ตอนที่ 12 หอคณิกา สตรีงามเลื่องชื่อของเมืองกวางโจว
ฉันออกมาเดินเล่นข้างนอกน่าจะเป็นตลาดชุมชน สายตาก็มองหากลีบบุปผาทั่วเมือง เมืองกว้างขวางถึงเพียงนี้ กลีบบุปผาจะไปซุกซ่อนอยู่ที่ใด
เฮ้อ แถมผู้คนเดินขวักไขว่กันอย่างละลานตา คงสอดส่องไม่ทั่วถึงทุกแห่งภายในวันเดียว เมืองนี้มีโรงเตี๊ยมหลายแห่ง อีกทั้งยังมีหอสุราที่ใหญ่ที่สุด และรวมไปถึงหอคณิกา แหล่งรวมสตรีงามอันเลื่องชื่อของเมืองกวางโจว งั้นเริ่มจาก สถานที่ใหญ่ ๆ ก่อนแล้วกัน
ฉันใช้เวลานานหลายชั่วยาม ในการตามหากลีบบุปผา แต่กลับไม่พบเบาะแสอะไรเลย เหลือเพียงสถานที่เดียว ณ ตอนนี้ คือ หออวลบุปผา
หออวลบุปผาเป็นหอคณิกาอันดับหนึ่งในเมืองกวางโจว มีหญิงสาวมากมายทุกประเภท ทั้งงดงามที่สุด โดดเด่นที่สุด เร่าร้อนที่สุดไว้ให้ชายหนุ่มได้เลือกสรร จุดประสงค์มีเพียงอย่างเดียวคือทำให้แขกทั้งหลายควักทองพันชั่ง หลงใหลไม่สร่าง สุขจนลืมตัว
ฉันก้าวขาเข้ามายังหออวลบุปผา สตรีเหล่านี้ที่เห็นว่าฉันป็นบุรุษ ต่างเชื้อเชิญให้ฉันเลือกนาง เสียใจด้วยย่ะ ฉันเองก็เป็นสตรี แถมใบหน้าของฉันตอนนี้คือหลินซานซาน สตรีที่งดงามจนล่มเมืองได้ เพียงแต่ว่าสามีของนาง ไม่ชายตามอง เพราะเชื่อข่าวลือ ว่านางมีความสัมพันธ์ลับ ๆกับ เต๋อยี
แถมตอนนี้ฉันต้องมาตามหานางที่มีนามว่าหลินซานซานให้พบ ดวงวิญญาณของนางได้หายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย และผู้ที่บงการให้นางจบชีวิต คือฉันหลินหลินเอง
ในขณะที่ฉันกำลังจะเดินเข้าไปด้านในกลับเดินสวนทางกับ
แม่นางผู้หนึ่ง นางโดดเด่นกว่าใคร ๆ มีดวงตาที่งดงามคล้ายกับคนผู้หนึ่ง ซึ่งฉันเองกลับนึกไม่ออก นางงดงามจนทะลุผ้าที่ปิดบังใบหน้าเอาไว้ ขณะที่นางเดินผ่านได้กลิ่นหวานๆของดอกโบตั๋นจาง ๆ ผู้หญิงอะไรมีเสน่ห์ชะมัด
ฉันถูกแม่นางผู้นั้นสะกด มองตามแผ่นหลังของนางอย่างไม่วางตา เหตุใดฉันถึงคุ้นตานางนักทั้ง ๆ ที่พพบนางเพียงครั้งแรก
ด้วยความสงสัยว่าแม่นางผู้นั้นคือใคร ฉันจึงได้สะกิดถาม
แม่นางที่ทำหน้าที่ต้อนรับแขกอยู่ภายในหออวลบุปผา
“แม่นาง สตรีที่สวมชุดผ้าแพรสีชาด สวมผ้าปิดบังใบหน้าไว้นั้นคือผู้ใดรึ เหตุใดจึงได้งามนัก” ฉันถามออกไปพร้อมกับบอกกล่าวเหตุผลที่ชายส่วนใหญ่จะใช้ถามเมื่อมาที่หอคณิกา
“แม่นางผู้นั้นคือหลานสาวของเจ้าของหออวลบุปผาคนใหม่ ข้าได้ยินมาว่าก่อนหน้านี้ นางไม่เคยปรากฏตัวที่ใดมาก่อน แม้แต่ใบหน้าที่แท้จริงของนาง สตรีที่หอแห่งนี้ยังไม่เคยพบเห็น นางมิได้รับแขก ฉะนั้นท่านตัดใจเสียเถิด สรีงามที่หอแห่งนี้ ยังมีอีกมาก ท่านลองชายตาดู ท่านจะรับรู้” แม่นางผู้นี้พูดพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้ชิดฉันแบบเนื้อแนบเนื้อ แล้วเชยคางของฉันขึ้น พร้อมกับกวักเรียก สตรีงามอีกหลายคนมาดึงตัวเข้าห้องไป กรี๊ดดดด! ช่วยด้วย ฉันคือผู้หญิง โดนสตรีลวนลาม อ๊ากกกก
“คุณชายเหตุใดใบหน้าของท่านงามนัก” แม่นางคนหนึ่งพูดด้วยท่าทางเย้ายวน พร้อมกับใช้มือข้างนึง ดึงเสื้อผ้าของฉันออก
“นั่นสิเจ้าคะ คุณชายผิวพรรณของท่านช่างเนียนยิ่งกว่าสตรี” แม่นางอีกคน พูดแล้วใช้มือลูบไล้ใบหน้าของฉัน
ไม่ไหวแล้วโว้ย ! อึดอัดจะแย่แล้ว
ฉันผลักสตรีทั้งสองนางออก ให้ห่างจากตัว พร้อมกับวิ่งออกไปยังข้างนอก โดยที่ยังมีพวกนางตามมาติด ๆ ว๊ากกกก ไปหลบไหนก่อนดี
ฉันวิ่งทั่วหออวลบุปผา บนชั้นที่สอง แล้วตัดสินใจผลักประตูเข้าไปอีกห้องหนึ่ง ใช้ห้องนี้เป็นที่หลบภัยซักครู่ ซึ่งมันได้ผล สตรีหลายนางเดินผ่านห้องนี้ไปไม่กล้าเปิดเข้ามา แสดงว่าบุคคลที่อยู่ในห้องนี้ คงต้องเป็นคนชนชั้นสูงอย่างแน่นอน
ฉันค่อย ๆ หันหน้าไปหาบุรุษที่อยู่บนเตียงอย่างช้า ๆ ไม่ทันไรกลับโดนดาบมาจ่อที่คอ T^T หากเธอลองใจเย็น ๆ แล้วฟังฉันซักหน่อย~
“เจ้าคือผู้ใด” เสียงเข้ม อันทรงพลังถามฉัน
ฉันกวาดสายตามองไปยังบุรุษ ที่ลุกออกมาจากเตียง พร้อมกับใส่เสื้อคลุมเดินมาทางฉัน ใบหน้าคมคาย ผิวขาวเนียน ดวงตาคมกริบ ผมสีดำขลับ โดยรวมๆ หล่อโฮก เหมือนพระเอกในซีรีย์ที่ฉันชอบดู (อีกแล้ว?) แถมหน้าคุ้นๆ (เห็นใครก็คุ้นไปหมด - -)
“แม่นางพวกเจ้าออกไปก่อน” ชายผู้นี้พูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนเมื่ออยู่กับสตรี
ฉันเห็นสตรีพวกนั้นออกไป ฉันเองก็อยากออกไปบ้าง จึงค่อย ๆ ย่องออกไป แต่กลับโดนปลายดาบขององครักษ์ของชายผู้นี้มาขวางทางไว้ แง T^T
“ผู้ใดส่งเจ้ามา!!!” ชายผู้สูงศักดิ์ถามเสียงเข้ม
“มะ ไม่มีผู้ใด ส่งข้ามา ข้าเพียงเข้าห้องผิด” ฉันตอบตะกุกตะกัก กลัวดาบที่จ่ออยู่ มันหวาดเสียว
“หึ คิดว่าข้าจะเชื่องั้นรึ จินฝาน เอาตัวชายผู้นี้ไปขัง รอไต่สวน” เขาสั่งเสียงเข้ม องครักษ์เก็บดาบ แล้วมาจับแขนของฉันไพล่หลัง
จินฝาน? คือองครักษ์ของจื่อรุ่ย งั้นแสดงว่า คนที่อยู่ต่อหน้าของฉันตอนนี้คือ จื่อรุ่ย สามีในนามของหลินซานซาน คนที่ฉันต้องทำให้เขาตกหลุมรักหลินซานซาน
หนอยแน่! มีชายาอยู่แล้วยังแอบมาหนีเที่ยวที่หอคณิกา สารเลว!
ในขณะที่จินฝานกำลังจะจับฉันมัดด้วยเชือกอยู่นั้น ภายในห้องก็ปรากฏคนชุดดำพุ่งตัวเข้ามายังหน้าต่าง และประตู จินฝานปล่อยมือจากฉัน เขาใช้ฝ่ามือสับมาที่คอของฉันเพื่อให้สลบ
ฉันไม่สลบ แต่มันเจ็บนะโว้ย!
นับว่าเป็นโชคดีที่ร่างกายของหลินซานซานผ่านการฝึกมาที่
หนักหนา เนื่องจากตระกูลที่ให้กำเนิดนางเป็นท่านแม่ทัพหลักของแคว้นกวางโจว ปู่ของนางเป็นเจ้าสำนักใหญ่ของยุทธภพ ทำให้นางมีวิชาติดตัวแต่เหตุใดเมื่อฉันมาอยู่ในร่างของหลินซานซาน กลับกลายเป็ฯแค่คนธรรมดา ไร้ความสามารถ T^T
ฉันมองภาพของชายหลายคนปะทะกันด้วยดาบอย่างกับในซีรีย์ ไม่รู้ว่ามีเรื่องบาดหมางอะไรกัน ฉันขอตัวเผ่นหนีดีกว่า
ฉันค่อยๆ ย่องเบาแง้มประตูออก ทำตัวลีบ ๆ แล้วเดินออกมา ยังไม่พ้นประตู เสียงปะทะกันได้จบลงแล้ว ทำให้ฉันรีบเร่งยิ่งกว่าเดิม
“รีบไปจับตัวมันมา!” เสียงเข้มของจื่อรุ่ย ดังก้องออกมาจากภายในห้อง
ไม่ต้องเดาฉันก็รู้การปะทะกันในครั้งนี้ คนที่ชนะเป็นฝ่ายของจื่อรุ่ยอย่างแน่นอน แต่ปะทะกันเสร็จส่งคนมาไล่ตามฉันเลยหรือ ว๊ากกกกกกกก!!
ฉันไม่มีวรยุทธฉันวิ่งหนีไม่ทัน ทำไงดี ทำไงหลินหลิน ช่วงเวลาอันคับขัน ฉันคว้าผ้าปิดใบหน้ามาจากแม่นางคนนึงที่วิ่งผ่านมาเมื่อครู่
ฉันปลีกตัวแล้วเข้าไปในร้านขายเสื้อผ้าสตรีร้านนึงทันที
“คุณชาย ท่านต้องการผ้าสีไหนท่านแจ้งข้าได้เลย ท่านจะซื้อให้ภรรยา หรือสตรีนางใดท่านสามารถปรึกษาข้าได้” เถ้าแก่เจ้าของร้าน หนวดยาวเฟื้อย พูดจาอย่างสุภาพ
“ข้าจะลองเอง” ฉันพูด
“เอ่อ คุณชายนี่คือร้านค้าเสื้อผ้าสตรี หากเป็นเสื้อผ้าบุรุษท่านไปฝั่งตรงข้ามร้านของข้าได้”
ฉันไม่พูดอะไร ได้แต่โยนเงินในถุงให้เถ้าแก่ แล้วคว้าชุดสีแดง ในราวมา เดินเข้าไปยังห้องลองชุดด้านหลัง
ฉันดึงปิ่นปักผมเถาวัลย์องุ่นออก ถอดชุดเสื้อผ้าของบุรุษ แล้วพับซ่อนไว้ในกองผ้าหนา ๆ หยิบชุดผ้าแพรสีแดงเมื่อกี้ขึ้นมาสวม
ว้าว ! ผ้าแพรสีแดงขับผิวให้เปล่งปลั่ง ในนี้มีกระจกดูใบหน้าของนางซักหน่อยดีกว่า ฉันอยากรู้จริง ๆ ว่างามล่มเมืองนั้นเป็นเช่นไร
ฉันหยิบกระจกที่ตั้งอยู่ภายในห้องขึ้นมาดูใบหน้าของหลิน
ซานซาน สวยมาก สมชื่อหญิงงามล่มเมือง สมกับเป็นสตรีของสวรรค์
แต่เอ๊ะ! ดวงตาของนาง คล้ายกับสตรีที่ฉันพบในหออวลบุปผานั่นเลยทำไมถึงแววตาเหมือนกันขนาดนี้ หรือว่า หลินซานซานยังไม่ตาย