ตอนที่ 1
พิมพ์ชนกก้าวลงบันไดศาลาวัดเพื่อจะเดินไปยังห้องน้ำ ในใจก็คิดสาระวนอยู่หลายเรื่อง ความรู้สึกบางอย่างแวบเข้ามาในใจ มันร้อนวูบและหนาวเหน็บสลับกันอย่างที่หล่อนก็นึกประหลาดใจ
“โอ๊ะ!!!...” เมื่อก้าวเดินอย่างไม่ระวัง หญิงสาวก็ชนโครมเข้ากับชายวัยกลางคนเข้าอย่างจัง จนตัวเองอุทานออกมาเมื่อร่างบางเซถลาไปอีกทาง หญิงสาวเขามองหน้าเขาช้า ๆ และพยายามทรงตัว ภาพที่ปรากฏเหมือนเป็นภาพสโลโมชั่น และเธอก็รู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาดเมื่อชายสูงวัยเอื้อมมือมาคว้าแขนเธอไว้ก่อนที่เธอจะล้ม
“อุ๊ย!..ขอโทษจ้ะหนู...เป็นอะไรมากหรือเปล่า” ชายสูงวัยเบื้องหน้าส่งยิ้มให้หล่อน ก่อนจะปล่อยแขนเธอเบา ๆ
“ขอโทษค่ะ ดิฉันซุ่มซ่ามเองเดินไม่ระวังเลยชนคุณเข้า ขอโทษนะคะ”
“ไม่เป็นไร หนูมาทำบุญที่วัดนี้เหรอจ๊ะ”
“ค่ะ..พอดีหนูกับแม่เพิ่งมาจากกรุงเทพฯ ” เมื่อชายวัยกลางคนทักอย่างสนิทสนมและเป็นมิตร เธอจึงเปลี่ยนคำเรียกแทนตัวเองเป็นหนูทันที
“ถึงว่าล่ะ ไม่เคยเห็นหน้าหนูเลย แล้วแม่หนูล่ะ...”
“แม่น่าจะคอยอยู่บนศาลาค่ะ”
“หนูชื่ออะไรจ๊ะ” เขารีบเอ่ยถามก่อนที่พิมพ์ชนกจะเดินจากไป ดวงตากลมโตอมยิ้มนิด ๆ
แล้วจึงเอ่ยตอบ
“หนูชื่อพิมพ์ค่ะ พิมพ์ชนก” พูดจบหล่อนก็เดินจากไปเพราะตอนนี้ท้องอ่อน ๆ ของเธอทำให้ปวดฉี่บ่อยจนอยู่คุยต่อไม่ได้แล้ว
คฤหาสน์หลังใหญ่ทอดตัวยาวเชื่อมถึงกัน อาณาบริเวณกว้างขวาง เต็มไปด้วยแมกไม้นานาพรรณให้ความร่มรื่นดูผ่อนคลาย จิราภรในชุดยูนิฟอร์มของโรงแรม สีกรมท่า กำลังนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดก้มหน้าอ่านไลน์ของใครบางคนอย่างหงุดหงิด ก่อนจะเก็บสมาร์ตโฟนใส่กระเป๋าสะพายตามเดิม เธอนั่งนึกถึงเหตุการณ์เมื่อสามวันที่แล้ว
“ฝ้าย! นั่นฝ้ายใช่มั้ย?”
“พี่กร!..”
“พี่ดีใจจริง ๆ เลย ที่เจอฝ้ายที่นี่ แล้วฝ้ายมาทำอะไรที่วัดเหรอจ๊ะ”
“เอ่อ..ฝ้ายกับลูกมาทำบุญให้พี่จ่าดิวค่ะ”
“อ่าว!..แล้วลูกไปไหนเสียล่ะ”
“เมื่อกี้ก็อยู่แถวนี้แหละ” จิราภรมองหาลูกสาวไปทั่วแต่ก็ไม่พบ ทิวากรจึงรีบพูดเรื่องราวในอดีตขึ้นมาทันที
“จ่าดิวผัวฝ้ายก็ตายไปแล้ว ทำไมฝ้ายไม่คิดจะบอกความจริงกับลูกของเราบ้าง”
“อย่าเลยพี่...ให้เรื่องของเรามันตายไปพร้อมกับพี่จ่าดิวเขาเถอะ”