ตอนที่ 6

1693 คำ
ตอนที่ 6 เลิกประชุมปุ๊บดีเลียนก็รีบกลับมาที่ซาโกร่า วิลล่า เขาอาบน้ำและเปลี่ยนเครื่องแต่งกายใหม่จากนั้นก็ก้าวยาวๆ ลงบันไดมายังชั้นล่าง และก็มาเจอซานเซสน้องชายคนที่สามของตัวเองที่หน้าห้องรับแขกพอดี “วันนี้พี่ดีเลียนกลับบ้านเร็วผิดปกตินะครับ” คำทักทายของน้องชายก่อกวนคลื่นความเดือดดาลให้พุ่งกระฉูดขึ้นอย่างไม่มีสาเหตุ ทำไมเขาต้องกลับบ้านเร็วด้วย และทำไมจะต้องให้ความพิถีพิถันกับเครื่องแต่งกายด้วย ปกติถ้ามีนัดทานมื้อค่ำเขาก็จะไปทั้งชุดทำงานเลยนี่น่า ดีเลียนถามตัวเองแต่ก็ไม่มีคำตอบใดทำให้เขากระจ่างได้เลยแม้แต่น้อย และในที่สุดก็ต้องหยุดคิดมันไปโดยปริยาย “แล้วนายล่ะซานเซสทำไมกลับบ้านเร็วนัก” คนถูกถามไหวไหล่กว้างทรงพลังของตัวเองเล็กน้อย “ผมก็แค่เคลียงานเสร็จเร็วเท่านั้น ไม่เห็นจะมีอะไรแปลกตรงไหนเลยนี่ครับ” “อย่างนั้นหรือ แต่พี่ว่าแปลกไปนะ เพราะเมื่อก่อนพี่จำได้ว่านายกลับบ้านเกือบสว่างทุกคืน หรือบางทีก็ไม่กลับมาเลยด้วยซ้ำ พี่ว่าคนที่แปลกไป มันนายมากกว่านะ” ซานเซสฟังคำพูดของพี่ชายก็ยิ่งหัวเราะร่วน พี่ชายของเขาพูดถึงอะไรกัน เขานี่นะแปลกไป ไม่นี่เขาก็ยังใช้ชีวิตหนุ่มโสดผู้รักความโลดโผนเช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ถึงว่าช่วงนี้เขาจะไม่ค่อยออกไปท่องราตรีข้างนอกบ่อยๆ เหมือนเมื่อก่อนก็ตาม “ช่วงนี้ผมก็แค่เบื่อๆ เซ็งๆ กับผู้หญิงเจนโลกรอบตัวน่ะครับ ว่าจะพักสักระยะค่อยออกล่าเหยื่อใหม่ ว่าแต่พี่ดีเลียนเถอะมาจับผิดผมแบบนี้ เหมือนตัวเองมีชนักติดหลังนะครับ” “คนอย่างพี่ไม่มีทางมีชนักติดหลัง และนายก็เลิกพล่ามได้แล้วซานเซส มันน่ารำคาญ” ซานเซสหัวเราะขบขันกับท่าทางเดือดดาลเกินเหตุของพี่ชายใหญ่ “ผมว่าพี่ดีเลียนกำลังจะสติแตกเพราะว่าที่เจ้าสาวของตัวเองนะครับเนี่ย” “เด็กปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอย่างแม่นั่นไม่มีทางมีอิทธิพลกับพี่หรอก” คนตอบเค้นเสียงกระด้าง ดวงตาลุกโชนอย่างหงุดหงิด “แต่ผมว่าญะญ๋าโตเป็นสาวเต็มตัวแล้วนะครับ รูปร่างดี หน้าตาหวานๆ น่ารัก แถมเวลายิ้มยังเหมือนนางฟ้าไม่มีผิด” คนฟังแค่นยิ้มหยัน แต่ภายในอกจะยอมรับว่าจริงก็ตาม “แต่สำหรับพี่ยายนี่คือนางแม่มด ผู้หญิงเอาแต่ใจน่ารังเกียจ” ซานเซสอมยิ้ม หรี่ตาแคบมองพี่ชาย “แต่ยายแม่มดคนนี้ก็ทำให้พี่ชายของผมต้องกลับบ้านมาอาบน้ำแต่งตัวใหม่ เพื่อไปทานมื้อค่ำด้วยไม่ใช่หรือครับ” “ไม่ใช่...” ดีเลียนรีบปฏิเสธ จากนั้นก็พูดต่อออกมาด้วยน้ำเสียงกระด้างน่ากลัว “ที่พี่ไปในวันนี้ก็เพราะพี่ขัดคำเชิญของคุณอาอะเดลไม่ได้เท่านั้นเอง นายคิดผิดก็คิดซะใหม่ด้วย” “ครับ... พี่ชายใหญ่” ผู้เป็นน้องชายหัวเราะออกมา จากนั้นก็เลือกที่จะก้าวขึ้นบันไดไป ทิ้งให้ดีเลียนผู้เป็นพี่ชายยืนขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่เพียงลำพัง “ฉันไม่ได้พิศวาสเธอ ที่ทำลงไปก็เพื่อ... เพื่อ...” ชายหนุ่มพยายามหาเหตุผลที่น่าเชื่อถืออย่างที่สุด “ก็เพื่อไม่ให้คุณอาอะเดลไม่สบายใจเท่านั้น สำหรับเธอฉันเกลียดขี้หน้าจะตาย” แล้วคนพูดที่หน้าบูดราวกับเกลียดโกรธใครมาสักพันชาติก็กระแทกเท้าเดินออกไป ไม่นานรถสปอร์ตคันงามก็ทะยานออกไปจากอาณาจักรของซาโกร่า วิลล่า เสียงเครื่องยนต์ที่ถูกเร่งจนหมดไมล์นั้นทำให้คนที่ได้ยินอย่างซานเซสอดอมยิ้มกับความปากแข็งของพี่ชายใหญ่ของตัวเองไม่ได้ “ทำไมผมจะมองไม่ออกว่าพี่ดีเลียนพอใจน้องญะญ๋า...” ชายหนุ่มพึมพำเบาๆ อย่างรู้ทันพี่ชาย จากนั้นก็ก้าวข้ามธรณีประตูเข้าไปภายในห้องนอนของตัวเอง คิ้วเข้มที่ยาวขนานกับดวงตาคมกริบสีน้ำเงินเข้มซึ่งเป็นสีเดียวกับพี่น้องทุกคนในซาโกร่า กาซิยาสเลิกขึ้นสูงด้วยความประหลาดใจ “นี่มันกลิ่นดอกไม้นี่” แล้วมือหนาก็กดกระดิ่งเรียกคนใช้ภายในบ้านให้มาที่ห้องนอนของตัวเองทันที ไม่นานสาวใช้เกือบหมดทั้งคฤหาสน์มากรูกันมาหยุดที่หน้าประตูห้องนอนของเขา ซานเซสหน้าบูดบึ้งกวาดตามองหน้าสาวใช้ทุกคนก่อนจะมาหยุดที่ป้าแนนซี่ “บอกผมมาสิป้าแนนซี่ ว่าใครบังอาจเอากลิ่นหอมบ้าๆ นี่มาใส่ในห้องนอนของผม” “คือป้า...” ป้าแนนซี่ตัวสั่น มองคุณชายสามของตัวเองด้วยความสะพรึงกลัว “ถ้าตอบไม่ได้ ผมจะไล่ป้าออก” “อย่า... อย่าเลยนะคะคุณชายสาม ป้า... ป้าไม่รู้จริงๆ” ป้าแนนซี่วิงวอน หน้าซีดเผือดไร้สีเลือด แต่ดูท่าทางของซานเซสจะไม่ยอมหยิบยื่นความปรานีให้เลยสักนิด “งั้นก็ตอบผมมา ตอบผมมาว่าใครมาทำให้ห้องนอนของผมมีกลิ่นบ้าๆ พวกนี้ ผมเคยบอกป้าแล้วใช่ไหมว่าไม่ชอบกลิ่นดอกไม้ เกลียดกลิ่นน้ำหอมที่สุด” ซานเซสเค้นเสียงกระด้าง ดวงตาของเขาลุกโชนไปด้วยไฟกัลป์ พะน้อขวัญที่ยืนอยู่ข้างๆ ป้าแนนซี่กัดปากแน่น หล่อนมองป้าแนนซี่อย่างสงสาร และก็รู้สึกผิดยิ่งนักที่การกระทำของตัวเองทำให้หญิงชราต้องเดือดร้อน “ป้า... ป้าไม่รู้ ป้าขอโทษนะคะคุณชายสาม ป้าจะรีบทำความสะอาดให้ใหม่เดี๋ยวนี้” “ผมต้องการรู้ว่าเป็นฝีมือของใคร” เมื่อซานเซสยังยืนยันคำเดิม พะน้อขวัญก็ไม่สามารถยืนมองคนอื่นรับกรรมแทนตัวเองได้อีก หล่อนตัดสินใจก้าวออกมาข้างหน้าและรับผิดด้วยน้ำเสียงขลาดกลัว “ฉัน... ฉันทำเองค่ะ” เสียงหวานๆ พร้อมๆ กับร่างอรชรที่ก้าวออกมาหยุดตรงหน้าของเขาทำให้ซานเซสต้องเลิกคิ้วเข้มขึ้นสูงอีกครั้ง เขาไม่เคยเห็นหน้าสาวใช้คนนี้มาก่อน “ฉันทำไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์... ฉันขออภัยค่ะ” ซานเซสหรี่ตามองดวงหน้ากลมเกลี้ยง ดวงตากลมโตของเจ้าหล่อนฉายแววหวาดหวั่น วูบหนึ่งก็เหมือนถูกดึงดูดเข้าไปในนั่น แต่สุดท้ายชายหนุ่มก็สามารถหลุดรอดออกมาได้ เขาสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ก่อนจะเค้นเสียงกระด้างให้ผ่านไรฟันขาวสะอาดออกมา “ไปเก็บของ และออกไปจากที่นี่ซะ” “คุณชายสาม... ได้โปรด อย่าไล่ฉันออกเลยนะคะ” พะน้อขวัญรีบคุกเข่าลงกับพื้น และวิงวอนขอความเมตตาเสียงตื่นตกใจ แต่ซานเซสก็ไร้หัวใจเช่นเดิม “ฉันเป็นคนเคารพกฎ ถ้าทำผิดก็ต้องว่าไปตามผิด เก็บของและออกไปจากที่นี่ซะ” “คุณชายสามคะ คิดว่าเห็นแก่ป้าเถอะ ให้พะน้อมันทำงานแก้ตัวอีกสักครั้ง ถ้าคราวนี้มันทำผิดเอง ป้าจะไม่ห้ามคุณชายสามเลยค่ะ นะคะคิดว่าเห็นแก่ป้าเถอะ” ป้าแนนซี่คุกเข่าลงอีกคน และนั่นก็ทำให้ซานเซสต้องระบายลมหายใจออกมาอย่างหงุดหงิด “แม่นี่เป็นญาติของป้าหรือไง ถึงต้องช่วยเหลือด้วยป้าแนนซี่” หญิงชราไม่มีทางเลือกจึงต้องพยักหน้าโกหก “เอ่อ ใช่ค่ะ เป็นญาติห่างๆ คุณชายสามให้โอกาสมันอีกครั้งนะคะ อย่าถือสามันเลย มันสติไม่ค่อยเต็ม” ซานเซสปรายตามองพะน้อขวัญซ้ำอีกครั้ง ก่อนจะพูดออกมา “ก็ได้ ครั้งนี้ถือว่าฉันเห็นแก่ป้าที่ทำงานมานานก็แล้วกัน แต่ถ้าครั้งหน้ากล้าเข้ามาวุ่นวายกับห้องนอนของฉันอีกล่ะก็ ฉันไม่มีทางใจดีแบบนี้อีกแน่” “ขอบคุณค่ะ คุณชายสาม” ทั้งป้าแนนซี่และทั้งพะน้อขวัญพูดขึ้นพร้อมกับด้วยความดีใจ “ไม่ต้องขอบคุณ ไปจัดการห้องนอนของฉันให้มีกลิ่นเดิม และจำเอาไว้ว่าฉันเกลียดกลิ่นดอกไม้ ดังนั้นอย่าแม้แต่จะเอาดอกไม้เข้ามาในห้องฉันเด็ดขาด” “ค่ะ คุณชายสาม” พะน้อขวัญก้มหน้ารับคำ ก่อนจะค่อยๆ เงยหน้าขึ้นเมื่อแผ่นหลังของซานเซสหายไปจากสายตา “เห็นไหม เพราะความสู่รู้ของเอ็งทีเดียวทำเอาข้าเกือบซวยแล้ว” ป้าแนนซี่เอ็ดตะโรพะน้อขวัญทันทีเมื่อซานเซสเดินจากไป พะน้อขวัญทำหน้าเจื่อนและยอมรับผิดอย่างดุษณี “ก็ฉันไม่รู้นี่จ๊ะป้า ว่าคุณชายสามจะแพ้กลิ่นดอกไม้รุนแรงแบบนี้” “ไม่ได้แพ้โว๊ย แต่เกลียดเข้าไส้เลยต่างหาก” “มันก็เหมือนกันนั่นแหละป้า จะเกลียดหรือจะแพ้มันก็ไม่ชอบเหมือนกันนั่นแหละ ว่าแต่ตอนนี้ฉันจะทำยังไงดีให้ห้องคุณชายสามไม่มีกลิ่นดอกไม้น่ะ” คนพูดเต็มไปด้วยความกังวลใจ “แล้วเอ็งเอาอะไรไปทำให้ห้องคุณชายสามมีกลิ่นดอกไม้ล่ะ” “ดอกมะลิจ้ะป้า ฉันเอาไปใส่แจกันตั้งไว้บนหัวเตียงคุณชายสาม” “งั้นก็ไปเอาออก และก็เอาสเปรย์ดับกลิ่นที่เป็นกลิ่นของน้ำทะเลมาฉีดทับซะด้วย แล้วก็ทำให้เรียบร้อยล่ะก่อนที่คุณชายสามจะกลับมาที่ห้องอีกครั้งนะ ไม่อย่างนั้นระเบิดลูกที่สองเกิดขึ้นอีกแน่” ป้าแนนซี่พูดจบก็เดินจากไป ทิ้งให้พะนอขวัญยืนนิ่งอยู่หน้าห้องนอนของซานเซสตามลำพังด้วยความห่อเหี่ยวหัวใจ หล่อนอุตส่าห์อยากทำให้เขาสดชื่น แต่มันกลับสร้างความเดือดดาลให้กับเขาเสียอย่างงั้น หรือว่าหล่อนควรจะล้มเลิกความคิดที่อยากจะอยู่ใกล้ชิดกับซานเซสลงดีนะ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม