ใบหน้าของผู้ชายคนนี้เป็นรูปสี่เหลี่ยม ช่วงกรามที่มีไรหนวดขึ้นเล็กน้อยนั้นดูแข็งแกร่งเกินไปจนกระด้างเลยทีเดียว แถมตรงคางก็ยังมีรอยบุ๋มเล็กๆ อีกต่างหาก ดูแล้วไม่น่ามองเอาเสียเลย แต่ให้ตายเถอะ เวลามันมาอยู่รวมกันบนใบหน้าของเขา ทำไมมันถึงได้น่ามองแบบนี้
หล่อราวกับไม่ใช่มนุษย์ หล่อเหลาราวกับเป็นเทพบุตรลงมาจุติ จมูกก็แสนจะโด่ง ดวงตาสีฟ้าอมเทาก็แสนจะคมกริบ
หัวใจสาวอ่อนระทวยราวกับเป็นเทียนไขที่กำลังถูกไฟร้อนๆ แผดเผา ใช่... หล่อนคือเทียนไข ส่วนผู้ชายที่ยืนหน้าตาบูดบึ้งตรงหน้าคือไฟ... ไฟบรรลัยกัลป์เลยทีเดียว
เพราะไม่เคยมีคนรักมาก่อนในชีวิต ทำให้มิรินรู้สึกรุนแรงกับผู้ชายตรงหน้าเหลือเกิน รู้สึกอยากจะครอบครองเป็นเจ้าของ แต่กระนั้นก็รู้ดีว่าสถานการณ์แบบนี้มันไม่เอื้ออำนวย
ศีรษะทุยสวยที่ตอนนี้เส้นผมสีดำขลับที่รวบตึงเอาไว้กลางกระหม่อมหลุดร่วงลงมาจนรกรุงสะบัดไปมา เพื่อเรียกสติให้กับตัวเอง และถึงมันจะเรียกยากเรียกเย็นแค่ไหน แต่หล่อนก็ทำสำเร็จ
“นี่... คุณจะไม่ขอโทษฉันสักคำเลยเหรอคะ”
“ผมไม่จำเป็นต้องขอโทษ...”
ผู้ชายตรงหน้าของหล่อนแค่นยิ้มหยัน มองหล่อนอย่างดูแคลน
“ผู้บุกรุกอย่างคุณ”
มิรินได้ยินคำกล่าวหาก็อ้าปากค้าง พอได้สติก็ลนลานรีบผุดลุกขึ้นยืน ทั้งๆ ที่ยังเจ็บที่หัวเข่าไม่น้อย
“ฉันเนี้ยนะผู้บุกรุก?”
หล่อนเอานิ้วชี้เข้าหาตัวเอง แล้วถามอย่างเหลือเชื่อ
“แล้วผมพูดผิดตรงไหนล่ะครับ เอาล่ะ เก็บกระเป๋าของคุณ แล้วก็ออกไปจากที่นี่ซะ”
โห... หมอนี่มันก็ดีแค่หล่อราวกับไม่ใช่คนใช่ไหม นอกจากนั้นก็อันธพาลนักเลงตัวเอ้ดีๆ นี่เอง
“นายมีสิทธิ์อะไรมาไล่ฉันไม่ทราบ”
“ผมไม่จำเป็นต้องบอกคุณ เอาล่ะ ออกไปได้แล้ว”
ชายหนุ่มกำลังจะเดินไปขึ้นรถ โดยไม่สนใจสภาพยับเยินของหญิงตรงหน้าเลย ซึ่งนั่นก็ทำให้มิรินยิ่งโมโห
“คุณจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น เราจะต้องเคลียร์กันให้รู้เรื่องก่อน”
หญิงสาวกัดฟันข่มความเจ็บระบมที่หัวเข่า กระโจนไปขวางหน้าผู้ชายใจดำเอาไว้
“คิดจะชนแล้วหนีหรือไงคะ”
หล่อนเงยหน้าจ้องประสานสายตากับเขาอย่างไม่เกรงกลัว แม้จะรู้สึกหวั่นไหวกับสีฟ้าอมเทาของดวงตาคมกริบไม่น้อยก็ตาม
“คุณจะต้องรับผิดชอบ”
“น่ารำคาญน่า มาทางไหนก็ไปทางนั้นซะเถอะครับ อย่ามารกที่ไร่นี้เลย”
มิรินแทบไม่เชื่อหูกับคำพูดที่ได้ยิน
“นี่นาย... นายบอกว่าฉัน...”
“รก... คุณฟังไม่ผิดหรอก เอาล่ะ ออกไปได้แล้ว”
มือเล็กกำเป็นหมัดที่ข้างตัว ก่อนจะยกขึ้นฟาดเปรี้ยงลงบนหน้าอกกว้างของผู้ชายตรงหน้าเต็มแรง
“โอ๊ย... นี่คุณทำบ้าอะไรเนี่ย”
เขาคว้าข้อมือเล็กเอาไว้ ก่อนจะจ้องหน้าอย่างเอาเรื่อง
“ฉันก็จะสั่งสอนคนไม่มีสำนึกอย่างคุณยังไงล่ะ ชนแล้วหนี แบบนี้คงต้องไปคุยกันที่โรงพักแล้วสินะ”
มิรินต่อว่าอย่างโกรธจัด พร้อมกับพยายามบิดข้อมือของตัวเองให้หลุดจากการพันธนาการของผู้ชายตรงหน้า แต่พยายามยังไงก็ไม่สำเร็จ เพราะแค่มือข้างเดียวของหมอนี่ก็ขยุ้มศีรษะของหล่อนได้แล้ว
“หุบปากได้แล้ว ผมไม่สนุกกับเกมของคุณหรอกนะ เอาเป็นว่าผมจะปล่อยมือคุณ แล้วคุณก็ออกไปจากไร่ชาซะ”
“ที่ไล่นี่ก็เพราะไม่อยากรับผิดชอบกับสิ่งที่ตัวเองทำลงไปใช่ไหมล่ะ ถามจริงๆ เถอะพ่อคุณ เป็นผู้ชายหรือเปล่าเนี่ย”
คำถามนี้ของหล่อนทำเอาคนถูกสบประมาทถึงกับหน้ากระตุกเป็นริ้วๆ เลยทีเดียว จากนั้นก็จ้องหน้าหล่อนเขม็ง จ้องมองด้วยสายตาที่ทำให้หล่อนหวาดกลัวขึ้นมาในทันที
“ท้าทายกันสินะ”
“ฉัน... ฉันไม่ได้... ท้าทายนะ ฉันแค่อยากให้คุณรับผิดชอบกับความผิดที่คุณทำลงไป... แค่นั้นเอง...”
ท้ายประโยคของมิรินสั่นเทาจนน่าขายหน้าที่สุด
“แล้วผมทำผิดอะไร”
“ผิดที่ขับรถเฉี่ยวฉันไงคะ คุณจะต้องขอโทษฉัน แล้วทุกอย่างก็จะจบ ฉันก็จะไม่เรียกร้องค่าทำขวัญใดๆ จากคุณ”
หล่อนเห็นผู้ชายตรงหน้าแค่นยิ้มหยัน พลางปล่อยมือจากหล่อน พร้อมกับถอยหลังออกห่างด้วยท่าทางถือตัว “ถ้าการที่ผมขับรถในบ้านของตัวเองมันผิด ผมก็ยินที่จะชดใช้ให้”
“บ้าน?” มิรินเบิกตากว้างมองหน้าหนุ่มหล่อขั้นเทพสลับกับคฤหาสน์หลังงามที่อยู่เบื้องหลัง
“อย่าบอกนะว่าคุณเป็น...”
เขายังคงยืนนิ่ง รอยยิ้มยังคงไม่มีบนใบหน้าเหมือนเดิม
“ลูกชายของเจ้าของไร่?”
“เจ้าของไร่ไม่มีลูกชาย”
ในที่สุดผู้ชายตรงหน้าของหล่อนก็เค้นเสียงห้าวตอบกลับออกมา
มิรินเลิกคิ้วสูงอย่างแคลงใจ ก่อนจะเดาเป็นตุเป็นตะ
“ถ้าคุณไม่ใช่ลูกชายของเจ้าของไร่ชาอีเมอร์สัน งั้นก็คงเป็นหลานชายที่พึ่งบินมาหาลุงหรือไม่ก็อา หรือน้า ใช่ไหมคะ”
“เอาเป็นว่าคุณกลับไปเถอะ ที่นี่ไม่ได้ต้อนรับคนนอก”
แล้วพ่อเจ้าประคุณก็ฉวยโอกาสตอนที่หล่อนกำลังมึนงงกับสถานะของเขาอยู่ก้าวขึ้นรถและขับหายเข้าไปในตัวคฤหาสน์
“เดี๋ยวก่อนสิ... นี่จะไม่ขอโทษกันจริงๆ หรือไง ไอ้คนบ้า!”
มิรินตะโกนตามหลังไปอย่างหงุดหงิด แม้จะรู้ดีว่าหมอนั่นไม่มีทางได้ยิน แต่อย่างน้อยได้ระบายอารมณ์สักนิดก็ยังดี
“คอยดูเถอะ ฉันจะฟ้อง... เจ้าของไร่ให้หมดเลย” หญิงสาวอาฆาต ก่อนจะก้มลงเก็บกระเป๋าเดินทางที่นอนแอ้งแม้งอยู่ริมถนนขึ้นมาสะบัดเพื่อขจัดฝุ่นจากพื้นดิน จากนั้นก็พาร่างกายของตัวเองเดินกะโผลกกะเผลกตรงไปยังคฤหาสน์ไม้อีกคน