"จูบของเธอมันโคตรห่วยเลย!!!"
"อื้ออออ!!!"
ถึงจะว่าอย่างนั้นแต่มาเฟียหนุ่มก็ประกบปากจูบสอนรสรักให้กับคนตัวเล็กข้างหน้า สองมือเล็กกำกำปั้นทุบแผงอกแกร่งระรัวหวังให้เขาหยุดการกระทำหน้าอายนี้
นี่มันสามครั้งแล้วนะ เขาจูบเธอสามครั้งแล้ว อีตาลุงนี้ต้องมีปัญหาเรื่องสมอง แน่ๆ อย่าให้ฉันหลุดไปได้นะ ฉันจะฟ้องพี่เมฆให้ดู
"อื้ออออออ!!!"
เด็กสาวเริ่มประท้วงในลำคอเมื่อรู้สึกว่าตัวเองใกล้จะขาดอากาศหายใจ เธอถูกช่วงชิงลมหายใจนานจนเกินไปจนตอนนี้เธอเริ่มหายใจติดขัดแต่มาเฟียหนุ่มยังไม่ยอมหยุดช่วงชิงลมหายใจของเธอ
"ยะ ... อย่ามายุ่งกับฉันนะ ลุงทำแบบนี้ทำไมอะ" ทันทีที่ริมฝีปากเป็นอิสระน้ำพั้นช์กลับต่อว่ามาเฟียหนุ่มอย่างไม่เกรงกลัว เธอใช้จังหวะที่เขาเผลอกระชากโทรศัพท์ของตัวเองคืน
พลั่ก!!
เพี้ยะ!!
เธอผลักแผงอกแกร่งของมาเฟียหนุ่มให้ออกห่าง แต่ยังไม่วายหันกลับไปฟาดมือลงบนใบหน้าคมคายของเขาเต็มแรง แล้วรีบหนีเดินออกมา
"ยัยเด็กปากดี" เกิดมายังไม่เคยมีใครทำกับเขาอย่างนี้เลย มาร์ตินยกมือหนาขึ้นลูบแก้มสากตัวเองเบาๆ แรงตบของเธอมันไม่ได้ทำให้เขารู้สึกเจ็บ แต่ก็มีอาการชาๆ อยู่บ้าง
"หายไปไหนมาย่ะ เอายัยดาวมาทิ้งแล้วหายไปเลย" วิปครีมแหวใส่เพื่อนรักทันทีที่เห็นน้ำพั้นช์เดินกลับมาที่โต๊ะโดยไม่ทันได้สังเกตุว่าสภาพของเพื่อนกระเซอะกระเซิงขนาดไหน
"โดนรุมโทรมมารึไง" ชานนท์แขวะเพื่อนสาวที่เดินมาด้วยภาพที่ไม่หน้าดูนัก
"แล้วแกปล่อยผมทำไมเนี่ย เมื่อกี๊ยังมัดอยู่เลย อย่าบอกว่าหนาวนะ ฉันเห็นแกเหงือแตกขนาดนี้" จะไม่ปล่อยได้ยังไง ถ้ายังมัดอยู่วิปครีมกับชานนท์ต้องได้เห็นรอยเขี้ยวของตาลุงนั่นแน่
"ไหนเหล้าฉันละ" ใครจะไปอยากพูดถึงกัน เรื่องหน้าอับอายขนาดนี้ น้ำพั้นช์ทำเป็นเฉไฉเปลี่ยนเรื่องพลางยกมือลูบรอยแผลที่ลุงหน้ามึนฝากเอาไว้
"คุณผู้หญิงครับ คุณผู้ชายท่านนั้นฝากมาให้ครับ" เวลาผ่านไปเพียงชั่วครู่ บริกรเอาเครื่องดื่มมาให้น้ำพั้นช์พลางชี้นิ้วไปด้านหลัง พบกับชายหนุ่มคนหนึ่งที่หน้าตาหล่อเหลาเอาการยกแก้วเครื่องดื่มในมือขึ้นเป็นการเชื้อเชิญ
"พี่หมอ" ต้นหนาวชายหนุ่มรุ่นพี่ที่เรียนหมออยู่มหาวิทยาลัยเดียวกัน ส่งยิ้มให้กับดาวคณะสามปีซ้อนอย่างน้ำพั้นช์เป็นการเชื้อเชิญ
"นอโผล่เลยดิมึง" ชานนท์จิกกัดอีกครั้งก่อนที่จะเบนสายตาไปมองละอองดาวที่ฟุบหลับอยู่กับโต๊ะ
"เดี๋ยวกูไปหาพี่หมอแป๊ปนะ"
"ไปนานๆ ก็ได้พวกกูจะกลับแล้ว ต้องไปส่งดาวอีก" ชานนท์พูดตอบขณะที่วิปครีปชี้นิ้วเข้าหาตัวเองอย่างมึน งง
"พวกกูที่มึงพูดถึงหมายถึง มึงกับ ดาวใช่ปะ" เธอยังไม่อยากกลับสักหน่อยทำไมถึงเหมารวมเธอเข้าไปด้วยละ
"หมายถึงอีดาว มึง แล้วก็กูเนี่ย"
"แต่กูยังไม่อยากกลับไง"
"แล้วใครจะช่วยกูแบกมันละ มันต้องนอนห้องมึง" วิปครีมทำหน้าเอือมๆ กับเพื่อนสาว เธอลุกขึ้นจับมือน้ำพั้นช์ลากไปหาต้นหนาวทันที
"หนีพี่มาเที่ยวเหรอเราน่ะ" คำทักทายแรกจากต้นหนาวทำเอาน้ำพั้นช์อึ้งไปเล็กน้อย จริงอยู่ที่เธอหนีเหนือเมฆมาเที่ยวแต่ต้นหนาวรู้ได้ยังไง
"เออ พี่ต้นครีมฝากยัยพั้นช์ด้วยนะ ครีมต้องพายัยดาวกลับ" ต้นหนาวพยักหน้ารับพร้อมทั้งจ้องมองน้ำพั้นช์ ที่ตอนนี้เธอดูสวยเซ็กซี่ในแบบของเธอ
"มองขนาดนี้จะกินพั้นช์เลยไหมคะ" น้ำพั้นช์เย้าแหย่ต้นหนาวที่ตอนนี้เดินมาซ้อนหลังในขณะที่เธอกำลังนั่งบนเก้าอี้ มือหนาลูบไล้เรียวแขนเล็กของเธอเบาๆ ขณะที่อีกมือกำลังม้วนปลายผมเธอเล่นอยู่
"ให้พี่กินเหรอ" ทั้งๆ ที่เป็นคนตั้งคำถามแต่เมื่อเป็นฝ่ายถูกถามกลับใบหน้าของเธอก็เห่อร้อนขึ้นมา ตอนนี้หน้าเธอคงแดงเป็นลูกตำลึงสุกแล้วมั้ง
"ถ้าให้พี่หมอจะกินน้ำพั้นช์ไหมคะ" เธอเอี้ยวตัวกลับใช้สองแขนตวัดรัดรอบลำคอหนาของต้นหนาวเอาไว้หลวมๆ ขณะที่มือก็ยังถือแก้วอยู่ด้วย
"อ่อยขนาดนี้พี่กินจริงแล้วอย่ามาร้องนะ" มือหนาดันหน้าผากมนของน้ำพั้นช์เบาๆ เรียกเสียงขบขันให้กับต้นหนาวเป็นอย่างดีเมื่อเห็นคนตัวเล็กเบ้หน้าด้วยความเจ็บปวด
"นี่แกล้งกันเหรอคะ" น้ำพั้นช์ทำสีหน้ากระเง้ากระงอด ทำให้ต้นหนาวเลื่อนมือที่ค้ำยันกับขอบโต๊ะเอาไว้ ขึ้นมากอดหญิงสาวเอาไว้ในอ้อมแขนแกร่ง
"พี่กินเราแน่ แต่เราต้องตกลงเป็นแฟนกับพี่ก่อน" ใบหน้าหวานเริ่มร้อนเห่อขึ้นมาอีกครั้งเมื่อต้นหนาวพูดประชิดกกหูเล็กของตัวเอง ไรขนอ่อนลุกชูชันเมื่อฝ่ามือร้อนสัมผัสหน้าท้องแบนราบ
"พี่ก็รู้ว่าพั้นช์ยังไม่พร้อมผูกมัดกับใคร" ถึงแม้ว่าจะรู้คำตอบของคนตัวเล็กอยู่แล้วแต่ต้นหนาวก็ไม่ได้ว่าอะไรแม้แววตาจะแอบวูบไหวไปบ้างก็ตาม
"งั้นก็อย่ามาอ่อย ถ้าพี่ทนไม่ไหว พี่ข่มขื่นเราแน่" คำพูดติดตลกของเขาทำเอาน้ำพั้นช์ ลอบกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ เธอกับต้นหนาวยังไม่มีสถานะในการเรียกกัน จะว่าคู่ขาก็ไม่ใช่คู่นอนก็ไม่เชิง แม่จะเคยนอนบนเตียงเดียวกันแต่ก็ไม่เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน เธอยังซิง
"พั้นช์ทำไม่ได้หรอกคะ ก็ซิกซ์แพ็กพี่หมอมันน่ากัดหน้าฟัด" น้ำพั้นช์ยังหยอกเย้ากับต้นหนาวอย่างเป็นกันเอง ความอบอุ่นที่ต้นหนาวมอบให้มันทำให้เธออยากลองเปิดใจสักครั้ง
"เป็นว่าที่นายแพทย์ แต่ทำไมถึงดื่มบ่อยจัง" เธอเอี้ยวตัวไปกระซิบถามข้างหูของว่าที่หมอหนุ่ม
"ซ้อมเอาไว้ เผื่อวันไหนโดนบางคนเทจะได้ไม่เจ็บมาก" สองสายตาประสานกันอย่างลึกซึ้งเธอเองก็มีความรู้สึกดีๆ ให้กับเขา เช่นเดียวกันกับที่เขาก็มีให้เธอ เขาเฝ้ารอวันที่เขามีสถานะ ในขณะที่เธอยังไม่พร้อมเปิดใจ แม้หัวใจของเธอจะเต้นแรงกับเขาทุกครั้งก็ตาม
การกระทำของน้ำพั้นช์อยู่ในสายตามาเฟียหนุ่มที่นั่งอยู่โซนวีไอพีชั้นสองห่างๆ มาร์ตินมองภาพข้างล่างอย่างเงียบๆ ก่อนหยัดกายลุกขึ้นใช้สองมือล้วงกระเป๋าเดินลงจากชั้นสองผ่านจุดที่น้ำพั้นช์ และต้นหนาวยืนอยู่
"แรดฉิบหาย"