ตอนที่ 1 ลูกมีคู่หมั้น 2

1191 คำ
‘นี้มันอะไรกัน!!’ ประโยคนี้ดังก้องอยู่ในหัวของคนที่มารับคู่หมั้นแบบ ‘ลับๆ’ แค่ผู้ชายคนนั้นเดินออกมารังสีความน่าสนใจทั้งหมดก็ตกอยู่ที่เขา ร่างสูงดูแข็งแรงท่าให้เดาน่าสูงเกินร้อยแปดสิบ เรียวขาแกร่งตวัดเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง ไม่มีใครรู้ภายใต้แว่นตาสีชาเขามองใครหรือคิดอะไรอยู่ ยิ่งมองเขายิ่งเหมือนมองตัวเอง คนที่เตรียมใจมารับคู่หมั้นได้แต่ยกนิ้วปิดปาก ไม่คิดว่าคุณคู่หมั้นจะหล่อโซฮอตขนาดนี้! “หล่อเกินเบอร์มากค่ะ!” ฉันได้แต่อุทานตามหลังร่างสูงที่เดินออกไปไกลแล้ว ทิ้งไว้แต่คนที่ยืนอึ้งกับความหล่อที่ได้เห็น พรพิชชาได้แต่คิดในใจขนาดไม่ถอดแว่นนะ คลืด.....คลืด...... แค่เห็นเบอร์ก็รู้ว่าจะโดนอะไร “ค่ะม๊า” ฉันพูดราวกับละเมอ ไม่รู้ว่าวันนี้มาดาราหรือไอดอลมาที่สนามบินแห่งนี้หรือเปล่าคนเยอะเป็นบ้า ฉันพยายามเบี่ยงตัวหลบผู้คนเพื่อที่จะได้เดินออกมา หูก็พยายามจะฟังว่าม๊าบ่นอะไรอยู่แต่น้ำเสียงประมาณนี้ถ้าอยู่ในสถานที่สงบๆ หูเธอคงฉีกไปแล้ว “มาแล้วๆ” “กรี๊ดดด หล่อไม่ไหว มาแล้วๆ” ฉันมองผู้คนที่กำลังวิ่งมาทางฉันอย่างกับมดแตกรังก็เกิดอาการตกใจนี่มันบ้าอะไรกันฉันไม่เคยเจอฝูงชนใหญ่ขนาดนี้มาก่อน ฉันพยามเบี่ยงตัวหลบแต่มันก็เท่านั้นคนที่วิ่งหน้าตั้งสนใจแต่คนที่ตัวเองสนใจไม่ได้สนใจว่าตัวเองกำลังชนใครเลยสักนิด ปึก! แรงกระแทกที่ไหล่ทำเอาแว่นตาฉันแทบหลุดแต่ก็ยังจับไว้ทัน ขาเล็กๆ ของฉันดันมาไม่มีแรงอะไรตอนนี้ฉันรู้สึกว่าตัวเองต้องถอยไปหลายก้าวและไม่พ้นก้นน้อยๆ ของฉันต้องแหมะที่พื้นเพราะฉะนั้นฉันต้องรีบคว้าทุกอย่างใกล้ตัวเป็นที่ยึดเหนี่ยว “ขอโทษทีๆ ขอทางหน่อยค่ะ” เสียงเหมือนคนเร่งรีบบวกกับคนทรงตัวไม่ได้ ฉันภาวนาอย่าให้ผุ้หญิงตรงหน้าชนฉันแต่มันก็เท่านั้นสองมือเธอผลักทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าออก รวมถึงฉัน! ปึก! หวึด! “อร้าย! ขอโทษนะค้า” ฉันลากเสียงยาวพร้อมกับหลับตาปี๋ ฉันรู้ว่ายังไงตัวเองก็ต้องเจ็บยังไม่วายเอ่ยขอโทษคนที่ฉันคว้าปกเสื้อเขาไว้เต็มแรง “คุณธามระวังครับ” ฉันได้แต่เอ่ยขอโทษในใจ มันคงไม่ทันแล้วแหละเพราะฉันกำลังหงายหลังลงพื้นชนิดที่ว่าลงเต็มแรง พรึ่บ! “โอ๊ย!” เสียงแหลมดังขึ้นทันทีแสดงถึงความเจ็บเมื่อโดนคว้าที่แขนอย่างแรง ก่อนคนนั้นจะดึงมันขึ้นมา พรพิชชารู้สึกเหมือนกระดูกจะแหลกจะร้องด่าก็ไม่ได้เพราะเธอดันไปคว้าปกเสื้อเขาก่อน ด้วยแรงตวัดที่เขาดึงทำให้ตัวฉันลอยหวือขึ้นมาปะทะกับของแข็งบางอย่าง ไม่เพียงเท่านั้นริมฝีปากของฉันยังแตะบริเวณแก้มสากพอดิบพอดียังกับจับวาง แน่นอนว่าทุกคนอึ้งรวมถึงฉัน! “หอมพอรึยัง!” เสียงทุ้มลึกดังขึ้นใกล้ๆนั่นแหละคนที่ตกใจอยู่จึงได้สติ พรพิชชาผละออกห่างจากคนแปลกหน้าพร้อมกับเตรียมจะกล่าวขอโทษเรื่องนี้คนที่ผิดคือเธอหาใช่คนอื่น แต่พอเงยหน้าขึ้นเท่านั้นคำพูดที่เตรียมไว้มันจุกอยู่ที่คอหอย ดวงตากลมโตเบิกกว้างริมฝีปากอิ่มแห้งผาด ‘นะนี่มันคู่หมั้นเธอ’ “ถ้าจะใช้วิธีนี้จับผู้ชายผมว่ามันคร่ำครึไปนะ” ฝีปากคมกริบ! พรพิชชาได้แต่พูดในใจเพราะเธอก็อยู่ในอาการตกใจจนพูดไม่ออก ผู้ชายคนนั้นขยับแว่นตานิดหน่อยก่อนจะมองฉันตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าแล้วเดินออกไป ฉันหันไปมองผู้ชายใส่แว่นใสข้างๆ ถ้าให้เดาก็คงเป็นผู้ช่วยผู้ชายคนนั้นฉันก้มหัวให้นิดหน่อยอย่างอายๆ ใครมันจะไม่อายอีพระพายหอมแก้มผู้ชายกลางสนามบิน น่าอายเป็นบ้า!! รู้ถึงไหนอายถึงนั้น! “ทางนั้นบอกว่าลูกไม่ได้ไปรับพี่เขาที่สนามบิน” ทันทีที่ร่างบางหย่อนตูดลงเก้าอี้ก็ถูกมารดาที่รักเปิดประเด็น “เกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยค่ะ” เธอตอบหน้าซื่อ จะบอกว่าแอบตามไปเจอเงียบๆ มีหวังม๊าบ่นหูฉีก “แล้วลูกเป็นอะไรมากมั๊ย” คุณหญิงมาริน่าได้ยินแบบนั้นความรู้สึกห่วงลูกก็เข้ามาแทนที่ทันที เธอมองลูกสาวอย่างสำรวจ แต่คนที่เตรียมแผนการไว้แล้วไม่มีหลุดให้โดนบ่นแน่นอน “แค่รถยางแตกค่ะม๊า เลยยืมรถพราวฟ้ามาขับ” เธอบู้ยปากไปทางลานจอดรถ ซึ้งคุณหญิงของบ้านก็พยักหน้าเข้าใจเพราะลูกสาวไม่ได้ขับรถตัวเองแต่ขับรถเพื่อนมาจริงๆ “งั้นก็ไม่เป็นไร ลูกม๊าไม่เป็นอะไรนั้นคือเรื่องที่ดีที่สุดสำหรับม๊าแล้ว” พรพิชชาอมยิ้ม ถึงม๊าจะชอบบงการให้เธอแต่งงาน แต่ม๊าก็รักเธอที่สุด บนตึกสูงระฟ้าชั้นบนสุดของสำนักงาน ร่างสูงในชุดสูทเรียบร้อยเดินเข้ามาภายในห้องที่เงียบสงบ แต่มันคงไม่สงบอีกต่อไป คนมาใหม่มองบุคคลที่ตัวเองเคารพที่สุดในชีวิตพร้อมกับเดินตัวตรงเข้าไปหา ใบหน้าเหี่ยวย่นตามกาลเวลาเงยหน้ามองหลานชายที่ตนเองภูมิใจพร้อมกับชี้ไม้เท้าในมือไปหา “ไหนว่ามีสาวไปรับฮึ” “ปู่พูดอะไร สาวที่ไหน” คงผิดแผนสินะ! “เปล่า กลับมาได้ก็ดีฉันแก่จนจะเดินไม่ไหวแม่แกยังให้ฉันมาพูดกับแกเรื่องแต่งงาน แต่งๆ ไปไม่ได้เรอะ” คนแก่ว่าพลางคิดแต่สายตาก็ยังพยายามมองหาคนที่คิดว่าจะโผล่มายืนข้างกายหลานชายตัวดี คงมีอะไรผิดพลาด “ว่าแต่ไม่เจอใครจริงๆ หรอ” ธาม นักรบ มณีสิริทรัพย์ ขยับกายมานั่งโซฟาตรงข้ามปู่ของตัวเอง เมื่อโดนถามย้ำๆ เขายังต้องหันไปมองผู้ช่วยคนสนิทแต่รายนั้นก็ส่ายหน้าไปมาเป็นอันว่าไม่มีใครไปรับเขาทั้งนั้น “กลับมาสักทีนะเจ้าหลานชาย” ถึงไม่เป็นไปอย่างที่หวังแต่คนเป็นปู่ก็อิ่มอกอิ่มใจที่หลานชายยอมกลับมาช่วยกิจการหลักแทนสาขาย่อยที่ต่างประเทศ “ครับ ผมยังมีงานต้องทำขอตัวก่อนนะครับ” ร่างสูงค้อมหัวให้ผู้เป็นปู่เล็กน้อยก่อนจะสะบัดชายสูทเดินนำหน้าผู้ช่วยหนุ่มออกไป ทันทีที่หลานชายออกไปคนที่ร้อนใจปนแปลกใจว่าทำไมหลานสะใภ้ยังไม่โผล่มารีบคว้าโทรศัพท์โทรหาคนที่จะให้คำตอบตัวเองได้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม