"มาร์ติน" น้ำพั้นช์หันมองหน้ามาร์ตินแววตาไร้เดียงสาของเธอทำให้เขาหงุดหงิด เธอเดินตรงไปข้างหน้าพร้อมกับยกมือขึ้นไหว้เขาตามธรรมเนียมไทย ถึงแม้มาร์ตินจะเป็นชาวยุโรปก็ตาม
"สวัสดีคะคุณลุง หนูชื่อน้ำพั้นช์นะคะ เป็นน้องสาวของพี่เหนือเมฆ" ละ ... ละ ... ลุงงั้นเหรอ ยัยเด็กนี้ เขาเพิ่งจะยี่สิบเจ็ดเท่านั้น แต่กลับมาเรียกเขาว่าลุงมันจะมากไปแล้วนะ
"พั้นช์!!" เหนือเมฆปรามเสียงเขียวเมื่อยัยเด็กแสบเริ่มแผงฤทธิ์ด้วยความไร้เดียงสาของเธอแม้ภายนอกน้ำพั้นช์จะดูเป็นสาวกร้านโลก แต่ความจริงมันไม่ใช่แบบนั้นเลย ไม่เลยสักนิด
"เรียกทำไมพี่เมฆ พั้นช์หิวแล้ว กลับบ้านกัน" น้ำพั้นไม่ได้สนใจสายตาดุดันของมาร์ตินเลยสักนิดเธอเดินผ่านหน้าเขาไปพร้อมทั้งตะโกนไล่หลังขณะเดินห่างออกไปเรื่อยๆ
"เร็วๆ นะหิวแล้ว หิวมากๆ หิวจนจะตายอยู่แล้ว" เหนือเมฆหลุดยิ้มให้กับน้องสาวของตัวเอง ความทะเล้นของเธอทำให้เขาหายเครียด แต่รอยยิ้มนั้นต้องหายไปเมื่อหันกลับมาเจอกับใบหน้าดุดันของมาร์ติน
"เจอกันพรุ่งนี้ ไปก่อนนะครับลุง" เขายังหยอกล้อด้วยคำพูดน้องสาวกลั้นแกล้งมาร์ตินก่อนเดินเลี่ยงออกไป
"ลุงพ่องงง!!" มาร์ตินตะโกนตามไล่หลังเหนือเมฆอีกครั้งก่อนเดินออกมาจากโกดังที่เขาเพิ่งจะระเบิดเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้า
"พั้นช์ กลับบ้านบ้างไม่ใช่พี่ตามทีก็กลับมาที" ทันทีที่ถึงโต๊ะอาหารเหนือเมฆบ่นน้องสาวในไส้ที่แยกตัวออกไปอยู่คอนโดโดยอ้างว่าไม่ชอบที่เหนือเมฆชอบพาผู้หญิงแปลกหน้าเข้าบ้าน
"ไปเลิกกับสาวๆ ก่อนซิแล้วพั้นช์จะกลับบ้าน" เด็กสาวหย่อนสะโพกนั่งลงเก้าอี้ข้างพี่ชายโดยวันนี้มีแค่เหนือเมฆ และน้ำพั้นช์ที่นั่งร่วมโต๊ะรับประทานอาหารเท่านั้น ส่วนไข่มุก เหนือเมฆให้คนเอาอาหารขึ้นไปให้บนห้องนอน
"คืนนี้นอนบ้านนะ เดี๋ยวพี่ให้คนอื่นออกไปก่อน" ถึงแม้เหนือเมฆจะดูมีอำนาจ และหน้าเกรงขาม แต่เขาก็รักน้องสาวคนนี้ที่สุด หากน้ำพั้นช์ตกลงจะกลับมาอยู่บ้าน เขาก็พร้อมทำตามข้อเสนอของเธอออย่างไม่มีข้อแม้
"ไม่เอาพั้นช์จะกลับไปนอนคอนโด วันนี้มีนัดกับเพื่อนด้วย"
"งั้นก็ตามใจเธอ ทำตัวดีๆ ล่ะ เธอรู้ใช่ไหมว่าพี่รักเธอมากแค่ไหน" เหนือเมฆตอบน้องสาวอย่างเป็นห่วง เขาไม่อยากบังคับน้ำพั้นช์มากจนเกินไป เพราะตั้งแต่พ่อแม่เสียเมื่อปีก่อนเขาต้องเป็นคนที่คอยดูแลทุกอย่างแทนพ่อ และแม่
@คลับxxx
"พั้นช์ทำไมแกมาช้าจัง" วิปครีมเพื่อนสาวที่สนิทคนเดียวของน้ำพั้นช์บ่นให้เมื่อเธอต้องมารอถึงครึ่งชั่วโมง
"อ่อยผู้อยู่ละมั้ง มาช้าขนาดนี้" ชานนท์เพื่อนชายคนสนิทของเธอกระแหนะกระแหนเข้าให้อีกคน น้ำพั้นช์เพียงแค่ไหวไหล่ไม่ยีระกับคำกระแหนะกระแหน นั่น
"แล้วยัยดาวละ เป็นคนชวนมาแท้ๆ แต่กลับมาช้ากว่าฉันงั้นเหรอ" น้ำพั้นช์ถามถึงละอองดาวที่เป็นคนชักชวนให้ออกมาปาร์ตี้เพราะเธออกหัก
"เมาอ้วกอยู่ในห้องน้ำ แกไปดูมันหน่อยก็ได้เดี๋ยวฉันสั่งเครื่องดื่มให้" วิปครีมพูดขึ้นสายตาของเธอทอดไปยังมุมมืดทางเข้าห้องน้ำหญิงเป็นการบอกน้ำพั้นช์เป็นนัยๆ ว่าให้เธอไปดูละอองดาว
"ภาระจริงๆ" ถึงเธอจะบ่นแต่ก็ยอมเดินเลี่ยงออกไปโดยวางกระเป๋าสะพายใบเล็กสีขาวไว้บนโต๊ะ ส่วนชานนท์อาสานั่งเฝ้าโต๊ะให้ พลางหยิบมือถือขึ้นมาเล่นระหว่างรอ
"โอ้โห ยัยดาว ถ้าแกจะเมาเละขนาดนี้ ครั้งหน้าชวนพวกฉันไปบ้านเถอะ จะได้ไม่เป็นภาระของเพื่อนฝูง" น้ำพั้นช์เด็กสาววัยยี่สิบสองปีเศษเดินตรงไปแบกร่างของเพื่อนสาวที่เมาเละนอนกองอยู่ที่พื้นห้องน้ำ
"โทรศัพท์แกละ ยัยดาว" เธอใช้สองมือลูบตามกระเป๋าของละอองดาวแต่ไม่พบสิ่งที่กำลังตามหา เธอแบกละอองดาวเอาไว้แล้วลากออกมาจากห้องน้ำเดินตรงไปยังโต๊ะของตัวเอง
ตุ้บ!!!
มือหนาของใครบางคนก้มลงหยิบโทรศัพท์มือถือที่หล่นลงพ้นทำให้หน้าจอแสดงผลรูปของเจ้าของเครื่องที่หน้าตาน่ารัก ราวกับตุ๊กตา
"หึ!! เจอกันอีกแล้วนะ ยัยเด็กไร้กาละเทศะ" มาเฟียหนุ่มจ้องมองมือถือตรงหน้า สายตามองตรงเข้าไปยังโต๊ะเป้าหมายก่อนยกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเลห์ ยืนโยนโทรศัพท์มือถือที่เก็บได้เมื่อครู่เล่นอย่างสบายใจราวกับกำลังรออะไรบางอย่าง
"ขอโทษนะคะ ขอโทรศัพท์ฉันคืนได้ไหม" น้ำพั้นช์เดินกลับมาหน้าห้องน้ำอีกครั้ง แต่สายตาของเธอจ้องมองชายหนุ่มตรงหน้าตั้งแต่ศรีษะจรดปลายเท้า เธอก้าวเดินเข้าไปหาเขาแล้วเอ่ยทักเพื่อขอของของเธอคืน
"อ้าว!!! โถ่คิดว่าใคร ลุงนี้เอง ขอบคุณที่เก็บให้ฉันนะ ฉันขอมือถือฉันคืนด้วย" ทันทีที่ประสานสายตากันอีกครั้งเธอคลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเจอเขาที่ไหน แต่ก็เพิ่งนึกได้ว่าเพิ่งเจอกันเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้เอง ทำไมเขาถึงเปลี่ยนชุดไวนักนะ
ละ ... ลุงอีกแล้ว ยัยเด็ดนี้ปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม กล้าดียังไงมาเรียกเขาว่าลุง เขาเพิ่งจะยี่สิบเจ็ดเองนะ เห็นทีต้องสั่งสอนสักหน่อยแล้ว
ฟึ้บ!!!
"อุ๊บบ!!!"
มาเฟียหนุ่มฉกริมฝีปากหนาช่วงชิงลมหายใจของเธออย่างอุกอาจโดยที่ยังไม่มีคำพูดใดๆ หลุดออกจากปากเขาแม้แต่คำเดียว ใช่ว่าเขาพิศวาสเธอหรอกนะแต่แค่ต้องการสั่งสอนยัยเด็กไม่รู้จักกาละเทศะให้หลาบจำก็เท่านั้น
เด็กสาวดิ้นขลุกขลักภายในอ้อมแขนแกร่งของมาเฟียหนุ่มอย่างยากจะหลุดพ้น นี่ขนาดใช้แค่ท่อนแขนเพียงข้างเดียวในการกักขังเธอนะ โรคจิต อีตานี่ต้องโรคจิตแน่ๆ
"ทะ ... ทำบ้าอะไรเนี่ยลุง!!"
ทันทีที่ริมฝีปากของเธอได้รับอิสระเธอเริ่มสาดพ่นต่อว่ามาเฟียหนุ่มที่ไร้จิตสำนึก อะไรกันเพิ่งเจอกันแค่สองครั้งในหนึ่งวัน เขาก็ขโมยจูบของเธอไปอย่างอุกอาจ
" ... "
สิ่งที่เธอได้รับมีแค่ความเงียบจากมาเฟียหนุ่มตรงหน้า และรอยยิ้มยียวนของเขามันช่างขัดใจเธอเสียเหลือเกิน บ้าจริง ระ ... โรคจิตแน่ๆ
"เอามือถือฉันคืนมานะ"
" ... "
มาเฟียหนุ่มยังคงเงียบ เขาหยิบบุหรี่ที่กางเกงยีนตัวสวยขึ้นมาจุดดูดอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว และแน่นนอน ดวงตาสีเทาหม่นจ้องมองใบหน้าบูดเบี้ยวที่กำลังโมโหเขาตรงหน้าอย่างขบขัน
"เอามือถือฉันคืนมา"
"จูบฉันซิ"