ตอนที่ 5
ชญานนท์รีบโทรให้เลขาฯ จองตั๋วเครื่องบินไปเชียงใหม่ทันทีในตอนนั้น เขากำลังจะเดินไปบอกพิมพ์ชนกแต่ว่าเธอยังหลับไม่ตื่น ชญานนท์รีบจึงไม่มีเวลารอบอกภรรยา และเขาก็ไม่ได้บอกใครในบ้านอีกด้วย
“ท่านประธานค่ะ กระเป๋าเดินทางพร้อมตั๋วเรียบร้อยแล้วค่ะ” เสียงหวานจากเลขาฯ ส่วนตัวโทรหาชญานนท์ ในระหว่างที่เขากำลังนั่งรถหรูออกจากคฤหาสน์พร้อมกับลูกน้องสองคนนั่งด้านหน้า โดยอาซันเป็นคนขับรถและสุวรรณนั่งคุ้มกันอยู่ด้านหน้า
“เดี๋ยวคุณช่วยเอาไปให้ผมที่สนามบินด่วนที่สุดเลยนะ” พูดจบมาเฟียหนุ่มก็ก้มดูนาฬิกาเรือนหรู แล้วพลางบอกลูกน้องที่ขับรถ
“อาซัน”
“ครับนาย”
“ขับให้เร็วกว่านี้ ถ้าแกทำไม่ได้ก็มานั่ง..ฉันจะขับเอง” ชญานนท์ตวาดใส่ลูกน้อง เพราะระหว่างที่อยู่ในรถเขาพยายามติดต่อกับพลอยชมพูแต่ก็ไม่มีทีท่าว่าเธอจะรับสายโทรศัพท์จากเขาเลย จากนั้นอาซันก็เร่งเครื่องทันที
ชญานนท์ไปถึงสนามบินเชียงใหม่ก็รีบขึ้นแท็กซี่ไปหาพลอยชมพูทันที เขาเห็นรถที่เขาซื้อให้เธอจอดอยู่บริเวณหน้าคอนโดจึงรู้ทันทีว่าเด็กสาวไม่ได้ออกไปไหน และไม่นานลิฟต์ของคอนโดก็พาเขามาจนถึงชั้นที่ 14 ที่พลอยชมพูพักอยู่
ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก
ไม่มีทีท่าว่าคนด้านในจะเปิดประตูให้ชายหนุ่มที่มายืนเคาะประตูอยู่หน้าห้อง เขาล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงและกำลังจะกดโทรศัพท์หาคนด้านในอีกครั้ง แต่ทว่าก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของคนที่อยู่ด้านในกำลังเดินมาที่ประตู
“น้องพลอย เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมคุยกับพี่อยู่แล้วเงียบไปเลยล่ะ” เขารีบพูดเมื่อได้ยินเสียงฝึเท้าของหล่อนเดินหยุดอยู่ตรงประตู
“พี่ไม่ต้องมายุ่งกับพลอย พลอยเกลียดพี่เบส เกลียดพี่เบสที่สุด ฮือ...ฮือ....” พูดจบหล่อนก็สะอื้นแล้วก็ร้องไห้ก่อนจะเปิดประตูออกมา ไม่ได้การแล้วเธอร้องไห้จนตาบวมไปหมด
ชญานนท์เห็นว่าเธอกำลังจะดึงประตูปิดเขาจึงรีบดึงประตูกลับ ก่อนที่พลอยชมพูจะปิดเอาไว้ได้ทัน
พอชญานนท์เข้าไปในห้องพลอยชมพูได้สำเร็จเธอก็เอาแต่ก้มหน้าร้องไห้
เด็กสาวนั่งเอามือปิดหน้าอยู่น้ำตาไหลพรากอาบแก้มทั้งสองข้าง มาเฟียหนุ่มเดินเข้าไปนั่งข้าง ๆ น้องเมียแล้วพลางโอบกอดเพื่อปลอบเธอ
เขาลูบศีรษะเด็กสาวอย่างแผ่วเบาด้วยความอ่อนโยนรักใคร่ ก่อนจะค่อย ๆ พูดกับเธอ
“น้องพลอย...น้องพลอยเป็นอะไรครับ โกรธพี่เรื่องอะไรเหรอ...ไหนมองหน้าพี่สิ” มาเฟียหนุ่มเอามือเรียวบางทั้งสองข้างที่ปิดแก้มของเธอออกแล้วเชยคายให้เด็กสาวหันหน้ามามองเขา
สีหน้าของเธอดูเศร้าอย่างเห็นได้ชัด สายตาของเธอมันบ่งบอกถึงความเจ็บปวดอย่างที่สุด ชญานนท์อยากรับความเจ็บปวดของเธอเอาไว้เพียงคนเดียว หรือเธอจะรู้ความจริงบางอย่าง ไม่นะ! ต้องไม่ใช่อย่างนั้นสิ แค่พิมพ์ชนกรู้ก็เล่นเอาเขาง้อหล่อนแทบตายมาแล้วครั้งหนึ่ง และเขาหวังว่ามันคงจะไม่ใช่เรื่องนั้น เพราะทั้งจิราภรและพิมพ์ชนกก็ต่างเข้าใจกันแล้วและสัญญาว่าจะเก็บทุกอย่างไว้เป็นความลับ