ตอนที่ 4
กำปั้นทรงพลังของดีเลียนกระแทกลงกับขอบหน้าต่างด้วยความเดือดดาล กรามแกร่งขบกันแน่นจนเนื้อข้างแก้มกระตุกไหวด้วยโทสะ ดวงตาคมกริบสีน้ำเงินเข้มตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีของเปลวไฟ ทั้งๆ ที่ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะรู้สึกแบบนี้ รู้สึกเหมือนหึงหวงยายแม่มดมินรญา แต่สุดท้ายเขาก็รู้สึกมันจนได้ หัวใจแทบระเบิดเมื่อเห็นเจอรัลด์น้องชายกลางปีกปกป้องแม่นั่น
“อย่าคิดว่าฉันจะปล่อยให้เธอเสวยสุขกับเจ้าเจอรัลด์นะมินรญา ผู้หญิงชั่วร้ายแบบเธอต้องฉันนี่ ถึงจะสามารถรีดพิษสงของเธอได้”
จากความคิดที่จะหาทางดิ้นหนีบ่วงวิวาห์อย่างสุดความสามารถ ตอนนี้ในสมองของดีเลียนแปรเปลี่ยนเป็นต้องการที่จะให้งานวิวาห์ถูกจัดโดยเร็วที่สุด เขาจะไม่มีทางยอมปล่อยให้เจอรัลด์ถูกมนต์ของแม่มดร้ายอย่างมินรญาครอบงำอย่างเด็ดขาด ไม่มีทาง
“ยังไม่ไปทำงานอีกหรือครับพี่ดีเลียน”
สุ่มเสียงที่เต็มไปด้วยความแปลกใจของเฮย์เดนน้องชายคนรองทำให้ชายหนุ่มต้องสะกดความเดือดดาลลงไปในอก จากนั้นจึงหันมาเผชิญหน้ากับน้องชาย
“กำลังจะไปเดี๋ยวนี้แหละ แล้วนายล่ะกำลังจะไปเหมือนกันใช่ไหม”
เฮย์เดนพยักหน้าน้อยๆ พลางระบายยิ้ม “ครับ กำลังจะไป”
“งั้นไปพร้อมพี่เลย วันนี้มีประชุมบอร์ดตั้งแต่เก้าโมง มีหลายเรื่องที่นายจะต้องรับรู้ก่อนที่จะไปประจำที่สาขาใหม่ของเราที่กรุงราบัต”
“คงไม่สะดวกหรอกครับพี่ดีเลียน เพราะก่อนไปที่บริษัทฯ ผมมีแวะทำธุระบางอย่างก่อนนะครับ”
คิ้วเข้มของดีเลียนเลิกขึ้นด้วยความประหลาดใจ “ธุระบางอย่าง? ธุระอะไรของนายเฮย์เดน”
คนถูกถามอมยิ้ม และนั่นก็ยิ่งส่งให้ใบหน้าของเฮย์เดนหล่อลากดินยิ่งขึ้น “ก็อย่างที่พี่ดีเลียนทราบนั่นแหละ ผมอุปการะครอบครัวหนึ่งเอาไว้”
“แล้วไง?” ดีเลียนถามเพราะยังไม่เข้าใจว่าทำไมน้องชายจะต้องแวะไปหาบ่อยๆ แบบนี้ด้วย
“พอดีครอบครัวนี้มีเด็กเกิดใหม่น่ะครับ ผมเลยอยากจะไปเยี่ยม นี่ก็เตรียมของขวัญเอาไว้ให้แล้วด้วย แต่ยังไงซะผมก็รับปากพี่ดีเลียนว่าจะไม่ไปเข้าห้องประชุมสายครับ”
ผู้เป็นพี่ชายถอนใจออกมาเบาๆ ก่อนจะพยักหน้ารับอย่างไม่มีทางเลือก “พี่ห้ามนายได้ที่ไหนกันล่ะ เอาเถอะ รีบไปเถอะ เดี๋ยวจะมาเข้าประชุมไม่ทัน”
“ครับพี่ งั้นผมไปก่อนนะครับ” แล้วเฮย์เดนคุณชายที่สองของตระกูลทรงอำนาจอย่างซาโกร่า กาซิยาสก็สาวเท้ายาวๆ เดินจากไป
ดีเลียนมองตามร่างสูงใหญ่ของน้องชายไปจนลับตา ก่อนจะกลับมาหมกมุ่นกับเรื่องของตัวเองอีกครั้ง แล้วเขาล่ะ เขาควรทำยังไงดี ความหยิ่งทระนงร้องบอกให้เขาต่อต้านการคลุมถุงชนน่าสะอิดสะเอียนครั้งนี้ แต่เสียงเรียกร้องลึกๆ ภายในหัวใจกลับบอกตรงกันข้าม มันต้องการ ต้องการให้เขาทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ตัวมินรญามาครอบครอง เขาไม่ได้ต้องการหล่อนไม่ใช่หรือ เขาเกลียดชังหล่อนด้วยซ้ำที่หล่อนชี้นิ้วเลือกเขาทั้งๆ ที่ตัวเลือกของหล่อนก็บุตรชายทั้งห้าของตระกูลซาโกร่า กาซิยาสแต่หล่อนกลับเลือกเขา เลือกเขาทั้งๆ ที่เขาไม่เต็มใจเลยสักนิด ชายหนุ่มถอนใจออกมาด้วยความกลัดกลุ้ม ใจหนึ่งก็อยากจะบีบคอมินรญาให้ตายๆ ไปซะ อีกใจหนึ่งก็อยากจะกอดหล่อนไว้ในอ้อมแขน นี่เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ที่รู้สึกทางกายกับผู้หญิงที่เปรียบเสมือนนางแม่มดคนนี้
อย่าลืมสิว่ามินรญาร้ายกาจแค่ไหน เขาก็เคยเห็นมากับตาแล้วไม่ใช่หรือ ภายใต้ใบหน้าที่สวยงามของหล่อนซ่อนความเหี้ยมโหดเอาไว้ แถมมารยาสาไถยของหล่อนก็ยังมีมากเป็นหมื่นเป็นแสนเล่มเกวียน จนเจอรัลด์น้องชายของเขาหนีไปไหนไม่รอด
“เธอไม่มีวันได้ในสิ่งที่เธอต้องการหรอกมินรญา...” ดวงตาของคนพูดแข็งกร้าวน่ากลัว
“ถ้าเธออยากได้ฉันเป็นผัวเธอก็จะได้ แต่เธอไม่มีทางได้หัวใจของฉัน และแน่นอนว่าเธอจะไม่มีทางไปอ่อยผู้ชายคนอื่นได้อีกแล้ว ไม่มีทาง!”
กรามแกร่งขบกันแน่นจนขึ้นสันนูน นัยน์ตาคมกริบเรืองรองไปด้วยแสงสีของเปลวเพลิง เขาไม่มีทางปล่อยให้ผู้หญิงที่ซ่อนความร้ายกาจเอาไว้มากมายอย่างมินรญาอยู่อย่างสงบสุขแน่นอน เขาจะกักขังหล่อนเอาไว้ในกรงเล็บของเขาตลอดกาล
มินรญายืนรอจนรถสปอร์ตคันงามของเจอรัลด์แล่นพ้นออกไปจากรั้วบ้านแล้วจึงหมุนตัวเดินกลับเข้าไปในตัวตึกตรงหน้า แม้ว่าบ้านของหล่อนจะใหญ่โตได้ไม่ถึงเสี้ยวหนึ่งของซาโกร่า วิลล่า แต่กระนั้นบ้านของหล่อนก็ถือว่ามีฐานะเลยทีเดียวหากเทียบกับเพื่อนบ้านในระแวกเดียวกัน
“ไอ้ตอนไปนี่ไปหาคนพี่ไม่ใช่เหรอ แล้วไหงตอนกลับถึงมากับคนน้องได้ล่ะ เธอนี่มันมีเสน่ห์ร้ายกาจน่าดูเลยนะมินรญา”
เสียงเหยียดหยามที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจดังมาเข้าหู มินรญาไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าเป็นเสียงริษยาของใคร
อินทุอร แซคารี ลูกสาวบุญธรรมของบิดาเลี้ยงของหล่อน หญิงสาวหน้าตาสะสวยและมักจะแสดงท่าทางอ่อนแอน่าสงสารเสมอยามอยู่ต่อหน้าคนอื่น แต่พออยู่กับหล่อนตามลำพังอินทุอรก็ไม่เคยคิดจะปิดบังความคิดชั่วร้ายของตัวเองเลยแม้แต่นิดเดียว ซึ่งแตกต่างไปจากญาดามินทร์ผู้เป็นน้องสาวยิ่งนัก เพราะรายนั้นวันๆ เอาแต่นิ่งเงียบ และไม่เคยคิดจะมีปากมีเสียงกับใคร ยอมให้พี่สาวของตัวเองกดขี่ข่มเหงอย่างไม่เคยคิดจะต่อสู้ ร้อนถึงหล่อนต้องเคยยื่นมือเข้าช่วยเหลือตลอด และนั่นก็ทำให้ดีเลียนเห็นว่าหล่อนเป็นผู้หญิงร้ายกาจ
“หลีกทาง ฉันจะไปหาคุณพ่อ”
“เชอะ... ไปหาคุณพ่อ นี่อยากจะถามจริงๆ เถอะแม่ญะญ๋า เธอเป็นลูกสาวแท้ๆ ของคุณพ่อหรือไง ก็แค่ลูกติดแม่ ลูกใครก็ไม่รู้...”
คนยืนฟังกำสองมือข้างตัวแน่นราวกับต้องการระงับอารมณ์เอาไว้ “อย่ามาหาเรื่องกันวันนี้เลย เพราะไม่อย่างนั้นฉันอาจจะตบหน้าเธอเหมือนกับที่เคยทำเมื่อหลายเดือนก่อนก็ได้”
“ก็เอาสิ ทุกคนจะได้รู้ว่าแท้จริงแล้วเธอมันคือนางแม่มด”
อินทุอรหัวเราะลั่นด้วยความสะใจ ยิ่งภาพในสมองย้อนกลับไปถึงเรื่องราวเมื่อหลายเดือนก่อนด้วยแล้วหล่อนก็ยิ่งอยากจะหัวเราะให้ดังลั่น วันนั้นหล่อนตบตีญาดามินทร์น้องสาวอยู่ในสวนมินรญาผ่านมาเห็นพอดีจึงเข้าช่วยเหลือ แต่หล่อนฉลาดกว่าเพราะเมื่อเห็นดีเลียนเดินผ่านมา หล่อนจึงแกล้งล้มลงไปนอนร้องไห้กับพื้น และร้องขอให้ดีเลียนช่วย ซึ่งทุกอย่างมันก็เป็นไปตามแผนดีเลียนไม่ฟังคำแก้ตัวของมินรญา และญาดามินทร์ก็ไม่กล้าพอที่จะเป็นพยานยืนยันให้ ดังนั้นในสายตาของดีเลียนมินรญาจึงกลายเป็นนังแม่มดมาตั้งแต่บัดนั้นนั่นเอง
“อย่าคิดว่าฉันไม่กล้านะอินทุอร ถึงฉันจะไม่ใช่คนเข้มแข็งนัก แต่ฉันก็ไม่คิดจะงอมืองอเท้าให้ใครหน้าไหนมารังแก ถ้าเธอไม่หลีกทางไป ฉันซัดหน้าเธอแน่”
มินรญาเงื้อมือขึ้น อินทุอรเห็นท่าไม่ดีจึงถอยหลังหนี ตอนนี้ไม่สมควรที่หล่อนจะเสี่ยง ต้องรอเย็นนี้ รอให้ดีเลียนมาที่นี่ก่อน และตอนนั้นแหละ หล่อนจะทำให้นังมินรญาตัวแสบมันกลายเป็นนังแม่มดในสายตาของดีเลียนไปตลอดกาล
“อย่าคิดว่าฉันจะยอมแพ้นะ ยังไงซะฉันก็จะแย่งของทุกอย่างที่ควรเป็นของฉันกลับคืนมาโดยเฉพาะดีเลียน ซาโกร่า กาซิยาส”