บทที่ 5

1135 คำ
"มางานประมูลกลับไม่ประมูลของสักชิ้น" เสียงทุ้มที่เริ่มคุ้นทำให้หญิงสาวเงยหน้าขึ้นไปสบตา ก็พบว่าเป็นคนที่ถูกหล่อนล็อกติดกับเก้าอี้เมื่อวาน "นี่คนหรือเจ้ากรรมนายเวรคะ" "เล็งปล้นชิ้นไหนอยู่เหรอครับ" ตาคมมองคนหาเรื่องอย่างเอือม ๆ เสียงจากในหูก็เริ่มแซวทันทีที่ได้ยินคำทักทายแสนหาเรื่องนั้น "มาเป็นตัวแทนจำเป็นต้องประมูลของด้วยเหรอคะ" คนถูกหาเรื่องก็ถามยียวนกลับไปเช่นกัน "ขอนั่งด้วยคนนะครับ" พะพิงเลิกสนใจเจ้ากรรมนายเวรของตัวเองแล้วหันไปดูการประมูลต่อ /ของต่อจากชิ้นนี้/ "อืม" เมื่อได้รับสัญญาณจากณภัทรร่างบางก็เตรียมรุกจากที่นั่งเพื่อหลบสายตาผู้คน แต่ดันมีเจ้ากรรมนายเวรตามมาด้วยนะสิ /หึ ๆ โดนล็อกเป้าแล้วหนึ่ง/ "คุณจะตามฉันมาทำไม ถ้าอยากจีบขอเบอร์ก็ได้" กริ๊ก! เหตุการณ์คุ้น ๆ เกิดขึ้นอีกรอบเมื่อข้อมือขาวถูกนายตำรวจใส่กุญแจมืออันเดิมอีกครั้ง "โอ๊ย นี่ใจคอคุณจะพกกุญแจมือไปทุกที่เลยเหรอ" อดถามไม่ได้เมื่อรู้สึกหัวเสีย แผนการที่จะเดินออกไปเงียบ ๆ กับโดนคนข้างตัวใส่กุญแจมือไว้ด้วยกัน "ผมชิน" พะพิงทำได้แค่ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เมื่อได้รับคำตอบ "รอบนี้ไม่มีลูกกุญแจให้เธอทิ้งแล้วด้วย เพราะฉันไม่ได้หยิบมาด้วย" "หึ คนบ้า" /โอ๊ย ท่านรองก็คิดได้เนอะ/ "จะขโมยอะไรเหรอ" "ก็บอกว่าคุณจำคนผิดไง" "เหอะ" /สร้อยเพชรออกมาแล้วเจ้/ ตาคมหันไปมองสิ่งของที่ถูกนำออกมาประมูลชิ้นต่อมา "สร้อยคอบลูไดมอนด์สร้อยสมบัติตกทอดจากตระกูลเก่าแก่ของเกาะฝั่งนู้น" เมื่อเห็นว่าร่างบางให้ความสนใจสมบัติชิ้นนั้น "ทายาทเจ้าของเก่าเขาอยากได้น่ะ" "หมายความว่าไง" พรึบ! ท่ามกลางการประมูลอยู่ ๆ ไฟในตึกก็ดับลงทำให้ในงานเกิดความวุ่นวายขึ้นทันที "คนที่อยากได้เพชรไม่ได้มีแค่คนเดียวไง วิ่งหน่อยสิคุณ" เพราะโดนล็อกติดกันร่างบางจึงออกแรงดึงอีกฝ่ายให้วิ่งตาม "ไปไหน!" "เวทีไงคุณ" "ไหนว่าไม่ใช่ขโมยไง" ถึงจะถามแต่คนตัวโตก็ยังคงวิ่งตามร่างบางไปจนถึงตู้ที่เก็บสิ่งของประมูล ก็พบว่าคนที่ดูแลอยู่โดนทำให้สลบหมดทุกคน "โอ๊ย ใช้วิธีกระจอกชะมัด" ขาเรียวฟาดใส่ร่างของนักโจรกรรมอีกคน ที่คาดว่าเป็นคนทำให้คนดูแลสลบ จากนั้นมือเรียวข้างที่เป็นอิสระก็ฉวยสร้อยเพชรแล้วยัดใส่มือแกร่งของคนข้างตัว "เก็บไว้คุณ" กริ๊ก! วัตถุเย็น ๆ ที่ถูกขึ้นลำแล้วจออยู่ที่ขมับของพะพิงทำให้หล่อนต้องหยุดชะงัก รวมถึงร่างสูงที่อยู่ข้าง ๆ ด้วย "คนสวยส่งสร้อยมา" "ปิแอร์? ถ้าไม่ให้ล่ะ" "เสียดายหัวสวย ๆ น่าคนสวย" "หึ แต่เสียดายมันไม่ได้อยู่กับผม" ว่าจบก็หันไปสบตานายตำรวจหนุ่มที่อยู่ข้าง ๆ "งั้น..." ปัง! ร่างบางถูกแขนแข็งแรงคว้าเข้าที่เอวบางก่อนจะออกแรงดึงออกมาให้พ้นวิถีของกระสุนปืนก่อนจะวาดขาเตะปืนจนหลุดจากมือของปิแอร์ "วิ่ง" เสียงทุ้มออกคำสั่ง ร่างบางวิ่งตามแรงดึงที่คนตัวโตออกแรงลาก สองร่างพากันวิ่งหลบคนของปิแอร์ที่ตามมาสมทบ "ตรงนั้นมันเป็นระเบียง" พะพิงเอ่ยเตือนให้ชายหนุ่มเปลี่ยนทางแต่ไม่ทันเมื่อพวกของปิแอร์วิ่งตามมาทัน "ไม่ทันแล้ว" นายตำรวจหนุ่มบอก ร่างบางจึงมองไปด้านล่าง /ข้างล่างเป็นน้ำเจ้ ปลอดภัยกระโดดได้หัวไม่แตก/ "ทางตันแล้วคนสวย" "เหอะ" "ส่งเพชรมา" คนวิ่งตามมาเอ่ยเสียงเย็นสองร่างสบตากันเล็กน้อย "ส่งให้มันไป" แผ่นดินมีท่าทีลังเลนิดหน่อยแต่เมื่อเห็นร่างบางบอกแบบนั้นก็ยอมทำตาม "หึ ๆ ค่อยว่าง่ายหน่อย" "โดด" ร่างบางพูดเสียงเบาเมื่อสร้อยเพชรไปอยู่ในมือของปิแอร์ "ว่าไงนะ" "โดดเดี๋ยวนี้" "เฮ้ย!" ตู้ม!! ก่อนที่ปิแอร์จะรู้ตัวว่าของที่ได้ไปเป็นของปลอมพะพิงกับนายตำรวจหนุ่มก็กระโดดลงจากระเบียบไปแล้ว "โธ่ เว้ย!!" ปัง ปัง ปัง ลูกปืนหลายนัดถูกยิงไล่ตามสองร่างนั้นด้วยความโมโหที่เสียรู้ให้กับลูกศิษย์ของนักโจรกรรมอันดับหนึ่ง "จับมันมาให้ได้!!" "ครับนาย" "แฮ่ก ๆ" ร่างบางหอบตัวโยนหลังจากโดนคนที่โดดน้ำมาด้วยกันหิ้วคอขึ้นมาจากน้ำเย็นเฉียบ ตาคมมองคนที่ตามขึ้นมาแล้วหลุดยิ้มออกมาเพราะนายตำรวจหนุ่มที่มักมีมาดเนี้ยบอยู่เสมอกับเปียกมะลอกมะแลกไม่ต่างกัน "ทำไมมันถึงยังไล่ตามมาอีก" เมื่อพากันแอบเข้ามาหลบในที่ ๆ คิดว่าปลอดภัยแล้วร่างสูงก็เอ่ยถามพร้อมกับส่งสายตาจับผิด ":) " เมื่อได้รับรอยยิ้มแทนคำตอบนายตำรวจสืบสวนก็พอเดาออกว่าเพราะอะไร "คุณรู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ว่ามันเป็นของปลอม" พะพิงไม่ได้ตอบคำถามอะไรเพียงแต่ยิ้มอยู่แบบนั้น มือเรียวก็หยิบลวดที่หล่นอยู่แถวนั้นขึ้นมาปลดล็อกกุญแจที่ล็อกข้อมืออยู่ "ตั้งแต่ที่แย่งมาจากมัน" ความจริงคือรู้ตั้งแต่แรกแล้ว "แล้วทำไมไม่บอกมันตั้งแต่แรก" นี่ยอมให้พวกมันเข้าใจว่าพวกเขาได้ของจริงมาแถมยังต้องหนีลูกปืนอีก "หรือว่า..." กริ๊ก รอบนี้พะพิงใจดีปลดล็อกกุญแจให้กับคนที่ไม่ได้พกลูกกุญแจสำรองมา "ตัวหลอกไงคุณตำรวจ" "นี่คุณมีพรรคพวกเหรอ" คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันจนคนถูกกล่าวหาว่ามีพรรคพวกส่งนิ้วเรียวมาคลึงหัวคิ้วให้ "คิดมากน่าท่านรอง เขาก็แค่จ้างให้ฉันมาเป็นตัวหลอกเท่านั้น" "..." "ยังไงก็ขอบคุณนะคะ ที่อุตส่าห์เสี่ยงมาด้วยกัน" คนที่เพิ่งรู้ตัวว่าถูกหลอกให้เป็นตัวล่อไปด้วยกันกำลังนั่งหน้าดำหน้าแดงเพราะรู้สึกว่าโจรแสบปั่นหัวเขาเล่นเหมือนตัวตลก จุ๊บ! ปากนุ่มแตะลงไปบนปากเย็นเฉียบของคนที่กำลังโมโหก่อนที่จะลุกยืนเต็มความสูง "ไว้เจอกันใหม่เมื่อมีโอกาศนะคะท่านรอง" พูดจบยัยโจรตัวแสบของแผ่นดินก็เดินหายไปในความมืดปล่อยให้คนโมโหตกใจกับการโดนขโมยจูบอย่างไม่ทันตั้งตัว "ถ้าเจอกันอีกฉันจับเธอแน่"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม