EP.09 ช็อปปิ้ง แต่ดันเจอคนชอบแย่ง

1625 คำ
EP.09 รถของคิมหันต์ค่อยๆ เคลื่อนเข้ามาจอดภายในบริษัทเอฟเวอร์ เน็ตแวร์ ที่บิดาของเขาเป็นผู้บริหาร เขาลงจากรถและเงยหน้าขึ้นมองตัวตึกด้วยความคิดที่ลุ่มลึก ไม่อาจที่จะใครสามารถมองสายตาที่เขามองขึ้นดูป้ายชื่อของบริษัทที่ติดเด่นอยู่กับตัวตึกสามารถเห็นได้จากในที่ระยะไกลได้ ว่าบัดนี้ภายในดวงตาคู่นั้นและภายในหัวใจของเขากำลังคิดอะไรอยู่ ชายหนุ่มผุดยิ้มที่มุมปากอย่างพึงพอใจ ก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไปภายในตัวอาคาร มีหลายคนที่รู้จักเขาในฐานะของบุตรชายของผู้บริหาร แต่ก็ยังมีอีกจำนวนหนึ่งที่ไม่รู้จัก เพราะที่ผ่านมาน้อยครั้งนักที่เขาจะมาเหยียบที่นี่ การมาของเขาในครั้งนี้มาเพื่อจะศึกษาดูสถานที่ และการทำงานของผู้คนในบริษัทและระบบบริหาร ในเวลานั้นมีพนักงานสาวคนหนึ่งเข้ามาหาเขาด้วยรอยยิ้มสดใส "สวัสดีค่ะ คุณคิมหันต์" หญิงสาวคนนั้นเอ่ยเสียงหวานใส คิมหันต์ส่งยิ้มตอบกลับไป และทำหน้าเคร่งขรึม "สวัสดีเช่นกันครับ เอ่อคุณ..." "วิลัยค่ะ เชิญทางนี้เลยนะคะ" ประชาสัมพันธ์สาวเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงที่เป็นมิตร คิมหันต์เดินตามหญิงสาวคนนั้นไปที่ห้องของท่านประธานในทันทีเพราะเธอได้รับคำสั่งให้พาเขามาที่นี่โดยเฉพาะ "เอ่อ ท่านคะ คุณคิมหันต์มาถึงแล้วค่ะ" "มาถึงเร็วจังนะ แล้วนี่แม่ไม่มาด้วยหรือ" ชายชราลุกขึ้นแล้วเดินเข้ามาตบบ่าของบุตรชาย ประชาสัมพันธ์สาวแว่นตาโตเมื่อได้ทำหน้าที่เสร็จสมบูรณ์แล้วเธอจึงขอแยกตัวออกไป หากแต่ร่างของหญิงสาวยังไม่ทันพ้นห้องนั้นเสียงจากเจ้านายก็ได้ดังขึ้นมาเสียก่อน "วิลัย เดี๋ยวก่อนอย่าเพิ่งไป" "มีอะไรหรือคะท่าน" หญิงสาวหมุนตัวกลับมาอีกครั้งเตรียมรับคำสั่งจากเจ้านาย "วิลัย ฉันมีงานให้เธอทำ" "ที่ลูกชายของฉันมาในวันนี้ก็เพื่อจะศึกษาลู่ทางก่อนการเข้ามาบริหารงานที่นี่แทนฉัน รบกวนเธอเป็นพี่เลี้ยงพาเขาดูงานในบริษัทของเราทีนะ" หลังจากนั้นคิมหันต์ก็เดินตามประชาสัมพันธ์สาวไปในแผนกต่างๆ และฟังคำบรรยายถึงหน้าที่และการทำงานของแผนกเหล่านั้นอย่างละเอียด เช่นเดียวกับเขาที่นิ่งฟังหญิงสาวอย่างตั้งใจ อีกไม่นานเขาจะได้เข้ามาบริหารงานที่นี่แทนบิดา ดังนั้นเขาจึงจะต้องศึกษางานในด้านงานภายในให้ละเอียดเพราะถ้าไม่ทราบปัญหาจากภายใน ถ้าเจอปัญหาเข้ามาจริงๆ เขาจะแก้ไขมันได้อย่างไร อีกทั้งกลยุทธ์ต่างๆ อีกที่เขาจะต้องศึกษานับต่อจากนี้ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เขาจะต้องบริหารองค์กรที่ใหญ่ขนาดนี้ เพราะถ้าเขาไม่มีความรู้อะไรเลยเขาก็คงจะพาบริษัทให้อยู่รอดต่อไปไม่ได้ ซึ่งข้อนี้ชายหนุ่มได้เตรียมตัวเอาไว้จนพร้อมแล้ว ตลอดระยะเวลาที่อยู่เมืองนอก เขาก็ได้ศึกษากลยุทธ์ทางการค้าและเรื่องต่างๆ จากบริษัทขนาดใหญ่และขนาดกลางของประเทศที่เขาไปเรียนและศึกษาดูงาน วิลัยพาว่าที่เจ้านายคนใหม่ของเธอศึกษาดูงานจนทั่วโรงงานและอาคารสำนักงานของบริษัทจนกินเวลาไปร่วมเกือบสามชั่วโมง คิมหันต์จึงได้กลับมาที่ห้องของบิดาอีกครั้ง ส่วนวิลัยก็ได้แยกออกไปทำงานในหน้าที่ของตนต่อ หลังจากนั้นทั้งสองพ่อลูกก็ต่างเสวนากันถึงเรื่องการทำงานในบริษัท และการบริหารงานภายในองค์กรของคุณรังสรรค์จากที่ผ่านมา ซึ่งคิมหันต์ก็ตั้งใจฟังและศึกษาอย่างตั้งใจ เพื่อเขาจะได้นำมาปรับปรุงและบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพและไม่ผิดพลาดในภายหลัง “พ่อว่าจะให้วิลัยเป็นเลขาของลูก ลูกว่าดีไหม” คิมหันต์แค่ยิ้ม เขามองตรงไปยังประตูแล้วพยักหน้า “ก็ดีเหมือนกันครับ ดูท่าคุณวิลัยเธอก็ตั้งใจทำงานเหมือนกัน...” อีกด้านหนึ่งของกรุงเทพฯ ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่งใจกลางเมืองใหญ่ บัดนี้มันเป็นเวลาพักผ่อนของครอบครัวหลายๆ ครอบครัว บางคนก็มาเพื่อจะเดินช็อปปิ้งซื้อของและโชว์ความสวยความหล่อของตัวเอง บางคนก็พาครอบครัวมาเที่ยวพักผ่อนและทานข้าวเย็นที่ร้านอาหารของห้าง ส่วนบางคนก็ออกมาเดินเลือกซื้อของหรือเสื้อผ้า ซึ่งอย่างหลังนั้นก็มีอยู่เป็นจำนวนมาก ในจำนวนเหล่านั้นก็มีรังสิยาเป็นหนึ่งในนั้นด้วย หญิงสาวหิ้วตะกร้าสินค้าเลือกซื้อสิ่งของตามใจชอบ พร้อมกันนั้นเธอก็ยังต่อสายโทรศัพท์พูดคุยกับเพื่อนสาวที่ไม่ได้มาด้วย "นี่เจนนี่ เสื้อผ้าออกใหม่เยอะเลย ฉันอยากจะให้เธอมาเลือกซื้อบ้างจังสวยๆ ทั้งนั้น" รังสิยาเอ่ยบอกทางปลายสายด้วยเสียงหัวเราะแจ่มใส ทั้งสองสาวพูดคุยกันผ่านทางโทรศัพท์ ขณะที่รังสิยาก็เดินเลือกซื้อของไปด้วย พูดกันไม่นานเจนจิราจึงวางสายไป รังสิยาจึงได้เดินเลือกซื้อของอย่างเงียบๆ อีกด้านหนึ่งที่หญิงสาวเดินซื้อของ มีหญิงสาวอีกคนหนึ่งในชุดที่เซ็กซี่กำลังเดินเลือกเสื้อผ้าอยู่เหมือนกัน พิมาลาเลือกเดินดูเสื้อผ้าพร้อมกับเบ้หน้าอย่างไม่พอใจกับตัวสินค้าที่นำมาวางตั้งขายให้กับลูกค้า เพราะของพวกนี้มันไม่เหมือนกับเมืองนอกที่เธอเพิ่งจากมา สิ่งของบางอย่างเป็นของโนเนมเสียด้วยซ้ำ "เชอะ!! โลคลาสทุกชิ้น ไม่มีชิ้นไหนที่ใช้ได้เลย" สาวนักเรียนนอกเอ่ยเสียงสูงพร้อมกับเบ้หน้าอย่างเบื่อหน่าย เธอไปมาเกือบทุกที่แล้ว เห็นแต่เสื้อผ้าที่ซ้ำๆ กัน ไม่มีชิ้นไหนมาจากเมืองนอกและเป็นสิ่งที่เธอต้องการเลยสักชิ้น เธอจีบมือจับโน่นจับนี่อย่างขยะแขยงเป็นที่สุด ไม่รู้เสื้อผ้าพวกนี้จะผ่านการฆ่าเชื้อโรคมาหรือเปล่า หยิบจับไปแล้วรังแต่จะทำให้มือสวยๆ ของเธอเปื้อนไปก็เท่านั้น สาวนักเรียนนอกเดินออกจากร้านนั้นมาเข้าร้านนี้ ออกจากร้านนี้ก็ไปต่อแถวเข้าอีกร้านหนึ่ง จนเวลาผ่านไปหล่อนจึงได้มาหยุดอยู่ที่หน้าร้านหนึ่งที่นำแต่ของแท้จากต่างประเทศมาขาย เธอบิดยิ้มที่มุมปากอย่างพอใจก่อนจะกรีดกรายร่างบางเข้าไป "ฮึ ร้านนี้สิ ถึงจะไฮโซหน่อย" หญิงสาวเดินเข้าไปเลือกดูสินค้าอย่างเช่นที่เคยทำมาทุกร้าน จนดวงตาคู่สวยที่ถูกขีดด้วยอาเซโด้จนปกปิดเค้าโครงเดิมของขอบตาไปมาก กระพริบถี่ยิบอย่างพอใจ ร่างบางจึงได้รีบกรีดกรายเข้าไปหยิบจับและจะเอามาทาบตัวในทันที หากแต่หล่อนกลับช้าไปกว่ารังสิยาที่มาถึงก่อนเธอเป็นคนแรกที่หยิบชุดนั้นออกมาทาบกับตัวเองโดยมีสายตาที่ไม่พอใจของพิมาลาที่จิกมองมา "วายน็อท!! ฉันเห็นมันก่อนนะ หล่อนจะเอาไปได้ยังไง เอามานะยะ" สาวนักเรียนนอกเอ็ดตะโรอย่างไม่พอใจ ดวงตาคู่คมแวววาวและจิกตรงไปที่นังผู้หญิงชั้นต่ำตรงหน้า "อ้าวหรือคะ แต่เอ้ทำไมคุณไม่หยิบไปล่ะ" เห็นผู้หญิงสวยจากที่ไหนก็ไม่รู้ท่าทางเย้อหยิ่งมามองเธออยู่ตรงหน้า รังสิยาจึงมองตอบกลับไปบ้าง หญิงสาวมองร่างบางตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้าและยิ้มเยาะที่มุมปาก คงจะใช้มุกนี้บ่อยล่ะสิ ถึงได้เนียนขนาดนี้ รังสิยาเอ่ยเยาะไฮโซจอมปลอมตรงหน้าที่คงจะใช้มุกนี้เรื่อยมาในการแย่งของมาจากคนอื่นเมื่อของสิ่งนั้นที่ตนหมายตากำลังจะถูกแย่งชิงไป "จะหยิบได้ยังไงยะ ก็หล่อนหยิบมันไปก่อนนี่" พิมาลาเหวใส่นังผู้หญิงชั้นต่ำอย่างเดือดดาล ต่ำ! ต่ำที่สุด!! นังไพร่คิดจะแย่งไปแบบหน้าด้านๆ เลยหรือยะ สำหรับฉัน มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก เห็นหน้านังผู้หญิงคนนี้ครั้งแรกแล้วความรู้สึกเกลียดก็ยิ่งประทุขึ้นมาในหัวใจ "คุณเป็นคนบอกเองนี่คะว่าฉันเป็นคนหยิบมันมาก่อน เพราะฉะนั้นเสื้อตัวนี้มันจะต้องเป็นของฉัน" รังสิยานึกสนุก ตอนแรกเธอไม่คิดที่จะซื้อมันหรอก แค่จะเอามาลองทาบกับตัวเท่านั้นและก็เก็บมันเอาไว้ที่เดิม หากแต่ความคิดของเธอต้องเปลี่ยนไปเพราะสาวหยิ่งตรงหน้าที่ทำท่าว่าจะหาเรื่องเธอก่อน "อ๊าย!!! อีบ้า อย่ามาเล่นลิ้นกับฉันนะยะ เอามานี่" พิมาลาโวยวายลั่นพร้อมกับรีบเข้าไปกระชากเอาชุดนั้นมาจากรังสิยา ขณะที่หญิงสาวกลับยึดไว้ได้ทัน ดังนั้นจึงทำให้ทั้งสองยื้อยุดกันอยู่แบบนั้น "เอามานี่มันเป็นของฉันนะ" "โน ของฉันต่างหาก เอามานะ" ทั้งสองสาวเปิดฉากตะลุมบอนแย่งของกัน เสียงโวยวายดังลั่นพาให้เหล่าผู้คนที่มาเลือกซื้อสินค้าเช่นเดียวกันต่างพากันหันมามองอย่างแปลกใจ ก็เจอกับสองสาววัยไล่เลี่ยกันที่ต่างกำลังแย่งเสื้อตัวสวยแบนด์เนมชื่อดังจากเมืองนอก "ปล่อยนะนังหน้าด้าน ปล่อยเสื้อตัวนี้นะ มันคือของชั้น น น น"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม