Lovely shot 7

1266 คำ
Lovely shot 7 “กานต์ไปยังไง” พี่ขิมถามเมื่อเรากำลังเก็บของไปยังร้านอาหารที่เลขาคุณกรแจ้งไว้ “วันนี้เอารถมาค่ะ” “โอเค งั้นเจอกันอยู่ร้านนะ” “ค่ะพี่” พี่ ๆ ทยอยออกไป ส่วนฉันเองก็เก็บของเสร็จตั้งใจจะออกไปรอที่ร้านแต่เท้าที่กำลังก้าวมีอันต้องชะงักไปเมื่อเลขาคุณกรก้าวมาดักตรงหน้าไว้พร้อมกับส่งรอยยิ้มเอ็นดูมาให้ “สวัสดีค่ะ” ฉันยกมือไหว้คุณเลขาไป พี่เขารับไหว้พร้อมกับยิ้มให้อยู่ดังเดิม “คุณกรเชิญคุณกานต์ที่ห้องค่ะ” “คะ? ทำไมคะ” “ดิฉันไม่ทราบค่ะ เชิญคุณกานต์ค่ะ” “ไม่ต้องเรียกคุณก็ได้ค่ะ เรียกน้องแบบนี้ดีกว่า” “ได้ค่ะน้องกานต์ เดี๋ยวเดินไปพร้อมกันเลยนะคะ” คุณเลขาผายมือเชิญ ฉันจำต้องเดินเจี๋ยมเจี้ยมตามคุณเลขาไป กว่าจะถึงห้องคุณกร ในหัวฉันก็ขบคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย กระทั่งเข้าไปในห้องคุณกรเงยหน้าจากเอกสารขึ้นมองฉันแวบหนึ่งก่อนจะก้มหน้าดูเอกสารต่อ “นั่งรอก่อนครับ พี่ขอดูเอกสารต่ออีกนิด” จะให้รอทำไมล่ะฉันเองก็มีรถไปเองได้ “ดิฉันมีรถค่ะ” “อย่าพูดทางการกับพี่ แล้วก็นั่งรอ” “แต่...” “กานต์ พี่จะทำงานนั่งรอก่อน” ดูเอาเถอะมันใช่ไหมล่ะ จะมาดุแบบนี้ได้ยังไงกัน เกือบสิบห้านาทีที่ฉันนั่งเฝ้าคุณกรทำงาน ฉันเอาแต่เงียบกระทั่งเขาลุกจากเก้าอี้หยิบกระเป๋าและเสื้อสูทนั่นแหละถึงได้ลุกขึ้นยืนบ้าง “ไปรถพี่” “แต่ดิฉันเอารถมาค่ะ” “พี่บอกว่าไง อย่ามาพูดทางการกับพี่” เขายืนจ้องหน้าฉันเขม็ง ปกติเขาจะดุและไม่พอใจบ่อย ๆ แต่ตอนนี้เขากลับจ้องหน้าฉัน ความไม่พอใจฉายชัดในดวงตาคู่นั้น ฉันจะร้องไห้แล้วนะอย่ามาจ้องฉันแบบนั้น อย่ามองฉันด้วยสายตาแบบนี้ แบบที่เคยมองฉันเมื่อหลายปีก่อน “นะ หนูเอารถมา” ฉันไม่กล้าสบตาเขาแล้ว “เดี๋ยวพี่ให้คนขับไปไว้ที่ห้องให้ หนูก็ไปกับพี่” เขารวบรัดคำตอบ ก่อนจะก้าวเข้ามายืนตรงหน้าแบมือขอกุญแจรถ “งั้นจอดไว้ที่นี่ก็ได้ค่ะ ไม่ต้องเอากลับไปหรอก” ขืนให้คนของเขาไป เขาก็รู้หมดสิว่าฉันพักที่ไหน เดี๋ยวพอทานข้าวเสร็จฉันก็จะให้พี่ ๆ ไปส่งไม่ก็บอกว่ามีนัดกับเพื่อนต่อแค่นี้เขาก็ไม่รู้ที่พักฉันแล้ว อิอิ เก่งมากตัวฉันคิดแผนได้ยังไงเนี่ย “ได้ เราไปกันเถอะหิวหรือยัง” “ยังค่ะ” ฉันตอบทั้งยังเดินตามเขาห่าง ๆ ไปจนถึงรถหรูของเขา เขาเปิดประตูรถให้ฉันขึ้นไปนั่ง เมื่อเขาเงียบฉันเองก็เงียบตาม ก็ไม่คิดจะพูดอะไรอยู่แล้วนี่นา ระยะทางจากออฟฟิศไปจนถึงร้านอาหารใช้เวลาเกือบยี่สิบนาทีกว่าจะถึง นับว่าเป็นเรื่องดีที่พี่ ๆ ที่อยู่ในร้านอาหารกำลังสนุกเลยไม่มีใครสนใจการมาถึงของคุณกรและฉัน “จะนั่งไหน” คุณกรเอ่ยถามเบา ๆ เขายังเดินตามติดฉันอย่างกับวิญญาณ “ไม่รู้ค่ะ เชิญคุณกรนั่งก่อนเลยค่ะ” “นั่งด้วยกัน” เขาบอกสั้น ๆ มือก็เอื้อมมาจับมือฉันไว้ ดึงให้ไปนั่งที่เก้าอี้ที่ว่างติดกันสองตัว ยังดีที่ได้นั่งใกล้พี่ ๆ ในแผนก พี่ปองหันมายักคิ้วให้กวน ๆ ก่อนจะเริ่มเทเครื่องดื่มมาให้ และแน่นอนค่ะว่าไม่ใช่น้ำเปล่าหรือน้ำอัดลม ฉันรับแก้วเบียร์มาก่อนจะมองด้วยความรู้สึกแปลก ๆ ปกติไปดื่มหรือดื่มกับพี่ ๆ ก็ไม่เคยมีใครมานั่งจ้องฉันแบบนี้นี่นา เขาเองก็ได้เครื่องดื่มนี่ทำไมต้องมาจ้องฉันด้วยล่ะ “ทานกันเลยครับ ขอบคุณที่ทำงานหนักกันมานานนะครับ” คุณกรกล่าวเปิดและให้ทุกคนทานอาหาร ฉันแอบขยับเก้าอี้ให้ออกห่างจากเขาเอียงไปทางพี่ปอง พี่ชายที่น่ารักอย่างพี่ปองมองอย่างสงสัยก่อนจะมองเลยไหล่ฉันไปแล้วทำหน้าตกใจยกเท้ายันเก้าอี้ฉันให้ไถลกลับไปอยู่จุดเดิม หยาบคายกันน้องกับนุ่งที่สุดเลย! “พี่ปองอา” ฉันเริ่มงอแงเมื่อพี่ชายที่เป็นที่พึ่งเดียวปฏิเสธการช่วยเหลือ “งานนี้ช่วยไม่ได้น้องรัก” พี่ปองขำ “นั่งดี ๆ แล้วทานข้าว” เขาสั่งมาแบบนั้นฉันจะทำอะไรได้ล่ะนอกจากทานข้าว เวลาผ่านไปไม่นานฉันทานข้าวเสร็จก็นั่งดื่มและคุยเล่นกับพี่ ๆ แต่ก็มิวายโดนคนอื่นแซะเรื่องติ่ง ก็คนเดิม ๆ นั่นแหละ คนไม่ชอบฉันก็เยอะนะทั้งที่ฉันเองวัน ๆ อยู่แต่แผนกไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวหรือสุงสิงกับใคร แต่พวกเขาก็เลือกที่จะไม่ชอบฉัน “นี่น้องกานต์ ไอ้เกาหลีจะมาเตรียมเงินไว้เท่าไหร่จ๊ะ” “คิกคิก ก็คงต้องเตรียมเยอะหน่อยนะหลงผู้ชายขนาดนั้นน่ะ” สาวสวยของออฟฟิศและกลุ่มเพื่อนเธอไม่ลืมที่จะเอ่ยแซะฉัน ฉันล่ะเบื่อกับคนพวกนี้จริง ๆ นะ พอเงียบก็ได้ใจพูดถากถางเรา พอเราเถียงกลับก็หาว่าไม่มีมารยาท และคนอย่างฉันจะอยู่จุดไหนได้ล่ะ “ว่าไงจ๊ะ เตรียมไว้เยอะไหม” ยัง ยังไม่หยุด “นี่ น้องมันจะทำอะไรก็อย่าไปยุ่งกับมันสิ เงินก็เงินมันเธอไม่ได้ช่วยมันหานี่” พี่ซิมบอกคนพวกนั้น แต่มันก็จริงอย่างที่พี่ซิมบอกนะ เงินก็เงินฉัน ฉันทำงานหาเงินเองแล้วคนอื่นจะมายุ่งทำไมล่ะ ความสุขคนเรามันต่างกันนะ บ้าจริง ฉันเริ่มจะหัวร้อนแล้วล่ะ ปกติใจเย็นและทนได้แต่ตอนนี้ดื่มเบียร์ร่างกายมีแอลกอฮอล์ก็ชักจะทนไม่ไหวแล้วล่ะ “ก็เป็นห่วงไงจ๊ะ กลัวว่าแก่ไปจะไม่มีใครเอา เก็บเงินไว้บ้างก็ดี” ห่วงตัวเองเถอะป้า!! ค่ะ ฉันเก่งแค่ในใจเท่านั้นแหละ “อ้อ ได้ข่าวจะกดบัตรนี่นา ไวไฟที่ออฟฟิศช้ามากเลยนะ คนอื่นเขาทำงานทำการตัวเองจะเอาไวไฟไปใช้กดบัตรไปหาผู้ชายคงไม่ได้ คิดบ้างนะจ๊ะจุดนี้” ทนไม่ไหวแล้วล่ะแบบนี้น่ะ “แหมรู้ดีจังเลยนะคะ ไม่ได้ชอบจริง ๆ เหรอคะ รู้กระทั่งวันกดบัตร หรือว่าจริง ๆ แล้วก็ชอบแต่พูดจาดูถูกคนอื่นไว้เยอะเลยต้องแสร้งทำตัวปากจัดกัดคนอื่นไปทั่ว ถามว่าเตรียมเงินไว้เยอะไหมก็น่าจะเยอะกว่าเกินทำศพพวกพี่นั่นแหละ” ฉันจ้องคนพวกนั้นอย่างไม่พอใจ อายุเยอะกว่าแล้วไงทำตัวไม่น่าเคารพฉันก็ไม่อยากเคารพหรอกนะ ที่ทนอยู่ทุกวันนี้เพื่อความสงบในการทำงานแต่เหมือนพวกเขาจะไม่อยากสงบน่ะสิ ถ้าสันติไม่ใช่ทางออกก็บวกแม่งเลยแล้วกัน!!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม