5
เฟอเดอริโกลงมือทาครีมกันแดดไปตามแผ่นหลังของเธอ ละเลงไปทั่วผิวเนื้อนุ่มลื่นเนียนละเอียด ทุกวินาทีที่มือใหญ่ลูบไล้ไปตามแผ่นหลังสาว หัวใจของเขาเต้นผิดจังหวะตลอด เดี๋ยวช้า เดี๋ยวเร็ว เดี๋ยวเต้นถี่ เดี๋ยวรัวดังปืนกล แม้ว่าเขาจะใจสั่นและเกิดอาการประหม่ามากเพียงใด แต่สิ่งหนึ่งที่เขาทำควบคู่ไปตลอดก็คือ คอยถลึงตาใส่หนุ่มๆ ทั้งหลายที่มองมายังร่างของวราลี
“พี่ริโก้จ๋า พี่ริโก้ปลดเชือกที่ผูกอยู่ข้างหลังด้วยนะ แล้วทำครีมตรงนั้นเลย” วราลีสั่งเสียงหวานหยด เห็นเธอนอนนิ่งๆ อยู่อย่างนี้ไม่ใช่ว่าจะไม่ตื่นเต้น จะไม่เคลิบเคลิ้มไปกับฝ่ามือใหญ่ที่ไล้ผะแผ่วตามแผ่นหลัง เขาใจเต้นอย่างไรเธอก็ใจเต้นอย่างนั้น แล้วดูเหมือนว่าจะมากกว่าหลายเท่า แต่ก็ต้องระงับความรู้สึกเหล่านั้นไว้เต็มที่ ไม่ต้องการให้รู้ความในใจของเธอที่มีต่อเพื่อนสนิทพี่ชาย
“หา...อะไรนะ ปะ...ปลดเชือกที่ผูกอยู่ด้านหลังเนี่ยนะ”
เขาถามกลับเสียงสั่น กลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอเอื๊อกใหญ่ เพราะถ้าหากเชือกเส้นที่ว่านั้นคลายตัวออก นั่นเท่ากับว่าถอดชุดทูพีชท่อนบนดีดีนี่เอง
“ก็ใช่นะสิคะ ถ้าไม่ทาครีมตรงนั้นเวลาถอดชุดว่ายน้ำออก มันจะเป็นรอยไม่สม่ำเสมอกัน ดูไม่สวยค่ะเพราะฉะนั้นถอดเดี๋ยวนี้”
วราลีพยายามบังคับไม่ให้เสียงของตัวเองสั่น เหมือนกับหัวใจและร่างกายที่สั่นเทิ้มไปก่อนหน้าแล้ว
“พี่ว่าไม่ต้องก็ได้มั้ง แดดวันนี้ไม่แรง ผิวของเบลล์คงไม่คล้ำหรอก”
ทำแค่นี้เขาก็ต้องควบคุมอารมณ์ของตัวเองอย่างหนัก ไม่ให้คิดเกินเลยกับเธอไปไกลมากกว่านี้ จำกัดความเธออยู่แค่น้องสาว แต่ทว่ามันยากยิ่งแสนเข็ญเหลือเกินที่จะทำเช่นนั้น ใครไม่เป็นเขาไม่รู้
หรอกว่ามัน ทรมานกาย ทรมานใจมากแค่ไหน
“เบลล์ให้พี่ริโก้ทำก็ทำไปเถอะคะ หรือว่าจะให้เบลล์บอกให้คนอื่นมาทำให้”
เจอไม้นี้เข้าไปมาเฟียหนุ่มถึงกับไปไม่เป็น ยอมทำตามที่เธอสั่ง เขาไม่อยากจะคิดไปไกลกว่านี้เลยว่า หากเธอให้เขาทาครีมส่วนหน้าของร่างกาย แล้วให้ทาครีมตรงทรวงอกคู่อวบใหญ่ด้วยเหตุผลที่คล้ายคลึงกับให้เขาทำอยู่ในขณะนี้ เขาจะทำเช่นไรดี เขาจะทำตามที่เธอสั่งได้หรือไม่ แค่คิด แค่จินตนาการเลือกกำเดาก็แทบจะไหลออกมาทางจมูก วราลีเหมือนแม่มดเจ้าเล่ห์ที่เปี่ยมล้นไปด้วยเสน่ห์เย้ายวน
“โอเค พี่ทำให้ได้” เขาตัดสินใจพูดในที่สุด กำลังจะเอื้อมมือที่สั่นนิดๆ ไปยังปมเชือกนั้น แต่ทว่า...
“งั้นเบลล์ไม่เล่นน้ำแล้ว เปลี่ยนใจไปเดินช็อปปิ้งแก้เซ็งดีกว่า”
หญิงสาวเอาแต่ใจลุกพรวด ก่อนจะเดินย่ำเท้าเข้าไปยังตัวอาคารด้วยหัวใจที่สั่นไม่แพ้กัน ท่ามกลางความงงงันของชายหนุ่มอิตาเลี่ยนที่เกาศีรษะกับอาการไปเร็วมาเร็วของเธอ
“อะไรวะเนี่ย” เขาพูดพลางมองร่างสาวหุ่นดีที่เดินไปยังประตูอาคารสปอร์คลับ “เฮ้ย!!...เบลล์ รอพี่ด้วย” ก่อนจะลุกพรวดบ้าง เดินแกมวิ่งไปยังร่างของน้องสาวเพื่อนที่เข้ามาสะกิดใจเขาให้เต้นระส่ำ
แพ้ทางเด็กแสบจนได้
ประมาณหกโมงเย็นตามเวลาประเทศอิตาลี รถยนต์ของคาร์เตอร์แล่นผ่านประตูรั้วของคฤหาสน์ เด เฟอร์ซี่ เข้ามาจอดเทียบหน้าประตูบ้านหลังงาม ที่ตั้งโดดเด่นอยู่บนพื้นที่กว่า 12 ไร่ เจ้าของรถยนต์ก้าวลงมายืนข้างตัวรถหลังจากที่ดับเครื่องยนต์ ก่อนจะเดินเข้าไปในบ้านหลังนั้น
“สวัสดีริโก้” คาร์เตอร์ทักทายเจ้าของบ้านที่นั่งสบายๆ อยู่บนโซฟารับแขก
“อืม...หวัดดี” เจ้าของสถานที่ทักทายกลับอย่างเสียมิได้
“ฉันมารับเบลล์ตามนัดน่ะ”
สถานที่ในการมารับวราลีเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย จากเดิมคือหน้าอพาร์ทเม้นท์ที่เธออาศัยมาเป็นบ้านของเฟเดอริโก ซึ่งคาร์เตอร์เองก็ไม่เดือดเนื้อร้อนใจกับการเปลี่ยนสถานที่ไปรับมาส่งอยู่แล้ว ขอเพียงไม่ยกเลิกนัดเป็นพอ
“เดี๋ยวก็คงลงมา” เฟอเดอริโกตอบกลับ เก็บซ่อนความไม่พอใจไว้เต็มที่
“ทำไมเบลล์ถึงมานอนค้างที่นี่ล่ะ ทั้งๆ ที่อพาร์ทเม้นท์ก็มี”
คาร์เตอร์อดสงสัยไม่ได้
“ธุระอะไรของนายด้วย ถ้าอยากจะรับเบลล์ไปกินข้าวล่ะก็ กรุณาหุบปาก”
เจ้าของบ้านที่ทำท่าทำทางไม่อยากรับแขกตอกกลับ เขม่นมองชายหนุ่มลูกครึ่งอิตาเลี่ยน-อังกฤษเขม็ง อยากจะโยนชายหนุ่มที่หน้าตาหล่อน้อยกว่าเขาออกไปให้พ้นบ้าน
“ฉันก็ถามนายดีๆ ทำไมต้องหงุดหงิดด้วยล่ะ” ผู้มาเยือนพูดกลับด้วยท่าทางสบาย “หรือว่าไม่พอใจที่ฉันจะพาน้องสาวเพื่อนสนิทของนายไปกินข้าว” ก่อนจะพูดจี้ใจดำ
“เออ...ใช่” เฟเดอริโกตอบกลับเสียงแข็ง “ถ้ารู้ว่าฉันไม่พอใจก็รีบไสหัวกลับไปเลยไป” แล้วไล่ตะเพิดอย่างไม่รักษาหน้า
“ไม่ไป” คาร์เตอร์ตอบเสียงหนักกลับไป “ฉันไม่กลับ คนที่จะไล่ฉันกลับได้มีเพียงเบลล์เท่านั้น เพราะเบลล์เป็นคนนัดฉันมารับที่นี่ เข้าใจมั้ยครับคุณเจ้าของบ้าน”
คนพูดก็กวนไม่ใช่เล่น สาดคำพูดจนคู่สนทนาเนื้อเต้น เฟอเดอริโกกลั้นใจแทบไม่ไหวที่จะขึ้นไปหยิบปืนมาบนห้องมายิงกบาลคาร์เตอร์
“ไอ้คาร์เตอร์ มึงอย่ามาห้าวที่นี่นะ ถ้ากูทนไม่ไหวขึ้นมาแล้วจะหนาว” เฟอเดอริโกลุกขึ้นยืน เค้นเสียงห้าวห้วนออกไป ในใจนับหนึ่งถึงสิบทะลุไปถึงร้อย อีกฝ่ายลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ ยิ้มเต็มใบหน้าแล้วพูดให้เจ้าของบ้านเลือดขึ้นหน้า
“เผอิญว่ากูชอบอากาศหนาว ที่ไหนหนาวมากกูยิ่งชอบ แต่มึงไม่ต้องห่วงหรอกนะว่ากูจะหนาวจนแข็งตาย เพราะคืนนี้กูจะมีคนตัวนุ่มๆ หุ่นเลิศมานอนกอดคลายหนาว”
“ไอ้คาร์เตอร์ มึง!!” เฟอเดอริโกถึงกับคุมตัวเองไม่อยู่ชี้หน้าคาร์เตอร์ จ้องมองไม่วางตา ซึ่งคนที่ร้ายไม่แพ้กันก็จ้องมองตอบกลับ ประหัตประหารกันทางสายตาก็ว่าได้
มาเฟียอิตาเลี่ยนไม่ชอบให้ใครมาคิดและพูดถึงวราลีในลักษณะนี้อยู่แล้ว พอได้ฟังคำพูดของคาร์เตอร์ อารมณ์ในด้านมืดจึงผุดขึ้น ตั้งท่าจะถลาไปหาคนปากเสียที่ทำให้เขาเกิดแรงโทสะ ถ้าหากเสียงนี้ไม่ดังขึ้น...
“คุยอะไรกันอยู่คะ”
เสียงหวานมาพร้อมกับเรือนร่างแสนโสภาที่ก้าวลงมาจากบันได ส่งผลให้ชายหนุ่มสองคนที่หวิดจะวางมวยหันขวับไปทางต้นเสียง สองหนุ่มมีอาการไม่ต่างกันเมื่อได้เห็นโฉมงามหุ่นเรียกเลือดให้พุ่งกระฉูด
“คุยอะไรกันอยู่ค่ะ ท่าทางกำลังจะคุยกันสนุกถูกคอเชียว”
สองหนุ่มกลัดมันไม่ได้สนใจคำพูดของวราลีเลยแม้แต่น้อย เพราะมีอย่างอื่นที่น่าสนใจยิ่งกว่า