พระราชวังโบราณยังคงเนืองแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งชาวจีนและชาวต่างชาติ เสียงพูดคุยกันเซ็งแซ่ฟังแล้วชวนน่าปวดหัว ผู้คนมากหน้าหลายตาต่างผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเดินเข้าออกไม่ขาดสาย แม้เป็นเวลาบ่ายคล้อยแล้วดวงตะวันก็ยังแผดแสงไม่คลาย มีเพียงสายลมที่พัดมาเป็นระยะเท่านั้นที่ช่วยบรรเทาความร้อนได้ตอนนี้
อิงฟ้าในชุดแต่งงานสีขาว กำลังโพสต์ท่าตามที่ช่างถ่ายภาพแนะนำ แม้จะเป็นมือใหม่หากแต่ได้รับความช่วยเหลือจากทุกคนก็ทำให้หญิงสาวผ่านพ้นไปด้วยดี แสงแฟลชจากกล้องถ่ายรูปเปล่งแสงจ้าแข่งกับดวงอาทิตย์เป็นระยะหญิงสาวยังคงมุ่งมั่นตั้งใจหวังให้งานของเพื่อนรักออกมาดีที่สุด
"ยิ้มหน่อยค่ะ... โอเคเยี่ยม" เสียงช่างถ่ายภาพตะโกนเสียงดังเป็นสัญญาณให้นางแบบนายแบบออกท่าทาง
แชะ!
"ห่าวซวนนายช่วยโน้มตัวลงมาอีกได้ไหม ใช่ๆ แบบนั้นแหละ ก้มหน้าลงไปใกล้กับเจ้าสาวเลย ดีค้างไว้ก่อนนะ"
แชะ!
อิงฟ้าในท่าเอนตัวมาด้านหลังโดยมีแขนกำยำของห่านซวนประคองไว้ มือทั้งสองข้างของเธอดึงเนกไทของชายหนุ่มให้โน้มตัวลงมา ตอนนี้ใบหน้าของทั้งสองห่างกันไม่ถึงคืบ ปลายจมูกคมของเขาเลือนต่ำลงมาสัมผัสอยู่ที่ใบหน้าเธอ อิงฟ้าหลับตาลงด้วยความเขินอาย แก้มนิ่มอมชมพูแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ หัวใจของหญิงสาวเต้นเร็วรัวจนคนข้างๆ สัมผัสได้
ห่าวซวนโน้มตัวก้มหน้ามาใกล้หญิงสาว ใกล้จนเขาได้ยินเสียงหัวใจของฝ่ายตรงข้าม ทันทีที่หญิงสาวหลับตาลงเขาก็เผยรอยยิ้มออกมาอัตโนมัติ
"โอเคเยี่ยมมากค่ะ" เสียงของช่างภาพดึงสติของชายหนุ่มให้กลับมาโฟกัสที่งานตรงหน้าอีกครั้ง
แชะ!
"โอเค เสร็จงานแล้ว ปิดกอง"
เย้!
ราวกับว่าเสียงสวรรค์ดังขึ้นทีมงานทุกคนต่างปรบมือและโห่ร้องด้วยความดีใจ
อิงฟ้าเอ่ยขอบคุณทีมงานทุกคน ก่อนจะขอแยกตัวมาหาวิภา
"วันนี้แกสวยมากเลยแก นึกว่าเป็นเจ้าสาวตัวจริง" วิภา เดินเข้ามาจับผมเผ้าและผ้าคลุมผมผืนบางที่ปลิวไสวเพราะแรงลมให้เข้าที่
"จริงหรือ ฉันยังไม่หายตื่นเต้นเลย แกดูซิมือฉันเย็นไปหมดแล้วเนี่ย" อิงฟ้ายิ้มให้เพื่อนรักพลางยื่นมือจับมือวิภา เธอรู้สึกว่าตัวเองประหม่าทุกครั้งเมื่อเข้าใกล้ห่าวซวนชายหนุ่มที่เธอแอบชอบอยู่
"มองอะไรจ๊ะ อิงฟ้าเพื่อนรัก" วิภา เอ่ยถามเพื่อนรักพลางส่งสายตาหยอกเย้าเมื่อเห็นว่าสายตาของอิงฟ้าจับจ้องอยู่ที่ชายหนุ่มรูปงาม
"มองพี่ห่าวซวน" เธอหันมากระซิบกับวิภา
"สนิทถึงขนาดเรียกพี่ห่าวซวนเลยหรือ แล้วนี่อะไร? สายตาดูโจ่งแจ้งไปหรือเปล่าย่ะ"
"ตอนนี้ยังไม่สนิทแต่วันหน้าไม่แน่" อิงฟ้าทำเสียงล้อเลียนวิภา ซึ่งวิภาก็ได้แต่เบ้ปากอย่างหมั่นไส้
"ฟ้า ฟ้า พี่ห่าวซวนเดินมาทางนี้แล้วแก" ตอนนี้สองสาวได้แต่ตื่นเต้นจนหลุดทำท่าทางพิลึก
"เก่งมากเลยนะครับน้องอิงฟ้า ไม่น่าเชื่อว่าถ่ายแบบครั้งแรก งานออกมาดีจนพี่คิดว่านางแบบมืออาชีพ"(ยิ้มอ่อน)
"ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ ต้องขอบคุณพี่ห่าวซวนแล้วก็ทีมงานทุกคนที่คอยชี้แนะฟ้าค่ะ" อิงฟ้ายิ้มอ่อนให้กับชายหนุ่มตรงหน้า ตลอดหลายปีเธอได้แต่แอบชอบชายหนุ่มอยู่เงียบๆ นี่เป็นครั้งแรกที่มีโอกาสพูดคุยกับเขาโดยตรงไม่ต้องผ่านหน้าจอทีวี (นี่ซินะปาฏิหาริย์ของการแอบรัก)
"งั้นเดี๋ยวพี่ขอตัวก่อนครับ เจอกันที่งานเลี้ยงปิดกองเย็นนี้ครับ"
"ค่ะ..ค่ะ.." แม้ห่าวซวนจะเดินออกไปไกลแล้วแต่สายตาของหญิงสาวยังคงมองตามแผ่นหลังของเขาไม่วางตา หัวใจดวงน้อยๆ ของเธอแทบจะทะลุผ่านชุดเกาะอกออกมายังไงยังงั้น
"อะแฮ่ม วิญญาณออกจากร่างแล้วหนึ่ง ขอรถเก็บศพตรงนี้ด่วนค่ะ" วิภา แซวอิงฟ้าที่ตอนนี้ตาลอยมองตามหลังชายหนุ่มไปไกลแล้ว
"เชอะ" อิงฟ้ายกมือขึ้นผลักหน้าวิภาออกให้ห่าง
"เอ้า! วิญญาณกลับมาแล้วนี่ กลับมาแล้วก็เชิญไปเปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้วจ้า เดี๋ยวฉันจะเดินไปดูทางนั้นก่อน"
..........
"อิงฟ้าแกเก็บของเสร็จยัง" วิภา เดินเข้ามาภายในห้องที่ใช้แต่งหน้าแต่งตัว
"ยังเลย ใกล้เสร็จแล้ว" อิงฟ้าก้มลงเก็บเสื้อผ้าและเครื่องสำอางใส่กระเป๋าเดินทางสีชมพูที่เธอนำติดตัวมาด้วย
"นี่แกยังไม่เปลี่ยนชุดอีกหรือ"
"ยังว่าจะเก็บของตรงนี้ให้เสร็จก่อนเดี๋ยวจะออกไปเปลี่ยนห้องน้ำด้านนอก แกดูซิใครไม่รู้เก็บเต็นท์เปลี่ยนเสื้อไปแล้ว" อิงฟ้าส่งสายตาให้วิภาดู เต็นท์ทรงสูงที่เคยตั้งอยู่มุมห้องแต่ตอนนี้มันหายไป
"แย่จริงๆ ทีมงานพวกนี้ของยังใช้งานไม่เสร็จจะรีบเก็บไปไหน เดี๋ยวฉันต้องจัดการหน่อยแล้ว" วิภาเอ่ยอย่างหัวเสีย
"ช่างเถอะ ห้องน้ำด้านนอกเยอะแยะ แกก็อย่าว่าทีมงานเลย" อิงฟ้าลูบไหล่ วิภาให้เย็นลง
"เอ่อ..วิ แกว่าห้องนี่แปลกๆ ไหมว่ะ" อิงฟ้ามองรอบห้องทรงโบราณ แสงสีขาวปนเหลืองอ่อนๆ ลอดผ่านเข้ามาสลัวเพิ่มความวังเวงมากขึ้นแต่สำหรับเธอกลับดูเหมือนคุ้นเคย
"ก็ปกตินะ ไม่เห็นจะแปลกตรงไหนเลย สถานที่โบราณที่ไหนก็เป็นแบบนี้ทั้งนั้นแหละ ดูดีออก" วิภา มองไปรอบๆ ตามสายตาของอิงฟ้า
"ฉันว่า..ฉันคุ้นๆ กับที่นี่อย่างไงไม่รู้เมื่อเคยอยู่ที่นี่..มันคุ้นเคยบอกไม่ถูก" อิงฟ้า พยายามนึกแต่ก็นึกไม่ออกว่าคุ้นเคยที่นี่ได้อย่าง
"จะไม่คุ้นได้ไงแกเข้าออกที่นี่มาสองวันแล้วก็ต้องมีคุ้นบ้างล่ะ เพ้อเจ้อ" วิภา จิ้มหน้าผากอิงฟ้าเบาๆ
"เอ่อ ก็จริงแต่แกว่าบรรยากาศมันวังเวงไหม ฉันรู้สึกหนาวๆ" อิงฟ้ายกมือขึ้นลูบแขนขับไล่ความหนาวเย็น
"แกคิดมาก รีบๆ เก็บของเลยจะห้าโมงเย็นแล้วเดี๋ยวรถติด"
"เอ่อช่างเถอะแกออกไปรอข้างนอกก่อนแล้วกัน ฉันเก็บตรงนี้เสร็จแล้วเดี๋ยวตามไป"
"โอเค งั้นเดี๋ยวฉันไปเช็กความเรียบร้อยด้านนอกรอแกแล้วกัน"
"โอเค" อิงฟ้าพยักหน้าให้เพื่อนก่อนจะก้มเก็บของต่อ
"ทำไมดูวังเวงแปลกๆ บรื๋อ รีบหยิบกระเป๋าแล้วไปดีกว่า"
ห้องโบราณสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ภายในห้องว่างเปล่า จะมีก็เพียงสายไฟวางระเกะระกะเพราะทีมงานยังเก็บไม่เสร็จเท่านั้น บรรยากาศตอนนี้ช่างเงียบสงัดดูวังเวง
แสงสว่างจากดวงอาทิตย์สาดส่องเข้ามาทางหน้าต่าง สายลมเย็นพัดมาเป็นระยะแม้ไม่ใช่หน้าหนาวหากแต่ตอนนี้กลับเย็นเยือกผิดปกติ อิงฟ้าได้แต่ยกมือลูบแขนเบาๆ ให้ร่างกายบอบบางนี้ได้รับไออุ่น
กระเป๋าเดินทางใบใหญ่สีชมพูวางอยู่ด้านข้าง เธอก้มตัวหวังหยิบขึ้นมา เพียงครู่เดียวเท่านั้นร่างกายบอบบางของเธอกลับเบาหวิวชอบกลสองขาที่เคยหนักแน่นมั่นคงเหมือนไร้เรี่ยวแรง พื้นไม้สีน้ำตาลตอนนี้ดูซีดจางเพราะหมอกไอสีขาว อากาศเย็นก่อนหน้าทวีความรุนแรงขึ้นจับใจ ห้องสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่เริ่มบิดเบี้ยวบีบแคบลง เสียงดังกึกก้องของประตูหน้าต่างสั่นระริกตามแรงลม ร่างกายของอิงฟ้าที่เคยยืนอย่างมั่นคงตอนนี้เริ่มเซถลาเล็กน้อย มือเรียวคว้ากระเป๋าเดินทางที่อยู่ข้างๆ ยึดไว้ไม่ให้ตัวเองล้ม เหตุการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นดูสับสนงุนงง หมอกไอเย็นสีขาวก่อนหน้าแผ่วงกว้างปกคลุมจนมืดมิด แม้จะรู้สึกกลัวแต่อิงฟ้าก็ยังพยายามควานหาทางออก ไม่ทันที่เธอจะได้ก้าวขาพลันแสงสีส้มเจิดจ้าก็เปล่งประกายขึ้นแล้วจางหายในพริบตา
แว็บ...
..
.
"อิงแกเก็บของเสร็จหรือยัง? อ้าวกลับไปแล้วหรือเนี่ย กลับตอนไหนก็ไม่บอก เฮ้อ!" วิภา ยกมือขึ้นเกาศีรษะอย่างงุนงง
....
..