บทที่6

1424 คำ
บริษัทเควีกรุ๊ป เช้าของวันใหม่ เควินในวัยสี่สิบปี เขาเป็นผู้ชายมาดเข้มหล่อเท่สมาร์ต เป็นที่หมายตาของบรรดาสาวน้อยสาวใหญ่ ใครเห็นก็รักใคร่ อยากได้เขามาเป็นแฟน แต่ทว่ากลับไม่มีใครสามารถกุมหัวใจดวงนี้ได้เลยสักคน ในขณะเดียวกัน พราวมุกหญิงสาวที่มีอายุสามสิบหกปี ได้เดินเข้ามายื่นใบสมัครงาน เพราะเธออยากเก็บเงินให้ได้เยอะ ๆ อีกสี่ห้าปีข้างหน้า ลูกทั้งสองของเธอต้องเข้าเรียนในระดับอุดมศึกษา จึงจำเป็นที่ต้องหาเงินเก็บไว้ให้ได้มากที่สุด “เอาไว้ถ้าท่านประธานพิจารณาเสร็จ ทางบริษัทจะโทรกลับไปนะคะ เพราะต้องมาเซ็นสัญญา ก่อนที่จะทำงานในตำแหน่งเลขาน่ะค่ะ” พนักงานฝ่ายบุคคลอธิบายเหตุผลให้กับพราวมุกได้ทราบ เพราะทุกคนไม่ได้เข้าสอบสัมภาษณ์ รอแค่ทางบริษัทติดต่อกลับมาเซ็นสัญญาว่าจ้าง ก็สามารถทำงานได้เลย “เฮ้อ! แบบนี้เราจะมีโอกาสบ้างไหมเนี่ย” พราวมุกเดินคอตกออกไปจากบริษัท เมื่อพนักงายฝ่ายบุคคลบอกว่าจะติดต่อกลับไป เพราะเธอได้ฟังคำตอบนี้ทีไรไม่เคยได้งานสักที่ จะผ่านมาสักกี่ปี ความรู้สึกกลัวกับการตระเวนออกหางานทำ ก็ยังคงเวียนวนอยู่ในหัวของเธอไม่จืดจาง แต่พอนึกอีกที... ตำแหน่งนี้มีไว้สำหรับเธอคนเดียวเท่านั้น เพราะเขาคงไม่เปลี่ยนใจกลางคันอย่างแน่นอน บ้านคุณนายบุหลัน ในเวลานี้สองแม่ลูกกำลังสนทนากันถึงบุคคลที่สาม หลังคุณนายบุหลันทนเห็นลูกชายคนเดียวของนาง แอบรักพราวมุกมานานหลายปี แต่เธอกลับไม่มีทีท่าว่าจะรับรักบุรินทร์ ทั้งที่ชายหนุ่มได้วางหัวใจไว้ที่เธอไปจนสิ้น “แม่ไม่รู้ว่าทำไมหนูพราวถึงได้ใจแข็งนัก น้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อน แต่หัวใจของหนูพราวแข็งแกร่งยิ่งกว่าภูผา แล้วแบบนี้เมื่อไหร่แม่จะได้อุ้มหลานสักที” มารดาของบุรินทร์กำลังบ่นตามประสาคนแก่ ซึ่งดูเหมือนว่าเขาไม่เป็นเดือดเป็นร้อนสักเท่าไหร่ “แม่คร้าบ... คาร์เตอร์กับคามิลลาก็หลานรักของคุณแม่ไม่ใช่เหรอ ผมอุตส่าห์รับเด็กสองคนเข้าทำงานหลังเลิกเรียนแล้วก็วันหยุด อีกหน่อยลูกชายของแม่คงถูกลากไปสอบสวน เพราะใช้แรงงานเด็กแน่ ๆ” “จะบ้าหรือไง สองคนนั้นหลานฉันนะ ช่วยงานที่บ้านนิดหน่อยจะเป็นไรไป แถมแกยังให้ค่าตอบแทนเด็กสองคนทุกวันไม่ใช่เหรอ” “หลานน่ะใช่ แต่ถึงยังไงกฎหมายก็คุ้มครองเด็กอยู่ดี ถ้าหากมีใครบางคนตั้งใจจะเล่นงานผม แต่ปัญหานี้มันเล็กน้อยครับแม่ ถ้าเทียบกับสิ่งที่คามิลลาขอมา” บุรินทร์กำลังนึกถึงคำพูดของกานต์แก้ว หล่อนมักจะแสดงความเป็นจ้าวข้าวเจ้าของเขา ทั้งที่ชายหนุ่มไม่เคยแวะไปขายขนมจีบให้หล่อนเลยสักครั้ง “หมายความว่ายังไง” หญิงสูงวัยแสดงสีหน้าฉงน เมื่อลูกชายพูดจากำกวมวกไปวนมา “เปล่าครับแม่ พอดีคามิลลาบอกว่าแม่ของเธอกำลังไปสมัครงาน เลยอยากให้ผมช่วยไปรับไปส่งพราวมุกน่ะครับ” บุรินทร์ยกยิ้มมุมปาก พลางมองออกไปยังบ้านเช่าหลังน้อยด้วยสายตาเป็นประกาย เขาอยากเป็นผู้ชายที่พราวมุกเลือกให้เป็นบิดาของเด็กแฝด แต่รอแล้วรอเล่าก็ไม่มีวี่แวว เธอไม่แม้จะชายตาแลเขาด้วยซ้ำ ทั้งที่ชายหนุ่มมีพร้อมทุกอย่างทั้งหน้าที่การงานและความหล่อเหลา “ก็ดีน่ะสิ ความใกล้ชิดอาจทำให้พราวมุกเปลี่ยนใจ เธอก็ไม่มีใครยังไงแกก็ยังพอมีหวังอยู่นะบุรินทร์” คราวนี้หญิงสูงวัยได้หันมาส่งกำลังใจให้กับลูกชาย ถึงแม้นางจะอายุหกสิบกว่า แต่ก็ยังแข็งแรงดี สามารถขับรถยนต์ไปไหนมาไหนได้เอง โดยไม่ต้องง้อใคร ซึ่งนางคือคนที่พราวมุกไว้ใจ เคยฝากฝังลูกแฝดให้ป้าบุหลันดูแลอยู่บ่อยครั้ง “ถ้าเธอยอมให้ผมไปรับไปส่งคงไม่มีปัญหาอะไร แม่ก็รู้ว่าพราวมุกเขาเกรงใจพวกเราแค่ไหน” “ผู้หญิงคนนี้ จิตใจเข้มแข็งมาก เธอสู้ดิ้นรนเลี้ยงลูกสองคนมาตามลำพัง แม่นับถือหัวใจพราวมุกจัง เธอทำให้ใครหลายคนได้รู้ว่าผู้ชายคนใหม่ ไม่ใช่ทางเลือกของคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวเสมอไป เธอไม่จำเป็นต้องมีใครก็สามารถเลี้ยงลูกให้เติบใหญ่ได้” “แม่ผมก็เก่งนะครับ ตั้งแต่พ่อจากไปแม่ก็ไม่มีใคร ผมเองก็ไม่ได้รู้สึกขาดหาย ขอบคุณนะครับแม่ที่เลี้ยงผมมาอย่างดี” บุรินทร์พูดพลางโน้มตัวเข้าไปสวมกอดมารดาเอาไว้ เขาจะทำยังไงดีนะ ถึงจะได้พราวมุกมาเป็นภรรยา เพื่อให้หญิงสูงวัยมีความสุขในบั้นปลายของชีวิต เมื่อพราวมุกเดินทางมาถึงบ้าน เธอถึงกับถอนหายใจออกมา เพราะรู้สึกเหนื่อยล้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินเรื่องงาน หรือแม้แต่ลูกแฝดของเธอ นับวันคนทั้งคู่ก็ยิ่งเติบโต ครั้นจะหาเงินจากการขายของออนไลน์ก็ไม่ได้มากมายเหมือนใครเขา เธอเป็นแม่ค้ารายย่อย รายได้แต่ละเดือนได้เพียงแค่ใช้จ่ายภายในบ้านและเก็บสะสมเป็นค่าเทอมลูก ๆ ของเธอ เด็กสองคนใช้เงินคนละห้าสิบบาทต่อวัน ส่วนเงินที่คาร์เตอร์และคามิลลาได้จากการบุรินทร์ เพราะไปช่วยงานที่คาเฟ่ เธอให้เด็ก ๆ เก็บออมเอาไว้ “บริษัทอะไรเล่นตัวเป็นบ้า อยากเจอฉันนักหนา ทำไมถึงไม่กล้าเผชิญหน้า เสียเวลาชะมัดเลย เตรียมของไปส่งให้ลูกค้าดีกว่า” ถ้าเควินรู้ว่าหญิงสาวกำลังท้าทายเขา ชายหนุ่มคงต้องหาทางเตรียมรับมือเธอไว้ให้ดีกว่าเดิม เพราะหญิงสาวไม่ใช่คนอ่อนแอที่จะยอมให้ใครใส่ร้าย เธอจะไม่ยอมเสียเปรียบให้เสียเกียรติอีกแล้ว เวลาผ่านไปพักใหญ่ หลังจากที่หญิงสาวแพ็กของใส่กล่องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้เธอย้อนกลับไปนึกถึงคราวที่ฝึกงานกับบริษัทนี้ “ถ้าหากคุณจะกลับมา พร้อมกับกำดัก ฉันก็พร้อมตั้งรับ มาดูกันว่าเกมนี้ใครจะชนะ” ดวงตากลมโตเผยความท้าทายออกมา เมื่อพราวมุกคิดว่าเควินต้องการต้อนเธอให้จนมุม ถ้าหากเขาคิดจะแก้แค้น เธอก็พร้อมเอาคืนให้สาสมกับสิ่งที่เควินฝากรอยแผลเป็นไว้กลางหัวใจของเธอ หลังจากพราวมุกจัดการกับกล่องพัสดุเสร็จ เธอจึงยกใส่ลังใบใหญ่ เพื่อเตรียมไปส่งให้กับลูกค้า ซึ่งเธอใช้บริการขนส่งเอกชน ถึงแม้รายจ่ายในบ้านจะติดขัดอยู่บ้าง แต่พอนึกถึงใบหน้าเจ้าแฝดทีไร กำลังใจก็มาเต็มทุกที หมับ!! “ว้าย! คุณบุรินทร์! พราวตกใจหมดเลยค่ะ วันนี้ไม่ไปเฝ้าร้านเหรอคะ” หญิงสาวอุทานออกมาด้วยความตกใจ เมื่อเธอถูกเขาคว้าลังบรรจุสินค้าไปต่อหน้าต่อตา “ผมบอกคุณกี่ครั้งแล้ว ถ้าต้องส่งของเยอะ ๆ แบบนี้ให้โทรหาผมทันที หรือว่าผมเป็นเพียงอากาศ ไม่มีตัวตนในสายตาคุณเลยแม้แต่น้อย” “เปล่านะคะคุณบุรินทร์ เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่พราวพอจะทำเองได้ ก็ไม่อยากรบกวนคุณสักเท่าไหร่ คุณเองก็งานยุ่งไม่ใช่เหรอคะ” หญิงสาวรีบปฏิเสธออกไปด้วยถ้อยคำแสนสุภาพ เธอไม่อยากให้ความหวังเขา พอ ๆ กับพยายามรักษาระยะห่าง เพื่อถนอมน้ำใจบุรินทร์เอาไว้ ซึ่งเธอเองก็อยากสร้างมิตรภาพที่ดีงามกับเขาแบบนี้ตลอดไป “ไปขึ้นรถได้แล้ว ผมจะไปส่ง จากนั้นค่อยแวะไปรับเด็ก ๆ กัน ตามผมมาสิครับคุณพราว” พราวมุกจำใจขึ้นรถไปกับบุรินทร์ โดยที่เธอนั้นไม่ทันสังเกตว่ามี ใครแอบสะกดรอยตาม ไม่ว่าเธอจะทำอะไรอยู่ที่ไหนกับใคร มีคนคอยรายงานให้กับเควินได้รับทราบตลอดเวลา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม