขาจะต้องยอมแต่งงานกับผู้หญิงที่แม่เลือกให้เท่านั้น ถ้าไม่ยอมรับก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะมาเมืองไทย คราแรกที่รับรู้ข้อเสนอของมารดาในข้อหนึ่งและสองมันเป็นเรื่องธรรมดามากสำหรับเขา แต่เมื่อแด๊ดบอกข้อเสนอของข้อสามมาเท่านั้นมาคัสถึงกับไม่เห็นด้วยอย่างมาก เพราะเขามีคนที่รักอยู่แล้ว และมัมเองก็บอกว่ายอมให้เขาคบหาดูใจกับเพชรลดาได้เอง แต่แด๊ดให้เหตุผลของมัมว่านั่นคือเมื่อก่อนที่เขาจะประสบอุบัติเหตุ เพราะหลังจากที่เขาประสบอุบัติเหตุตาบอดแล้วหากว่าผู้หญิงคนนั้นรักมาคัสจริงคงจะหาทางติดต่อมาหาแล้วต่อให้ลำบากยากเย็นขนาดไหนก็คงจะทำ แต่นี่เปล่าเลย ตลอดระยะเวลาสองปีมัมไม่เคยได้รับการติดต่อจากหญิงคนรักของลูกชายเลยแม้แต่ครั้งเดียว เพราะฉะนั้นมัมจะไม่มีทางยอมรับผู้หญิงคนนี้มาเป็นสะใภ้ของตระกูลเกรฟเว่นอย่างเด็ดขาด แถมมัมของเขายังฝากแด๊ดมาบอกอีกว่าดีไม่ดีผู้หญิงที่เขารักตอนนี้อาจจะแต่งงานมีสามีไปแล้วก็ได้ และเพราะคำบอกเล่าที่มัมฝากแด๊ดมาบอกกับเขานี่เองมันทำให้เขายิ่งต้องเดินทางกลับมายังประเทศไทยให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ เขาต้องการรู้ความจริงด้วยตัวของเขาเองว่าเพชรลดาทำไมถึงลาออกจากบริษัทฯ ไป แล้วยังไม่สามารถที่จะติดต่อได้ตลอดเวลาที่เขาเดินทางมาที่อังกฤษ เรื่องนี้เขาไม่ได้บอกใครว่าได้ขาดการติดต่อกับคนรักมาก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุ มาคัสรับข้อเสนอทั้งสามข้อของมารดาทันทีและนั่นก็ทำให้ชายหนุ่มได้เดินทางกลับมายังประเทศไทยได้อีกครั้งหนึ่ง ชายหนุ่มเดินทางไปยังคอนโดสุดหรูพร้อมกับบอดี้การ์ดที่มาดามแคทเธอลีนส่งมาคอยดูแลเขาอย่างใกล้ชิด และก็ไม่ใช่ใครอื่น เพื่อนรักนักเที่ยวของเขาเอง ไรอัน คอร์เนอร์ เพลย์บอยหนุ่มเจ้าสำราญ นี่มัมของเขาคิดได้ยังไงถึงให้หนุ่มเพลย์บอยตัวฉกาจมาเป็นบอดี้การ์ดให้เขาล่ะเนี่ย “แกคิดยังไงมาเป็นบอดี้การ์ดของฉัน มัมของฉันมีข้อเสนอสุดพิเศษอะไรให้แก แกบอกฉันมาเดี๋ยวนี้เลยนะไรอัน” มาคัสซักเพื่อนรักทันทีที่ทั้งคู่นั่งอยู่ภายในรถที่บริษัทฯ ของเขาขับมารอรับที่สนามบิน หลังจากที่ไรอันเอาแต่ยิ้มให้เขาอย่างเดียวแล้วบอกเพียงแค่ว่าให้ถึงเมืองไทยก่อนแล้วจะบอกให้เขารู้เอง “อะไรวะมาคัส แกนี่หายใจเข้าออกก็มีแต่คำถามนี้ตลอดเลย น่าเบื่อว่ะ” ไรอัน หนุ่มหล่อผู้ดีอังกฤษ เรือนร่างสูงใหญ่ ผมทอง เจ้าของนัยน์ตาสีเขียว พูดน้ำเสียงติดตลก แต่คนฟังนั้นไม่ตลกด้วยเลยสักนิด “ก็แกบอกเองว่าถึงเมืองไทยก่อนแล้วจะบอกไงล่ะ”มาคัสพูดน้ำเสียงซีเรียส และไรอันเองก็รู้สึกถึงกระแสเสียงของเพื่อนรักดี จึงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบไร้แววขี้เล่น “ฉันจะบอกกับแกทุกเรื่องในสิ่งที่แกอยากรู้เมื่อถึงที่พัก” และนั่นจึงทำให้มาคัสหยุดถามเพื่อนรักทันที มาคัสเดินทางมาถึงคอนโดสุดหรูก็ตรงดิ่งขึ้นไปยังที่พักทันที ซึ่งแม้จะไม่ได้เปิดใช้งานมานานร่วมสองปี แต่ก็ยังคงสะอาดสะอ้านและได้รับการดูแลอย่างดีมาโดยตลอด หลังจากที่เข้ามาภายในห้องแล้วชายหนุ่มก็หันหน้ากลับมาเผชิญกับบอดี้การ์ดเพื่อนรักทันที ไรอันเองยังไม่ทันเดินหย่อนก้นลงนั่งบนโซฟาเลยก็ต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วโบกไม้โบกมือให้มาคัสนั่งลงก่อนแล้วเขาจะเล่าให้ฟังว่าเพราะอะไรถึงได้มาเป็นบอดี้การ์ดให้กับเพื่อนเลิฟที่มายืนทำหน้าหงิกอยู่แบบนี้ “นั่งก่อนสิ แล้วจะเล่าให้ฟัง” มาคัสกระแทกตัวนั่งลงบนโซฟาตามที่เพื่อนรักบอกทันที ไรอันเห็นเพื่อนทำตามที่ตัวเองบอกก็เริ่มเล่าถึงสาเหตุให้เพื่อฟังทันทีเหมือนกัน “แกไม่ต้องมาทำหน้าหงิกใส่ฉันแบบนั้นเลย ที่ฉันต้องมาเป็นบอดี้การ์ดให้กับแกก็เพราะว่าความจำเป็น แกจำยัยอาแมนด้าได้มั้ย ยัยนางแบบสวยๆ ที่เคยตามติดฉันดีๆ น่ะ” “เออ จำได้ นั่นก็สเป็คของแกไม่ใช่เหรอ แต่ว่าเขาแต่งงานไปกับเศรษฐีชาวอเมริกันไปแล้วไม่ใช่เหรอ”มาคัสถามขึ้นอย่างนึกถึงหน้าของนางแบบสาวสวยที่ไรอันเคยควงอยู่เมื่อสองปีก่อน “ก็ตอนนี้เจ้าหล่อนหย่าขาดกับสามีแล้ว ก็เลยคิดจะกลับมาหาฉันอีกน่ะสิ” “อ้าว แล้วแกไม่ดีใจเหรอที่จะได้เธอกลับคืนมาน่ะ เห็นเมื่อก่อนคร่ำครวญจะเป็นจะตายที่แม่นางแบบคนนี้แต่งงานไปน่ะ” มาคัสไม่วายกระแนะกระแหนใส่เพื่อนรัก “นั่นมันเมื่อก่อน แต่ตอนนี้ไม่ใช่ เมื่อก่อนเขาทิ้งฉันเพราะว่าฉันไม่มีอะไร ฐานะก็ปานกลาง เงินทองมีให้เขาใช้ได้ไม่เติมที่ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ นายไรอันคนนี้ไม่เหมือนแต่ก่อนแล้ว ไม่ว่าจะทรัพย์สินเงินทอง หรือแม้แต่ธุรกิจชื่อเสียง ฉันมีไม่น้อยหน้าใคร” ไรอันพูดบอกอย่างภูมิใจในความสำเร็จของตนเอง “ก็ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วแกจะมาเป็นบอดี้การ์ดของฉันทำไมล่ะวะฉันไม่เข้าใจ” มาคัสยังคงไม่เข้าใจเพื่อนรักอยู่ดี “ที่ฉันมาเป็นบอดี้การ์ดให้กับแกก็เพราะว่าฉันอยากเปลี่ยนสถานที่เที่ยวดูบ้าง ก็พอดีกับที่มัมของแกโทรมาบอกว่าให้ฉันช่วยหาบอดี้การ์ดที่ไว้ใจได้ให้หน่อย มัมอยากได้มาคอยอำนวยความสะดวกให้กับแกน่ะสิ ฉันเห็นเป็นโอกาสที่จะได้เที่ยวด้วยก็เลยรับปากมัมของแกว่าจะจัดการเรื่องนี้ให้ แต่ไม่ได้บอกว่าบอดี้การ์ดที่จะหาให้นั้นเป็นใคร กะว่ามาถึงที่เมืองไทยแล้วก็ค่อยโทรฯ กลับไปบอกทีหลังน่ะ” ไรอันลอยหน้าลอยตาตอบอย่างน่าหมั่นไส้จนมาคัสอดที่จะเหน็บแนมอย่างเสียไม่ได้ “ไม่ใช่เพราะว่าอยากจะหนีจากแม่นางแบบอาแมนด้านั้นหรอกเหรอ ได้ข่าวว่ามือเหนียวอย่างกับปลาหมึกเลยไม่ใช่เหรอ” “เหนียวยังไงฉันก็ไม่มีทางหันกลับไปยุ่งกับเจ้าหล่อนอีกเป็นอันขาด” “เฮ้อ! แกนะแกไรอัน ฉันไม่อยากจะคิดเลยว่าฉันหรือแกกันแน่ที่จะต้องมานั่งทำหน้าที่ของบอดี้การ์ดดูแลใคร เออ ห้องพักแกห้องโน้นนะ ตามสบายก็แล้วกัน” มาคัสพูดออกมาอย่างเหนื่อยอ่อนหัวใจ ชายหนุ่มยอมรับกับตัวเองในคราแรกเลยว่าตกตะลึงเป็นอย่างมากที่เห็นหน้าบอดี้การ์ดประจำตัวของเขา และถามตัวเองออกมาทันทีว่าระหว่างเขาที่เพิ่งหายจากการผ่าตัดรักษาดวงตากับไอ้เพื่อนเพลย์บอยเจ้าสำราญคนนี้ใครจะเป็นบอดี้การ์ดให้ใครกัน คิดแล้วก็ให้ปวดหัวจี๊ดขึ้นมาทันที “แกอย่ากังวลไปเลย แกอยากทำอะไรก็ทำไปสิ เดี๋ยวเวลาที่มัมของแกโทรฯ มาถามข่าวคราวฉันจะจัดการเอง รับรองทางสะดวกเพื่อน” ไรอันยังคงพูดอย่างอารมณ์ดี พลางลุกขึ้นเดินไปที่เคาน์เตอร์เครื่องดื่มเพื่อหาวิสกี้ดีๆ ดื่มก่อนจะเดินเข้าห้องพักตามที่มาคัสชี้บอกเอาไว้ ส่วนมาคัสเองก็ลุกขึ้นเดินเข้าไปในห้องพักไปทันทีเพื่อจัดการอาบน้ำชำระร่างร่างกายให้สดชื่นและขับไล่ความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าออกจากตัวไปให้หมด เพราะสิ่งที่จะต้องทำหลังจากนี้นั่นก็คือบ้านของเพชรลดา บริเวณหน้าบ้านเช่า ร่างกายกำยำของมาคัสและไรอันก้าวลงมาจากรถยุโรปราคาแพงหลังจากที่ขับเข้ามาจอดตรงบริเวณหน้าบ้านเช่าซึ่งเป็นที่พักของเพชรลดาสาวคนรัก ชายหนุ่มเดินตรงไปที่บ้านของหญิงสาวทันที โดยไรอันขอกลับเข้าไปรออยู่ภายในรถแทนด้วยไม่สามารถทนต่อความร้อนแรงของแสงแดดได้ มาคัสคิ้วขมวดเข้าหากันเป็นปมทันที เมื่อหน้ารั้วบ้านของหญิงคนรักนั้นถูกปิดเงียบแถมยังมีโซ่เส้นโตคล้องลูกกุญแจเอาไว้อีก “นี่มันอะไรกัน ลดาไปไหน?”มาคัสเฝ้าถามกับตัวเอง ก่อนที่จะได้ยินคนชาติเดียวกันมาทักทายเขา “ฮัลโหล สวัสดี...คุณมาหาใคร มีธุระอะไรกับคนที่อยู่บ้านหลังนี้หรือเปล่า” ชายผมทองวัยกลางคนพูดทั้งมาคัสด้วยความเป็นกันเอง “สวัสดีเช่นกันครับ คือผมมาหาเพชรลดาผู้หญิงที่อยู่บ้านหลังนี้กับพี่ชายเธอน่ะครับ” มาคัสหันกลับไปทักทายพร้อมกับบอกถึงความต้องการของตนเองในทันที “เอ...อันนี้ผมเองก็ไม่ทราบนะว่าจะใช่คนเช่าคนก่อนหรือเปล่า แต่ผมกับภรรยาน่ะเราย้ายมาอยู่บ้านหลังนี้ได้สองปีกว่าแล้วนะ นั่นไง ภรรยาผมเธอเดินมานั่นแล้ว” ชายผมทองชี้ไปทางภรรยาของตนเองที่เดินท้องโย้เข้ามาใกล้ ก็จะพูดถามออกไปเพราะจำได้ว่าเป็นคนรักของเพชรลดาเพื่อนบ้านร่วมซอยเดียวกันตั้งแต่เมื่อครั้งที่เธอยังไม่ได้พบรักกับแฟนฝรั่งผมทองคนนี้เลย “อ้าว นี่คุณที่เป็นแฟนกับลดานี่” หญิงสาวพูดขึ้นทันทีที่เห็นหน้าอีกฝ่ายชัดๆ “คุณรู้จักผมด้วยเหรอ ละ...แล้วคุณรู้ไหมครับว่าลดาเขาย้ายไปอยู่ที่ไหน” “ฉันน่ะจำคุณได้ แต่ฉันไม่รู้หรอกว่าลดาเขาย้ายไปอยู่ที่ไหน ลดาน่ะเขาย้ายไปจากที่นี่ได้สองปีกว่าแล้วนะ แล้วคุณล่ะไปอยู่ซะที่ไหนมาถึงได้ไม่รู้ว่าลดาเขาย้ายไปอยู่ที่ไหน” “พอดีผมประสบอุบัติเหตุน่ะเพิ่งจะหายก็เลยรีบมาหาเขา” มาคัสพูดบอกเสียงนิ่ง หัวใจรู้สึกวูบโหวงอย่างบอกไม่ถูก “ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะลดาเองเขาก็ไม่ได้กลับมาที่นี่อีกเลยตั้งแต่ย้ายออกไปน่ะ เอ่อ...ฉันต้องขอตัวเข้าบ้านก่อนนะคะ ปวดหลังน่ะอยากจะนอน ไปไอ้หรั่งเข้าบ้านไปนวดขาให้เมียหน่อยเมียเมื่อยขาจะแย่อยู่แล้ว บายนะคุณ”สาวท้องโตพูดออกคำสั่งกับชายผมทองที่เป็นสามีของตนทันที “บายนะครับ ขอให้คุณหาแฟนพบในเร็ววันนะ”พูดจบก็ยืนมือออกไปเช็กแฮนด์กันก่อนจะหันไปประคองเมียสาวพากันเดินเข้าไปภายในบ้านทันทีที่โซ่และกุญแจที่คล้องอยู่นั้นถูกปลดออก มาคัสได้แต่ถอนหายใจออกมาแรงๆ อย่างหนักใจ แล้วนี่เขาจะไปตามหาเธอได้จากที่ไหนกันเล่า มาคัสคิ้วขมวดเข้าหากันอีกครั้งหนึ่งก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเขาน่าจะลองไปตามหาเพชรลดาที่ร้านอาหารของโกเมนพี่ชายของเธอ เขายังพอมีหวัง คิดได้ดังนั้นร่างกายกำยำของมาคัสก็หันหลังเดินกลับไปยังรถที่จอดอยู่ในทันที จุดหมายคือร้านอาหารของโกเมนนั่นเอง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม