3
บุษย์น้ำเพชรพยายามส่ายหน้าหนี หัวใจเต้นแรงเร็ว ดวงตาเบิกกว้าง เพราะเพิ่งจะได้เจอกับสัมผัสที่เรียกร้องเป็นครั้งแรก ยิ่งมือไอ้บ้าพยัคฆ์ลูบไล้นวดคลึงลำขาเสลา มันเหมือนกับเธอถูกไฟฟ้าช๊อตจนร่างกายให้อ่อนแรง รู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังจะเป็นลมอยู่ในไม่กี่วินาทีข้างหน้านี้แล้ว
“เสือ!” อัญญิการ้องเรียก แต่พยัคฆ์กลับไม่สนใจ เธอจับมือบนแขนเขาก็ถูกสะบัดออกมา
“เสือคะ...คุณทำอย่างนี้ไม่ได้นะคะ” อัญญิกาประท้วง เธอต้องปลุกเร้าความต้องการของพยัคฆ์แทบตาย กว่าจะได้รับการตอบสนอง พอเข้าด้ายเข้าเข็มก็โดนนังเด็กหน้าอ่อนพร้อมผู้หญิงอีกคนมาขัดจังหวะ
อัญญิกากระแทกเท้าปึงปังเรียกความสนใจ เพราะยังคาดหวังว่าจะได้ของติดไม้ติดมือกลับไป ที่ความพยายามของเธอเป็นผล
“น่ารำคาญจริงๆ ต้องการอะไรอีกอัญญิกา” มือหนึ่งของพยัคฆ์จับสองแขนบุษย์น้ำเพชรเอาไว้จนแน่น อีกมือก็ปิดปากหญิงสาวเอาไว้
“เออ...คือ...” อัญญิกากระอึกกระอัก ถ้าทำให้ถูกใจจะขออะไร พยัคฆ์ก็ให้ได้ทั้งนั้น แต่ถ้าไม่ถูกใจ...ก็อาจจะโดนลากเอาตัวไปโยนไว้หน้าตึกก็เป็นไปได้
“แล้วฉันจะให้คนส่งของขวัญไปให้” พูดจบพยัคฆ์ก็เลิกสนใจสิ่งอื่นใดนอกจาก...
“เปลี่ยนเมียจากพี่สาวเธอมาเป็นเธอดีกว่านะบุษย์น้ำเพชร” ริมฝีปากหนาขบกัดติ่งหูเล็ก “ฉันชอบม้าพยศอย่างเธอมากกว่ายายพี่สาวอ่อนแอแหยๆ อย่างกับยายขี้โรคนั่นเสียอีก”
“อื้อ...”
“เธอคิดเหมือนกันใช่ไหม” พยัคฆ์แนบปากคลอเคลียกับผิวแก้มนุ่มพร้อมเสียงเราะ ก่อนจะแนบจุมพิตไปบนเรียวปากนุ่ม
บุษย์น้ำเพชรใช้ความพยายามยามอย่างหนักหน่วงที่จะบอกให้พยัคฆ์ปล่อยตัว แต่เหมือนเขาจะยิ่งกลั่นแกล้งโดยการรัดร่างของเธอให้แนบชิดมากยิ่งขึ้น ไหนจะจุมพิตดูดดื่มที่แทบจะดูดกลืนเอาลมหายใจออกไปจากร่างอีกเล่า
“ไม่!” เธอพยายามบอกกับใจอย่างนั้น หากสัมผัสที่ได้รับทำให้แรงฝืนต้านดูยิ่งจะลดน้อยลงไปทีละน้อย
“อืม...” พยัคฆ์คำราม ลิ้นสากเกี่ยวกระหวัดเลาะเล็มในช่องปากนุ่ม จูบหญิงสาวในอ้อมแขนช่างให้ความรู้สึกดีเหลือเกิน จนชายหนุ่มบอกตัวเองแล้วว่าไม่ไหว เขาจะต้องได้หญิงสาวคนนี้!
ชายหนุ่มถอนจุมพิตออกอย่างแผ่วเบาและนุ่มนวล ดวงตาคมดุจ้องมองสาวน้อยที่อ่อนระทวยในอ้อมแขนเขาด้วยรอยยิ้ม
“เอ๊ย! ปล่อยฉันน่ะไอ้เสือ ไอ้บ้าผู้หญิง” บุษย์น้ำเพชรที่ได้สติตวาดใส่ชายหนุ่มและยังจะพยายามทำร้ายชายหนุ่มด้วย
“โอ๊ะโอ๋...พูดไม่เพราะเลยสาวน้อย แต่ไม่เป็นไรอีกเดี๋ยวเธอก็ต้องพูดเพราะๆ ให้ฉันได้ยินแล้วล่ะ” ชายหนุ่มบอกยิ้ม ๆ และวางหญิงสาวลงบนพื้น พร้อมกับดึงเนคไทที่แม้มันจะถูกดึงออกแล้ว แต่ก็ยังค้างอยู่กับตัวเสื้อมาผูกมือบุษย์น้ำเพชรเอาไว้ ก่อนจะควานหาผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋ามาใส่ปากคนที่กำลังอ้าปากจะด่าเขา
ชายหนุ่มช้อนร่างบางขึ้นในวงแขนและเดินลิ่วๆ ออกจากห้องทำงานไปทางด้านหลังที่เป็นทางเดินสำหรับผู้บริหารโดยเฉพาะ จุดหมายปลายทางคือตึกอีกหลัง สถานที่อันเป็นห้องพักส่วนตัวของเขา ที่จะเป็นอาณาจักรแห่งรักที่เขาจะมอบให้กับบุษย์น้ำเพชรตลอดค่ำคืนนี้ หรือว่าอาจจะเป็นทุกๆ ค่ำคืนก็ได้ถ้าหากหญิงสาวติดใจในสิ่งที่เขามอบให้
“อื้อ..อื้อ...” บุษย์น้ำเพชรเริ่มที่จะกลัวจนตัวสั่น ดวงตากลมโตเบิกกว้างสบกับสายตาคมดุของอีกฝ่าย ที่มีแต่รอยยิ้มอย่างมีความสุขและสนุกสนาน ปลายนิ้วยาวใหญ่ลากไล้ไปตามใบหน้าที่พยายามสะบัดหนี
เธอไม่เคยเจอใครร้ายเท่า พยัคฆ์ ปาศัยสุนัย เลยในชีวิตนี้ พรุ่งนี้เขากำลังจะแต่งงานกับพี่สาวเธออยู่แล้ว แต่วันนี้เขากลับจับตัวเธอมาอีก
‘ใครก็ได้ช่วยเพชรด้วย พ่อจ๋า แม่จ๋าช่วยเพชรด้วย พี่พราวช่วยเพชรด้วย’
เขาร้ายกว่าที่เธอคิดไว้...บุษย์น้ำเพชรที่รู้ตัวว่าคิดผิดไปแล้ว พยายามครุ่นคิดหาทางหลีกเลี่ยงจากน้ำมือของ...พยัคฆ์ ปาศัยสุนัย!
บุษย์น้ำพราวรีบวิ่งออกมาจากห้องทำงานพยัคฆ์อย่างรวดเร็ว ทั้งหวาดกลัว อับอายและขยะแขยงกับสิ่งที่ชายหนุ่มได้กระทำขึ้น ตอนนี้เธอรู้เพียงอย่างเดียว ทนแต่งงานกับชายหนุ่มไม่ได้ ไม่ว่าจะต้องทำอย่างไรถึงก็จะไม่ยอมแต่งงานกับพยัคฆ์...ผู้ชายเจ้าชู้ที่เห็นผู้หญิงเป็นเพียงของเล่นชิ้นหนึ่งเท่านั้น
หญิงสาววิ่งกระหืดกระหอบไปที่รถที่จอดไว้อีกฝั่งหนึ่งของถนน เพราะตอนที่ตกลงเข้าไปที่ออฟฟิศของพยัคฆ์นั้น เธอกับบุษย์น้ำเพชรคิดว่าคงจะใช้เวลาไม่นาน จึงไม่อยากจะพารถเข้าไปจอดยังด้านหลังของตึกนี้ ซึ่งทำไว้ให้กับลูกค้าที่มาติดต่อธุรกิจ
บุษย์น้ำพราววิ่งทะเล่อทะล่าออกมาด้วยความรังเกียจจนไม่ทันมองว่าถนนที่เธอกำลังจะข้ามนั้นมีรถคันหนึ่งวิ่งมาอย่างรวดเร็ว
เอี๊ยด!!
เสียงของล้อรถบดเบียดกับพื้นถนนคอนกรีตและถลำขึ้นไปจอดแน่นิ่งอยู่บนขอบถนน เพียงครู่เดียวก็มีชายหนุ่มสองคนก้าวลงมาจากรถด้วยอารมณ์โกรธเกรี้ยว
“อยากตายหรือไงคุณ ถึงวิ่งทะเล่อทะล่าไม่มองรถมองราแบบนี้” หนึ่งในสองคนนั้นเอ่ยขึ้นอย่างหัวเสีย ตวัดสายตาคมดุมองมายังร่างเล็กบางราวกับเฉือนเนื้อออกเป็นริ้วๆ
บุษย์น้ำพราวยืนกอดกระเป๋าใบเล็กไว้แนบอก สองขาอ่อนแรงและสั่นเทาด้วยความตกใจที่เกือบจะถูกรถชน ยังตกใจกับน้ำเสียงราวกับฟ้าผ่าของคนตรงหน้าอีกที่ทำให้ต้องมองด้วยความตกตะลึงในความงามประดุจเทพบุตร
“แล้วนี่มองอะไรอีก รีบๆ ถอยไปซิคนยิ่งกำลังรีบอยู่” ชายหนุ่มมองหญิงสาวที่ยังทำตาโตใส่เขาด้วยความไม่สบอารมณ์ มือใหญ่ยกขึ้นโบกให้ลูกน้องคนที่สนิทไปจัดการเรื่องรถให้เรียบร้อย แต่ชายอีกคนที่มาด้วยกลับเดินมากระซิบบางอย่างอย่างที่ข้างหูเขาแทน
“งั้นหรือชาติ”
“ครับนาย”
คนถูกกระซิบมองสาวน้อยตรงหน้าใหม่อีกครั้ง พร้อมด้วยรอยยิ้มแบบมีเลศนัย ดวงตากลมโตประกายหวานและตื่นตระหนก จมูกโด่งรับกับริมฝีปากอิ่มเต็มสีชมพูระเรื่อ
อืม...ยายคุณหญิงอมราเลือกหลานสะใภ้ให้กับพยัคฆ์ได้หน้าตาน่ารักไม่เลวเลยนี่ แต่จะว่าไป ไอ้ท่าทางแบบนี้มันดันไม่ถูกสเปกเจ้านั่นเลยนี่น่า เท่าที่เขารู้มา พยัคฆ์จะชอบผู้หญิงจัดจ้าน ที่สำคัญคือต้องบริการความต้องการได้อย่างถึงอกถึงใจเสียมากกว่า
แต่ไม่เป็นไรนะเสือ เดี๋ยวพี่ชายคนนี้จะจัดการเข้าหอแทนนายเอง นายคงไม่ว่าด้วยใช่ไหม ถ้าฉันจะเอาผู้หญิงของนายนอนกอดสักเดือนสองเดือน...ไอ้น้องชาย!
“ฉันขอโทษนะคะคุณ ฉันผิดเอง ฉันไม่ทันมอง” บุษย์น้ำพราวพยายามเรียกสติตัวเองคืนมาเอ่ยคำขอโทษเสียงสั่น เธอยังรู้สึกตื่นตระหนกจนตัวสั่น ขณะมองเหตุการณ์เบื้องหน้าด้วยความตกใจ
สีหราชเลิกคิ้ว มองสองมือกอดอกด้วยความชอบใจ น้ำเสียงหวานนุ่มที่ออกจากปากอิ่มเต็มไพเราะและหวานหูดี ถ้ามาดังอยู่ใต้ร่างเขาก็จะกลายเป็นเสียงครางหวานหู ท่าทางจะน่าฟังดีและคงจะเร้าอารมณ์ให้เขาไปถึงจุดหมายปลายทางเร็วขึ้น
“คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ” หญิงสาวถาม เมื่อแรกเธอตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและเสียงของชายหนุ่ม แต่พอมาตอนนี้...มองมาด้วยท่าทางและแววตาแปลกๆ ทำเอาเธอเริ่มจะกลัวขึ้นมา
บุษย์น้ำพราวชะเง้อมองไปด้านหลังร่างใหญ่ที่ตอนนี้มีรถ FORTUNER สีดำสนิท ได้ลงมาจอดเทียบข้างชายหนุ่มเรียบร้อยแล้ว
“ใช่ ฉันไม่เป็นอะไร ว่าแต่เธอล่ะดูท่ายังตกใจอยู่มากนี่ ขึ้นรถก่อนซิฉันจะพาไปหาหมอ”
“ฉันไม่เป็นอะไรจริง ๆ คะ ไม่ต้องไปหาหมอหรอก”
“แต่ฉันว่าเป็นนะ ดูเหมือนว่าเธอตกใจจนหน้าซีดเป็นไก่ต้มเลย เป็นแบบนี้ฉันว่าไม่ค่อยดีนะ ทางที่ดีฉันควรที่จะพาเธอไปหาหมอไม่ใช่หรือ โทษฐานที่คนของฉันสะเพร่า ขับรถเกือบจะชนเธอเอานะ”
บุษย์น้ำพราวตกใจจนแทบช็อก ตัวเย็นและแข็งทื่อ เมื่อชายหนุ่มเดินเพียงแค่สองสามก้าวก็มาประชิด เขายังช้อนร่างเธอขึ้นจากพื้นราวกับว่าเธอเป็นเพียงแค่เด็กน้อยไม่มีน้ำหนัก
“ว้าย! ปล่อยฉันนะคุณ” หญิงสาวรีบยกขึ้นโอบรอบลำคอแกร่งด้วยเพราะกลัวจะตก