การแก้แค้นมันพึ่งเริ่มต้นนะชุมพล

1323 คำ
ผ่านไปอีก1เดือน ฉันยังทุกข์​และร้องไห้แต่ฉันแอบร้องไห้เอาฉันกลัวแม่คะน้าเสียใจ​ กลัวท่านทุกข์เพราะเป็นห่วงฉัน ท่านอยากให้ฉันเข้มแข็ง ฉันก็พยายามแสดงออกให้ท่านรู้ว่าฉันเข้มแข็ง ฉันเริ่มจะทำใจได้บ้างแล้ว ​ เวลาอยู่ต่อหน้าแม่ฉันพยายามยิ้มให้ท่าน กลัวท่านจะคิดมาก​ แม่คะน้าไม่แต่งงาน ท่านเลี้ยงดูฉันมาด้วยความรัก ดูแลฉันดีทุกอย่าง​ ตลอดระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมาท่านพยายามปลอบประโลมฉันให้คลายทุกข์ใจ ฉันเองก็พยายามทำใจและเรื่องปล่อยวางเรื่องลูก ท่านพาฉันไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ลูกของฉันอยู่บ่อยๆ​ มันทำให้ฉันรู้สึก​ดีขึ้นบ้าง แต่ไฟแค้นในหัวใจมันสุมอก ไม่เคยลืมสักวัน เหตุการณ์ในวันนั้น​ มันยังคงหลอกหลอนฉันตลอด เรื่องเลวร้ายใช่ว่าจะลืมกันได้ง่ายๆ​ และแน่นอนฉันต้องเอาคืนผู้ชายสารเลวคนนั้น​ ถ้าเรียนจบฉันจะไปเรียนต่อที่เมืองนอก คงจะทำใจกับเรื่องราวต่างๆ และกลับมาเข้มแข็งได้อีกครั้ง ฉันจะกลับมาเป็นเปลวที่เข้มแข็งแน่นอน คนที่คอยยืนเคียงข้างตอนนี้​ มีเพียง​วศินกับแม่คะน้า ทั้งสองดูแลปลอบใจจนแผลในใจมันดีขึ้น ฉันยิ้มได้บ้างแล้ว ถึงจะยิ้มฝืนๆก็ตาม​ ส่วนเพื่อนสนิท หายเงียบไปเลย “ไปเรียนได้แล้ว ศินตามงานให้และจดทุกอย่างให้เปลวเรียบร้อยแล้ว” วศินเอ่ย “อืม ขอบคุณ​นะ มันถึงเวลาที่เปลวต้องทำหน้าที่ของตัวเองสักที​ เปลวจะเรียนให้จบ​ จะไปต่อโทที่อังกฤษ ต่อเอกด้วยเลย อยากจะไปให้พ้นๆที่นี่เต็มที” “ศินคงคิดถึงเปลวน่าดูเลย” วศินพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ “ไปด้วยกันสิ” ฉันเอ่ยชวนเขา ถ้าเกิดว่าเขาไปอยู่ที่ต่างประเทศด้วยฉันก็คงมีเพื่อนไว้คอยปรึกษาอะไรหลายๆอย่าง “ขอพ่อก่อน​ถ้าท่านอนุญาตศินจะตามเปลวไปเรียนด้วยเลย” วศินฉีกยิ้มให้ฉัน “จ้ะ วศินเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดเลยนะ แพรวกับเหมียวด้วย พรุ่งนี้เปลวจะไปเรียน อีกเดือนกว่าๆก็จบแล้ว จะได้ไปสักที” “อืม สู้ๆ ถ้าเปลวคิดว่าเปลวไม่มีใคร ยังมีศินอยู่นะ” “ขอบคุณนะ” “ทำใจให้สบาย พรุ่งนี้ศินจะมารับไปเรียนพร้อมกัน” “ขอบคุณนะ” ฉันฉีกยิ้มให้วศินในขณะที่เขาส่งยิ้มให้ฉันอย่างอบอุ่น @มหาลัยEE ฉันนั่งฟังอาจารย์สอนเงียบๆ ทุกคนในห้องมองฉันด้วยสายตารังเกียจ ข่าวที่ฉันนอนกับวศินนอกใจชุมพลเรื่องได้แพร่สะพัดไปทั่วมหาลัย ฉันได้แต่เงียบไม่ตอบโต้อะไร ต่อให้พูดจนคอแตก​ ก็ไม่มีใครเชื่ออยู่ดี ข่าวคาวๆคนจะชอบเม้าส์แล้วพูดต่อๆกัน เรื่องคนอื่นจะรู้ดีมากกว่าเรื่องของตัวเองซะอีก เรื่องของฉันจึงเร็วยิ่งกว่าไฟลามทุ่ง ทุกคนมองหน้าฉัน พร้อมกับซุบซิบนินทา นี่แหละหนาที่เขาว่า​ ทำดีร้อยครั้ง ไม่เท่าทำเลวครั้งเดียว​ แต่จะว่าฉันทำเลวก็ไม่ถูกฉันไม่ได้เป็นคนทำเรื่องเลวร้ายนี้เลย มันถูกจัดฉากขึ้น “อย่าคิดมากนะเปลว เดี๋ยวมันก็ผ่านไป เปลวของวศินเข้มแข็งอยู่แล้ว สู้ๆนะเปลว” “อืม” ฉันพยักหน้าพร้อมกับส่งยิ้มให้วศิน “เงียบจะสยบทุกการเคลื่อนไหวเอง เราไม่ได้เป็นอย่างที่เขาพูดสักหน่อย เราไม่จำเป็นต้องแคร์คำพูดของใคร” “ขอบใจนะ” “อืม” ฉันนั่งฟังอาจารย์สอนจนจบคลาส จากนั้นก็ออกมากินข้าว​ เพราะมันได้เวลาเที่ยงแล้ว “ดาวกับเดือนคณะแอบกินกันวะ” เหมียวจีบปากจีบคอพูด​ พร้อมกับถือถุงมะยมดองเดินมาพร้อมกับแพรว “สงสารพลนะที่ต้องมาเสียใจเพราะผู้หญิงแบบนี้ ร่านจนเน่าเฟะขนาดนี้ไม่รู้ชุมพลไปหลงรักได้อย่างไร สุดท้ายก็มาเสียใจเพราะผู้หญิงร่านร่านเพียงคนเดียว” แพรวพูด​ หึ! มันจะเสียใจอะไร มันยังลอยหน้าลอยตาควงคนนั้นคนนี้​ กูสิจะต้องเสียใจ กูเสียสิ่งมีค่าที่สุดในชีวิต​ไป​ เพราะไอ้คนเลวทรามสันดานหยาบอย่างมัน “แรดกับร่านมีแค่เส้นบางๆกั้นอยู่​ ตอนนี้คงไม่มีคำว่าแรดแล้ว เพราะตอนนี้คงมีแต่ไฟร่านที่ลุกท่วมตัวใช่ไหมแพรว” เหมียวเอ่ยขึ้น “ใช่” แพรวเอ๋ยเสริม “เสือกมากนักนะพวกมึง เปลวเพื่อนสนิทพวกมึงไม่ใช่เหรอ? แล้วเพื่อนกันเขามาพูดเยาะเย้ยทับถมกันแบบนี้หรอ? เปลวกับกูถูกจัดฉากมึงเข้าใจไหมว่าถูกจัดฉาก พวกมึงเป็นเพื่อนสนิทของเปลวกับกู พวกมึงทำไมถึงพูดแบบนี้ฉันเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ?” “ก็แค่เคยเป็น ตอนนี้ไม่แล้วว่ะ กูเลิกเป็นเพื่อนกับมันถาวร​ กูไม่มีเพื่อนร่านแบบมัน มึงด้วยไอ้วศิน” เจ็บไหม? ที่เพื่อนสนิทของตัวเองพูดแบบนี้ เจ็บโคตรเลยไอ้สัสเมื่อเพื่อนรักที่สุด ตัดขาดความเป็นเพื่อน ตัดขาดความสัมพันธ์ที่เคยผูกพันกันมา “กูอยากจะตบมึงสองตัว ให้เลือดกบปาก แต่กลัวจะผิด พรบ​คุ้มครองสัตว์ อีเชี้ย​” “กรี๊ด​ดด ไอ้วศิน!!” “มึงจะทำไม?!!” “มึงมันเหมาะอีแรดร่านจริงๆ มึงมันเหมาะแต่กับของเหลือเดน” “แล้วมึงจะทำไม?!!” วศินตวาดเหมียวเสียงดัง “พอเถอะวศิน เขาจะพูดอะไรก็ช่างเถอะเราไปกินข้าวกันดีกว่า” ฉันรีบปรามก่อนที่เรื่องมันจะบานปลายมากกว่านี้ วศินไม่เคยกลัวใคร และตอนนี้อากัปกิริยาของเขาบ่งบอกว่าเขาเอาจริง “อืม” วศินพยักหน้าให้ฉันเบาๆ “แต่จะเหมาะกับคำว่าร่านซะมากกว่าวะ ผู้หญิงร่านๆแบบนี้ คงจะพรุนไม่รู้จะพรุนยังไงแล้ว” เป็นชุมพล​ที่เดินเข้ามาพร้อมกับผู้หญิงที่ควงแขนที่ร้านบิงซู เจ็บดีจัง! เจ็บเชี้ยๆ​ ผู้หญิงคนนั้นเบ้ปากรูปส้นตีนให้ฉัน คิดว่าสวยหรือไง อีดอกกระทือ “คนสารเลวปากเน่าแบบมึงอีกไม่นานหรอก ผลกรรมที่มึงทำกับกู กูจะเอาคืนให้สาสม และผู้ชายอย่างมึงอย่าคิดว่าจะใช้ชีวิตอย่างสงบสุข กูจะตามจองล้างจองผลาญมึง จนกว่ามึงจะพังพินาศ” ฉันตวาดมันเสียงดัง ฉันจะไม่ร้องไห้ จะไม่เสียใจ เพราะคนเลวๆแบบนี้อีกแล้ว​ “หึหึ แพศยา คนแบบมึงมันก็ดีแต่ร่าน คนแพศยาอย่างมึงมันก็ดีแต่อ้าขาให้ผู้ชายคนอื่นไปทั่วนั่นแหละ” ซ่า!!! “ไอ้ผู้ชายสันดานเลว ก่อนที่จะว่าคนอื่นหัดดูตัวเองบ้าง ผู้ชายเลวๆแบบมึง มันก็ดีแต่เอาคนอื่นไปทั่วเหมือนกันนั่นแหละ” ฉันสาดน้ำใส่มันทันที มันมองหน้าฉันราวจะกินเลือดกินเนื้อ​ มันกำหมัดแน่นจนมือสั่นไปหมด แววตาลุกโชนไปด้วยความโกรธ “อีเปลว!!!” “ดีใจจังที่ยังไม่ลืมชื่อกู เตรียมตัวรับผลกรรมที่ทำกับกูไว้ได้เลย ไปกันเถอะวศิน แถวนี้อากาศไม่ดี ถ้ายังอยู่ที่นี่อีกสงสัยคงได้เอาน้ำร้อนมาสาดแทนน้ำเย็นเป็นแน่” ฉันเดินถือจานข้าวไปนั่งอีกโต๊ะ ก่อนจะปรายตามองหน้าชุมพล​ มันกัดฟันกรอดๆ มองหน้าฉันอยู่เช่นกัน ดูจากสายตาพร้อมกับสีหน้ามันจ้องฉันราวกับ​จะกินเลือดกินเนื้อเลย แต่มีหรือฉันจะสนฉันไม่สนอยู่แล้ว การแก้แค้นมันพึ่งเริ่มต้นนะชุมพล
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม