“เอ้อ... ขอบใจมาก... พี่ไว้ใจแกนะ ไม่รู้จะไปกวนใครที่ไหนแล้ว...”
“ผมว่าคุณตาคุณยายเลี้ยงหลานเหนื่อยจะแย่ คงไม่มีเวลาดูลูกสาววัยกระเตาะ ยัยอิงฟ้านี่ผมเห็นมาตั้งแต่เล็ก ๆ มองยังไงก็เป็นสาวน้อย...”
ปลายเสียงว่า ‘สาวน้อย’ เป็นลูกเป็นหลาน ทว่าเขี้ยวขาวคมที่ปรากฏตรงมุมปาก
ในสายตาของคุณพ่อ... ถ้าหากว่าไม่มีทางเลือกจริง ๆ ไม่มีวันมารบกวนเพื่อนรุ่นน้องคนนี้
หน้าอย่างไอ้พีระพงษ์เนี่ยนะ จะไว้ใจได้!
บ้านหลังที่เพิ่งย้ายมาอยู่ใหม่ตกแต่งอย่างสวยงามกว่าบ้านหลังอื่น ทาวน์โฮมสไตล์โมเดิร์นดูสะอาดเพราะเพิ่งทาสี ต่อเติมจากบ้านมือสองให้กลายเป็นบ้านหรู รถยนต์และเจ้าของบ้านหล่อเหลาดูดี อิงฟ้ายังไม่เคยพบเขาเป็นการส่วนตัว เพียงได้ยินมาจากคุณลุงเจ้าของบ้านหลังถัดไปจากบ้านของเธอสองหลัง จนกระทั่งได้มีโอกาสท้าดวลกันเมื่อคืน
พลันภาพเลือนรางที่ผุดขึ้นมาในหัวสมองเป็นเรื่องไม่น่าจดจำ เธอตามพี่รูปหล่อกลับบ้านเพราะนึกว่าเป็นอีเปรี้ยว แถมออดอ้อนออเซาะเขาประหนึ่งว่าเป็นผัวที่รักกันปานจะกลืนกิน!
วันถัดมาเธอแอบย่องเข้าบ้านตอนหกโมงเย็น เจอคุณพ่อคุณแม่นอนสิ้นฤทธิ์อยู่ข้างคอกกั้นเด็กวัยกำลังคลานเก่ง เจ้าตัวแสบขวดนมคาปาก เธอเข้าไปชะโงกหน้าดูสักหน่อย ค่อยขึ้นไปหยิบเสื้อผ้าเก็บใส่กระเป๋าสองสามชุด
พอดีกับที่นายวิทยาเพื่อนรักเข้ามาหาถึงหน้าบ้าน เสียงเครื่องยนต์ดังคุ้นหูดับลง เธอรีบวิ่งลงบันไดมาเจอเพื่อนยืนรออยู่ข้างรถยนต์ ไม่ลืมปิดประตูบ้านให้เรียบร้อยก่อนเพราะกลัวจะทำให้คนในบ้านตื่น
“อีเปรี้ยว! เมื่อคืนวันเสาร์มึงทิ้งกูได้ไง มึงหายหัวไปไหนมา โทรไปก็ไม่รับ!”
อิงฟ้าถลึงตาชี้หน้าด่าเพื่อน ทว่าไม่ทันไร หนุ่มร่างสูงใหญ่ในเชิ้ตสีดำหน้าตาเศร้าหมองลง
“มึง... ป้าแป๋วเพิ่งเสีย... กูพาป้าไปโรงพยาบาล ปั๊มหัวใจไม่ขึ้น มึง...”
“เอ๊ย... จริงหรอ? เป็นไงบ้างอะ กูขอโทษ ๆ กูไม่ได้จะว่ามึงเลยนะ กูไม่รู้อะ...”
วิทยาอยู่กับคุณป้าคุณลุง ไม่ไกลจากหมู่บ้านของอิงฟ้ามากนัก เธอรู้จักกับทั้งคู่เป็นอย่างดี ต้องไปร่วมงานศพของคุณป้าอยู่แล้ว
ขอบตาบวมช้ำทำให้เธอนึกสงสารเพื่อนจับใจ เลื่อนมือไปตบบ่าให้กำลังใจประสาคนสนิทสนมกัน
“สวดเมื่อไร? เจ้าภาพพอไหม ให้กูไปช่วยงานศพป้าแป๋วนะ”
“เออมึง คงสวดวันนี้อะ แต่ญาติกูเยอะ มึงไม่ต้องห่วงเรื่องเจ้าภาพ... ไป ๆ ขึ้นรถก่อน ๆ” หนุ่มร่างสูงใหญ่ชวนเพื่อนสาวขึ้นรถยนต์สีขาวห้าประตู รุ่นใหม่ตามฐานะทางบ้านของวิทยา
อยู่ดี ๆ สีหน้าเศร้าหมองก็เปลี่ยนไป ดวงตาคู่คมเปล่งประกายหิวกระหาย เพียงนึกถึงเจ้าของร่างสูงใหญ่ในเสื้อเชิ้ตดูดีมีราคา อกผายไหล่ผึ่งเรือนร่างที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามทำเอาหล่อนน้ำลายสอ
“ผู้คนนั้นแซ่บนะยะ... ได้กินยังอะ เล่าให้เพื่อนฟังบ้างสิ”
“อีเปรี้ยว... นั่นรุ่นพ่อเลยนะมึง สามสิบเก้าจะสี่สิบ...” พูดพลางเบะปากว่า “แก่”
“ไม่เห็นแก่ตรงไหน ขนาดพ่อมึงยังไม่แก่ พ่อหนุ่มเขี้ยวคมก็ไม่เรียกแก่หรอกย่ะ”
“เออ ถ้าเจออีกเอาไปเลย กูยกให้ กูไม่ need ไม่หงี่ไม่รีบร้อนอยากมีผัว”
“ไม่เอาอะ ไม่แย่งเพื่อนสาวดีกว่า ระดับอีเปรี้ยวหาได้เรื่อย ๆ ของไม่ขาด ไม่ need เหมือนกันย่ะ” เสียงหัวเราะร่าเริงดัง เสียงแหลมเล็กของหนุ่มร่างกำยำแสบแก้วหูอิงฟ้า เธอยกมือปิดหู ทำท่ารำคาญใจ ขณะที่คนขับยังจับกุมพวงมาลัยแต่ไม่เลิกแซว ไม่ออกรถเสียที
“คู่พรหมลิขิตอยู่ซอยเดียวกัน”
“คนละซอย นี่ซอยแปด นั่นซอยสอง”
“อุ๊ย... หมู่บ้านเดียวกันนะคะ บุพเพอาละวาดแม่ควรได้ฟาดสักคำ รับรองแซ่บฟิน ได้ข่าวว่าหมอดูเพิ่งทัก จะเจอของแดง ๆ ยาว ๆ ใหญ่ ๆ หรือเปล่า?”
“ยาวใหญ่อะไรของมึง ทั้งเหี่ยวทั้งยานน่ะสิไม่ว่า” อิงฟ้ากัดฟันประชด แม้เผลอนึกถึงหน้าอกแน่น ๆ ที่บีบกำยันเช้า มันแน่นดีจริง! เรือนร่างกำยำอันสมบูรณ์แบบของหนุ่มรุ่นพ่อ แค่เขาทำยิ้มหน่อย บรรดาสาวน้อยใหญ่ก็เหล่กันทั้งร้านด้วยแววตาริษยา แน่ล่ะว่าอิงฟ้าคือผู้โชคดี ได้เป็นนางฟ้าของเขาตลอดค่ำคืน
ใบหน้าหล่อเหลาคมคายเหมือนนักศึกษาจบใหม่ มากกว่าที่ใครจะมองออกว่าเขาอายุสามสิบเก้าปี ชะนีทั้งผับคงมองไม่ออกว่าเขาอายุเท่าไร
แค่คิดก็ทำเอาใบหน้าของเธอเห่อร้อนขึ้นมา
“ฮีหล่อล่ำน่ากัด น่ากลืนลงท้องไม่ให้เหลือสักคำ มึงตาถั่วหรือไงอีผีฟ้า นี่นะ กูได้ยินจากคนแถวนี้เม้ากันว่าโสด รวย ด้วยนะยะชะนี อย่าเล่นตัวมาก ได้แลกเบอร์ไว้ปะ”
หญิงสาวส่ายหน้าไปมา ด้วยความรู้สึกเสียดาย ต้องยอมรับว่าเธอถูกชะตาชายแปลกหน้าเพราะพูดคุยถูกคอ เผลอใจไปชั่วครั้งชั่วคราวเพราะฤทธิ์สุรา แต่เธอก็มีศักดิ์ศรี เสียหน้าพอสมควรที่ตามเขากลับบ้านเหมือนเป็นสาวนักล่าแต้ม
แถมเธอเพิ่งถูกเทแบบฟ้าผ่า แฟนหนุ่มคบหาดูใจกันมาหลายปี หนีไปเมืองนอกไม่มีเอ่ยคำลาสักคำ ช่องทางโซเชียลของเขา ใครติดต่อไปกลับเงียบหาย
“มึงติดต่อพี่บิ๊กได้หรือเปล่า?”
“เหอะ... ใครโทรไปก็ไม่รับ ตายห่าไปละมั้ง”
คนเป็นเพื่อนไม่เข้าใจว่าอิงฟ้าจะโหยหาคนที่ทิ้งไปทำไม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องสำคัญในตอนนี้ควรเป็นเรื่องของครอบครัว เรื่องคนที่บ้านซะมากกว่า
“มึงทะเลาะกับพ่อมึงอีกไหม? บอกพ่อว่าไง”
“ก็บอกว่านอนห้องมึง... แต่เมื่อคืนกูไปนอนออฟฟิศมา ไม่กล้าสู้หน้าพ่อเนี่ย”
“เอ๊ย! วันนั้นมึงบอกกูว่ามึงนอนออฟฟิศ ลืมแล้วเหรอชะนี มึงบอกพ่อผิด สลับวันกันเปล่า”
“อ้าว ตายแล้วกู...”
โกหกไม่ตรงกันอีก! จะมีเวลาที่ไหนไปเตรียมกับเพื่อนล่ะ หญิงสาวยกมือขึ้นกดกุมขมับ จะโทษเป็นความผิดของเพื่อนก็ไม่ได้ ที่แน่ ๆ เธอได้ทะเลาะกับพ่อชัวร์