“ขอบคุณนะครับ” ชายหนุ่มจูบบนหลังมือเธอเบา ๆ ช่วยรอเขาสักหน่อยได้ไหม ให้เขาพร้อมกว่านี้อีกนิด ขอให้เขาประสบความสำเร็จกว่านี้ได้ไหม เธอจะรอเขาได้ไหม
ประทีปเดินกลับมาที่ห้องของตัวเอง นั่งอ่านผลประกอบการของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ ภาคให้เขาศึกษาทั้งตลาดหุ้น ตลาดทอง เขาทำหลายอย่างมาก จนต้องบ่นกับภาคว่า ทุกวันนี้เขาแทบจะไม่มีเวลาขี้เวลาเยี่ยว
เขาต้องพยายามกว่านี้ ถ้าต้องการประสบความสำเร็จโดยเร็ว ใบหน้าพลอยใสยังวนเวียนอยู่ตรงหน้า ระหว่างเขากับเธอจะเป็นไปได้ไหมนะ
พลอยใสตื่นขึ้นมาในตอนเช้าของอีกวัน เมื่อคืนเธอเมามาก ปกติไม่เคยปล่อยให้ตัวเองเมาขนาดนี้ อาการปวดหัวเข้าเล่นงานตั้งแต่ลืมตาตื่น คงเพราะเมื่อวานเดินทั้งวันและไม่ได้พักด้วยแหละ เลยเมาง่าย หรือเพราะใจตัวเองที่อ่อนไหวกับเขาเข้าให้แล้ว
มองหน้าตัวเองในกระจกบานใหญ่ในห้องน้ำ พลอยใสถึงกับยิ้มออกมา รู้ว่าเขาเป็นคนอบอุ่นอ่อนโยน แต่ไม่คิดว่าจะอ่อนโยนขนาดนี้
“เช็ดเครื่องสำอางให้ด้วย อย่างนี้ไม่ให้จับทำผัวได้ไง งานดีขนาดนี้ น่าจะอาบน้ำให้ด้วยนะ” พูดเสร็จก็หัวเราะคิกคักกับจินตนาการของตัวเอง เธอจัดการอาบน้ำแต่งตัว และเมื่อเดินออกมานอกห้องนอน เธอก็ได้กลิ่นข้าวต้มหอมฉุยลอยมาจากห้องครัวใหญ่
“พี่ทีปทำอะไรคะ” พลอยใสเดินเข้าไปในครัว เห็นร่างสูงใหญ่กำลังยืนอยู่หน้าเตาแก๊ส
“กำลังอุ่นข้าวต้มครับ” ประทีปหันมามองคนที่เดินออกมาจากห้องนอนด้วยชุดลำลองกางเกงขาสั้นเสื้อยืดใส่สบาย ไร้เครื่องสำอางบนใบหน้า
“ทำเองเหรอคะ” พลอยใสมองด้วยดวงตาเป็นประกาย ถ้าเขาทำข้าวต้มให้เธออีก เธอบอกเลยว่าจะไม่ยอมปล่อยผู้ชายคนนี้หลุดมืออย่างเด็ดขาด
“เปล่าครับ ซื้อมา ตอนเช้าพี่ไปวิ่ง เห็นเขาขายอยู่ข้างทางเลยซื้อมาครับ” คำตอบของประทีปถึงจะทำให้คนยืนข้าง ๆ เสียใจเล็กน้อย แต่ก็ยังดีที่เขาซื้อมาให้เธอ
“ทำไมทำหน้าแบบนั้นครับ อยากให้พี่ทำให้กินเหรอ” ประทีปเอื้อมมือมาลูบผมพลอยใส เห็นเด็กน้อยทำหน้าตาผิดหวังอย่างไม่ปิดบังแล้วก็อดยิ้มไม่ได้จริง ๆ
“อยากทำให้กินไหมล่ะคะ” เขาลูบผมเธอ ถ้าอย่างนั้นเธอกอดเขาได้ใช่ไหม พลอยใสกอดเอวอย่างออดอ้อน
“ไว้วันหลังไปทำที่คอนโดพี่นะครับ”
นี่เขาชวนเธอขึ้นคอนโดเลยเหรอเนี่ย
“ชวนแล้วห้ามเปลี่ยนใจนะคะ”
“ครับ ไม่เปลี่ยนครับ ไปนั่งรอเลย เดี๋ยวพี่ตักข้าวต้มให้”
พลอยใสยอมปล่อยแขนจากเอวเขา จากนั้นไปนั่งรอข้าวต้มร้อน ๆ เหมาะกับคนเมาค้างจริง ๆ
“ตอนบ่ายผู้จัดการร้านนัดเข้าไปคุยนะครับ” ประทีปบอกพลอยใส เมื่อเช้านี้เขาได้รับข้อความจากผู้จัดการร้าน
“ค่ะ” เธอรับคำแล้วตักข้าวต้มเข้าปาก
“ชิมนี่สิครับ พี่เห็นวางขายเลยซื้อมาให้ด้วย” ประทีปคีบขนมจีบปูยื่นมาใกล้ปากของพลอยใส เธออ้าปากรับอย่างว่าง่าย เคี้ยวไปคำเดียวถึงกับตาโต
“อร่อยมาก!”
“ใช่ไหมครับ พรุ่งนี้พี่ว่าจะไปซื้ออีก ตอนเช้าเราไปวิ่งกันไหมครับ” ประทีปชอบวิ่งออกกำลังกายในตอนเช้า ส่วนตอนเย็นก็ออกกำลังกายที่ห้องฟิตเนสของทางคอนโด
“พลอยจะตื่นทันไหม”
“เดี๋ยวพี่ไปปลุก นะครับ” ประทีปพูดพร้อมทั้งคีบขนมจีบปูเข้าปากเธออีกลูก
“ค่ะ” ติดสินบนด้วยขนมจีบขนาดนี้ ให้ตื่นเช้าแค่ไหน นังพลอยก็สู้ตาย
“คืนนี้เราไม่ต้องไปคลับนะครับ เพราะเป็นวันพระใหญ่” ในวันพระใหญ่ ทางไนต์คลับจะปิด เพราะตามกฎหมายห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สถานบันเทิงไม่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ใครจะมาเที่ยว สู้ปิดเสียดีกว่า
“งั้นบ่ายนี้เรารีบไป จะได้ว่างไว ๆ มาว่ายน้ำเล่นกันดีกว่า ไม่ได้ว่ายน้ำมาหลายวันแล้ว พลอยรู้สึกไม่สบายตัวเลย” พลอยใสชื่นชอบการว่ายน้ำ เธอกับรริดาชอบชวนกันไปว่ายน้ำ ถ้าคิดไม่ออกว่าจะทำอะไรดี สุดท้ายก็มาจบกันที่ว่ายน้ำ เป็นกีฬาที่ไม่ร้อน แต่เผาผลาญได้ดีเยี่ยม
บ่ายของวัน
ประทีปและพลอยใสเข้าไปพบผู้จัดการร้าน พูดคุยปรึกษาหารือและขอคำชี้แนะหลายอย่าง ครั้งนี้ประทีปได้เห็นการทำงานอีกโลกหนึ่ง ซึ่งต่างจากโลกที่เขาเคยอยู่
“ตรงไหนที่ไม่เข้าใจก็ถามได้นะครับ” ผู้จัดการหนุ่มบอก ในตอนที่ประทีปและพลอยใสเดินตรวจโกดังเครื่องดื่ม เขาสอนวิธีตรวจการโกงและเล่ห์เหลี่ยมอะไรบ้างที่เขาจะเจอระหว่างทำงาน
“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ” ผู้จัดการร้านเอ่ยขอตัวเมื่อทั้งสองไม่มีข้อสงสัยอะไรแล้ว ประทีปกับพลอยใสก็เดินออกจากไนต์คลับในตอนเย็น
“ไปหาอะไรกินไหมครับน้องพลอย”
“ไปกินส้มตำริมทะเลไหมคะ”
“ก็ดีนะครับ”
ทั้งสองเดินมาถึงชายหาด ตอนนี้เกือบห้าโมงเย็น ทว่าอากาศก็ยังร้อน แต่เมื่อมีลมทะเลก็ช่วยคลายความร้อนลงได้บ้าง
“น้องพลอยกินหมดเหรอครับ สั่งมาเยอะจัง”
“พี่ทีปก็ช่วยพลอยกินสิคะ จะได้หมด”
“พวกตาใหญ่กว่าท้อง สั่งมาเยอะ ทิ้งก็เสียดาย”
“บ่นเป็นคนแก่เลย” พลอยใสเอ่ยแซว
“กลัวไม่หมดเสียดายของ” ประทีปคิดถึงตอนที่เขาเป็นเด็กวัด บางวันอาหารมีมากมายเพราะเป็นวันพระ แต่บางวันกลับแทบไม่มีจะกินเพราะไม่มีใครนำมาถวาย นั่นก็ยังไม่ลำบากเท่าตอนเรียนมหาวิทยาลัย เขาต้องทั้งส่งตัวเองเรียน ทั้งต้องช่วยค่าใช้จ่ายของพิมมาดา
ในตอนนั้นชีวิตเขายากลำบากจริง ๆ แต่มันก็ผ่านมาได้ ทุกอย่างในชีวิตผ่านมาแล้วก็ผ่านไป