คฤหาสน์หลังโตสำหรับเด็กสาวที่แสนจะธรรมดาอย่างฉัน เด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ตอนนี้มีเพียงตัวคนเดียว ไร้ญาติพี่น้อง และก็ต้องเผชิญโลกเพียงลำพัง
“เฮ้อ...ชีวิตฉัน” ฉันนั่งถอนหายใจยาวอย่างหดหู่ในห้องนอนที่ใหญ่กว่าบ้านที่ฉันเคยอยู่กับแม่ ฉันปฏิเสธที่อยู่ห้องนี้จนถกเถียงกับเขาอยู่นาน ซึ่งดูแล้วเถียงยังไงฉันก็ไม่มีวันชนะจนต้องจำยอม
ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงของการเคาะประตูดังขึ้นทำให้ฉันสะดุ้งหลุดจากห้วงความคิดแล้วเดินไปเปิดประตูก็พบว่าเป็นคุณวายุนั่นเอง
“ยังไม่นอนหรอ”
“..............” ฉันไม่ตอบอะไรเขานอกจากยืนมองหน้าเขานิ่ง
“ฉันถามไม่ได้ยินหรอ” เขาถามเสียงนิ่งเหมือนกับใบหน้าของเขานั่นแหละ เวลาที่เขานิ่งขรึมเขาดูน่ากลัว
“กำลังจะนอนค่ะ....แต่หนูนอนไม่หลับ หนูไม่ชิน” ฉันบอกไปตามความจริง จิตใจตอนนี้ฉันอยากกลับบ้าน บ้านที่ฉันเคยอยู่กับแม่ บ้านที่เคยเป็นความทรงจำแห่งความสุข ความสุขที่ฉันมีแม่เป็นที่พึ่งทางจิตใจและกำลังใจให้ฉันที่จะสู้ต่อ
“รีบปรับตัวให้ชินซะ เพราะยังไงเธอต้องอยู่ที่นี่....กับฉันตลอดไป”
“คุณหมายความว่ายังไง ?”
“ฉันไม่พูดซ้ำ”
“เดี๋ยวๆ....คุณวายุ! คุณ…!” เขาพูดจบแล้วเดินออกไปเลยโดยที่ฉันยังงงกับสิ่งที่เขาบอก -ฉันต้องอยู่ที่นี่กับเขา ตลอดไป- ยังไงกันแน่
ฉันปิดประตูแล้วเดินกลับเข้ามาในห้องที่แสนกว้างสิ่งที่ทำได้คือต้องทำใจสินะ แล้วฉันมาอยู่กับเขาเพื่ออะไรฉันไม่เข้าใจ
พระอาทิตย์สาดส่องผ่านผ้าม่านเข้ามาในห้องนอนนั่นหมายถึงว่าได้แปรเปลี่ยนเป็นวันใหม่แล้ว และสถานที่ใหม่ที่ไม่ใช่ที่ที่ฉันเคยอยู่แต่เด็กฉันลุกจากเตียงนอนแล้วรีบจัดการธุระส่วนตัวจนเรียบร้อยแล้วเดินลงมาชั้นล่างที่ว่างเปล่า
“ขอโทษนะคะ บ้านเงียบไม่มีคนอยู่เลยหรอคะ” ฉันเอ่ยทักขึ้นเมื่อเห็นหญิงมีอายุคนหนึ่งเดินออกมาจากทางด้านหลังของบ้าน
“ที่นี่มีแค่คุณวายุคนเดียวค่ะที่อยู่....แต่ตอนนี้คุณวายุออกไปทำงานแต่เช้า ท่านสั่งให้ป้าดูแลคุณค่ะ”
“อ๋อค่ะ...งั้นป้ามีอะไรให้หนูช่วยไหมคะ” ฉันเอ่ยอย่างเป็นมิตร
“ไม่ได้หรอกค่ะ คุณเป็นแขกของคุณวายุ”
“ไม่เป็นไรค่ะป้า หนูอยากช่วย” ความรู้สึกเป็นมีแม่อยู่ข้างๆ เมื่อฉันได้คุยกับป้าคนนี้ “ว่าแต่ป้าชื่ออะไรหรอคะ” ฉันถามขณะเดินเคียงกับป้าไปยังส่วนของหลังบ้าน
“ป้าชื่อ เพ็ญ ค่ะ”
“ป้าเพ็ญ....หนูชื่อพลอยฝันค่ะ “ ป้าเพ็ญพาฉันเข้ามาในครัว “ป้าทำคนเดียวหรอคะ ทุกอย่างในบ้านนี้”
“ไม่หรอกจ๊ะ มีแม่บ้านหลายคนป้าเป็นหัวหน้าแม่บ้านที่นี่ อยู่มานานตั้งแต่คุณพ่อคุณแม่ของคุณวายุ”
ฉันไม่ถามอะไรป้าเพ็ญต่อได้แต่ส่งยิ้มกลับไป เราทั้งคู่ก็ช่วยกันทำงานบ้านไปเรื่อยๆ จนเสร็จเรียบร้อยจวนเวลาเย็นแล้วเลยเดินเลยตรงสวนด้านหลัง แต่ฉันสะดุดตากับบ้านหลังเล็กที่อยู่ตรงหลังบ้านซึ่งมีชายชุดดำสองคนยืนเฝ้าอยู่
“เอ๋....มีคนอยู่ในนั้นหรอ” ฉันค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้อย่างเงียบๆ แล้วแอบอยู่หลังพุ่มไม้ซึ่งคิดว่าไม่มีใครเห็น “แต่ป้าเพ็ญบอกคุณวายุอยู่คนเดียวนินา” ความสงสัยเริ่มก่อตัวในหัวของฉัน ฉันซุ่มแอบดูอยู่นานนับสิบนาทีก็ไม่เห็นจะมีปฏิกิริยาอะไรเกิดขึ้นจึงค่อยๆ ก้าวถอยหลังแต่สายตายังคงเพ่งมองไปยังบ้านหลังนั้น
แกร๊ก!! 0.0
“แกเป็นใคร ?” เสียงของใครคนหนึ่งที่กำลังเอาของแข็งบางอย่างที่ฉันคิดว่าน่าจะเป็นปืน กำลังจี้กดลงกลางหัว ฉันกลืนน้ำลายลงคอเฮือกใหญ่อย่างลำบาก ความกลัวตายหากเขานั้นพลั้งมือลั่นไกใส่หัวฉัน “ฉันถาม!” เขาคนนั้นย้ำถามฉันอีกครั้งด้วยเสียงเข้ม
“ ยะ อย่าทำอะไรหนูเลยนะคะ หนูไม่ได้ตั้งใจ “ ฉันรีบยกมือชูขึ้นแล้วพูดอย่างรนๆ แล้วค่อยๆ หันหน้าไปหาเขา “ คุณวายุ ! “
“พลอยฝัน!....เธอมาทำอะไร “ เขาถามฉันทั้งๆ ที่ยังเอาของแข็งนั้นจ่อหัวฉันอยู่
“ หนูแค่มาเดินเล่นค่ะ หนูไม่ได้ตั้งใจจะยุ่มย่าม “ ฉันตอบเขาไปตอนนี้ตัวของฉันคงสั่นกลัว
“เข้าบ้านไปสะ ... แล้วอย่ามาที่นี่อีก “ เขาลดของแข็งนั้นลง ซึ่งมันคือปืนจริงๆ อย่างที่ฉันคิด
“ค่ะ ๆ “ ฉันรนรานแล้วรีบย่ำเท้าออกไปจากตรงนั้น แต่ต้องชะงักกึก.....
“ รู้ใช่ไหมอะไรที่ควรพูดหรือไม่ควรพูด...ถ้าฉันเห็นเธอเข้ามาวุ่นวายบริเวณนี้อีก เธอคงเดาไม่ยากว่าจะเป็นยังไง “ เขาพูดเสียงนิ่งจนฉันฟังแล้วรู้สึกขนลุก พลังจากน้ำเสียงนั้นมันฟังดูน่ากลัว “ถ้ายังอยากมีชีวิตอยู่ต่อ”
“ เฮือก...ค่ะ “ ฉันกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากกับประโยคสุดท้าย ตอบแล้วรีบเดินออกมาจากตรงนั้น ด้วยความสงสัยที่ยังคงมี - ในนั้นมีอะไรเป็นความลับ –
ฉันรีบเดินขึ้นไปยังห้องนอนทันทีด้วยความกลัว เขาดูเกรี้ยวกราดเหมือนไม่อยากให้ใครล่วงรู้บางอย่างที่อยู่ในบ้านหลังนั้น
“ มีอะไรในนั้นกันแน่นะ ....หวงจัง “ ฉันสบถกับตัวเองแต่ต้องรีบสลัดความสงสัยออกแล้วจัดการชำระร่างกายตัวเอง