พีระพงษ์ไม่อยากพาสาวน้อยไปส่งในสภาพเมาเละเทะ กลัวว่าเธอจะถูกคุณพ่อคุณแม่ดุว่า แต่ถ้าพาไปส่งเลยก็ดูจะเป็นสุภาพบุรุษมากกว่าฉวยโอกาสนอนกกกอดแม่สาวตัวนุ่มนิ่มจนถึงรุ่งเช้า
มีทางเลือกมากเสียเมื่อไร...
เขาครุ่นคิดเรื่องนี้จนผล็อยหลับตามเธอไป ลืมตาตื่นอีกทีก็ไม่มีทางเลือกแล้วจึงลุกไปอาบน้ำแต่งตัว หยิบเชิ้ตสีครีมและกางเกงสแล็คมาสวม ค่อยทิ้งตัวลงนอนมองใบหน้าสดสวย พริ้มตาหลับสบาย ใจหนึ่งคงไม่อยากปลุก ยังลืมไปว่าเสื้ออาจยับ เขาไม่สนใจว่ามันจะยับเลยต่างหาก
กระทั่งเปลือกตาขาวใต้เครื่องสำอางสีน้ำเงินประกายกากเพชรระยิบระยับใต้อายไลน์เนอร์คมกริบ ขยับขึ้นลงเบา ๆ เธอหรี่ตาลงอีกครั้งเพราะอาการร้าวระบมไปทั่วศีรษะอันเนื่องมาจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ เรียกเขาด้วยเสียงแหบพร่า
“คะ... คุณ... พี...”
“เมื่อคืนเรียกพี่พี ตอนนี้ก็เรียกพี่สิครับ หรือจะเรียกอาพี...”
หญิงสาวเบิกตากว้าง ลุกขึ้นนั่งสำรวจสภาพตัวเองในทันทีด้วยท่าทางตื่นตระหนก หากพอรับรู้ได้ว่าไม่รู้สึกเจ็บตรงไหน เดรสสีดำตัวโปรดยังสวมอยู่ครบก็ค่อยโล่งใจ ก่อนจะส่ายหน้ามองไปรอบ ๆ ห้องตกแต่งด้วยโทนสีขาวสลับดำ เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นดูมีมูลค่าคล้ายกับว่าเป็นบ้านหรูของหนุ่มโสดที่ไหนสักแห่ง
“ไม่ได้ทำอะไร แต่ถ้าไม่ใช่อา... รับรองไม่เหลือ ทำไมเมาแบบนี้ แล้วเพื่อนเราน่ะไปไหน? ไม่กลัวตื่นมามีผู้ชายนอนอยู่ข้าง ๆ สักแปดคนเหรอ?”
อีเปรี้ยวไม่เคยทิ้งเธอ! ไม่ว่ามันจะเมาแค่ไหน เว้นก็แต่ว่ามันเจอผู้ชายหล่อจริง ๆ เท่านั้นแหละ
เป็นไปได้ยังไง... นังเปรี้ยวมันหายไปไหน?
อิงฟ้านั่งสงสัย หัวคิ้วชนเข้าหากัน เธอยกมือขึ้นกดกุมขมับที่เต้นตุบ ด้วยความรู้สึกไม่ต่างจากหัวจะระเบิด นึกขึ้นได้ว่าไม่ได้ไปกันสองคน เพื่อนคนอื่นก็ไปด้วย ทำไมถึงได้ทิ้งเธอที่เมาแอ๋กลับบ้านกับผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้
มือคว้ากระเป๋าสะพายใบโปรดบนโต๊ะข้างหัวเตียง รีบหยิบโทรศัพท์โทรหาเพื่อนสาวสองเพื่อเอาเรื่อง แต่ปลายสายไม่ว่างสนทนาในตอนนี้
คุณอาหนุ่มรอคอยเธออย่างใจเย็น จนกระทั่งเธอวางมือถือลงบนโต๊ะอย่างหงุดหงิด กวาดสายตามองเขาแต่หัวจรดเท้า
“มีธุระที่ไหนหรือเปล่าคะ?”
“เช้านี้ไม่มีครับ เข้างานบ่าย... เราน่ะ กลับบ้านไปหาพ่อหน่อยไป”
“ไม่กลับ ขี้เกียจทะเลาะกับพ่อ ขอบคุณนะคะที่เป็นสุภาพบุรุษ อาพี...” ได้เหน็บแนมชายตรงหน้า ขีดเส้นความสัมพันธ์เป็นอาหลานเรียบร้อย ร่างบางลุกขึ้นจากที่นอน ฉับพลันกับที่สองขาอ่อนแรง เซไปทางซ้ายจนเกือบเตะหัวเตียงเข้า เธอได้รับความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที เจ้าของห้องเข้ามาช่วยประคองแขนทั้งสองข้าง จับต้นแขนเรียวไว้อย่างมั่นคง
หญิงสาวคงลืมไปว่าเขาพูดเรื่องพ่อของเธอขึ้นมาเพื่ออะไร เมื่อไม่ใช่ธุระกงการของเขา เธอยังได้รับความหวังดี เจ้าของร่างสูงในเชิ้ตหล่อเหลาเอื้อมไปหยิบขวดแก้วขนาดพอดีมือ บนโต๊ะกลมสำหรับจิบกาแฟ ด้วยความเป็นสุภาพบุรุษตามคำเชยชม
“กินนี่... แล้วไปล้างหน้าล้างตาก่อนกลับบ้านนะ กินน้ำเยอะ ๆ ด้วย จะได้หายแฮงค์”
“ขอบคุณค่ะ”
ตอนเมากับตอนไม่เมาช่างแตกต่างกันลิบลับ อิงฟ้าแสนปั้นปึ่งเย็นชา ไม่ใช่สาวเจ้าสำราญ ชนแก้วเหล้าได้ไม่เลิก
พีระพงษ์คิดน้อยใจ มองเธอกระดกเครื่องดื่มแก้เมาจนหมด อดคิดถึงแม่สาวน้อยที่ส่งเสียงหัวเราะคิกคักให้เขาเมื่อคืนไม่ได้ มิหนำซ้ำเธอไม่คิดจะแลกช่องทางการติดต่อ ถามหาความสัมพันธ์ครั้งต่อไป มีเพียงน้ำเสียงไร้เยื่อใย
“ไปแล้วนะคะ”
“ไปยังไงครับ?”
“เรียก GRAB ก็ได้”
“เดี๋ยวอาเดินไปส่ง...”
เดินไปส่ง? อิงฟ้ามองขวับไปทางหน้าต่าง ก้าวไปเปิดผ้าม่านสอดส่องสายตามองออกไปข้างนอก ในสีหน้าตกใจสุดชีวิต...
ฮะ! นี่มัน...
อีบ้านรถแดงซอยสองที่เพิ่งย้ายมาอยู่ใหม่ เฮ้ย! อิงฟ้า แกเมาขนาดตามเพื่อนบ้านรุ่นพ่อกลับบ้านเลยเหรอวะเนี่ย!