เวลาต่อมา...
หลังจากได้ยินเรื่องราวทั้งหมดฉันก็ช็อคและไม่สามารถทำอะไรได้ตอนนี้แค่นั่งนิ่ง ๆ และทบทวนว่าฉันต้องทำยังไงต่อไปดี ตอนนี้ไม่มีบริษัทแล้วและบ้านก็กำลังโดนยึดเงินในบัญชีฉันก็ไม่ได้มีมากแต่น่าจะพอที่จะผ่าตัดแม่อาจจะต้องเอาของมีค่าไปขายเปลี่ยนเป็นเงิน
“ญาติคนไข้เซลิน่าครับ” หมอออกมาแล้วฉันก็รีบลุกทันที
“ฉะฉันค่ะ!!ฉันเป็นลูกสาวค่ะ!!” พรึ่บ!
“ตอนนี้อาการของคนไข้ทรงตัวนะครับแต่ต้องผ่าตัดเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก”
“ถ้าผ่าตัดจะหายเลยใช่ไหมคะ?” ตอนนี้สิ่งที่ต้องรักษาไว้คือคุณแม่จะบริษัทหรือบ้านก็ช่างมันเถอะ!
“ยังไม่สามารถยืนยันได้ครับเพราะการผ่าตัดสมองค่อนข้างเสี่ยงอยู่เหมือนกันไม่มีอะไรยืนยันได้ว่าจะสำเร็จ...”
“ฮึก!!ละแล้วต้องทำยังไงละคะหมอ!!ในเมื่อผ่าตัดแล้วก็ยังไม่แน่ใจว่าจะหาย ฮือออ!!” ฉันร้องไห้ออกมา
“มีแค่ผ่าหรือไม่ผ่าเท่านั้นครับ ถ้าไม่ผ่าก็อาจจะ...แย่มากแต่ถ้าผ่าก็ยังพอมีโอกาสอยู่บ้างแล้วคุณจะเลือกทางไหนครับ?”
“ผะผ่าค่ะ” ก็ยังดีกว่าไม่มีหวังเลยแล้วกันละนะ
“งั้นเชิญคุยเรื่องค่าใช้จ่ายที่แผนกการเงินได้เลยครับหมอขอตัว” หมอบอกก่อนจะเดินออกไปส่วนฉันมองซ้ายไปเจอคุณบีต้าที่อยู่กับฉันตลอดเวลา
“ขอบคุณมากนะคะสำหรับเรื่องวันนี้ขอบคุณมากจริง ๆ ฮึก! ฮืออออ”
“มันเป็นหน้าที่ของฉันอยู่แล้วค่ะและเมื่อหมดหน้าที่ฉันก็ต้องไป”
“คะ?” ฉันส่งเสียงออกไปอย่างเข้าไม่ใจ ทะที่เธอพูดมามันหมายความว่าอะไร?
“ฉันเองก็ต้องไปหางานใหม่นะคะ ตอนนี้บริษัทไม่มีแล้วฉันเองก็ต้องกินต้องใช้เหมือนกันวันนี้ที่ทำก็เพื่อตอบแทนคุณเซลิน่าเป็นครั้งสุดท้ายยังไงก็ขอให้โชคดีนะคะ ฉันขอตัวก่อน” คุณบีต้าพูดจบก็ก้มหัวนิดหน่อยก่อนจะเดินออกไป
“ดะเดี๋ยวค่ะ! คุณบีต้า!!คุณบีต้า!!โอ๊ยย!” ฉันกำลังจะตามไปแล้วแต่เพราะว่าเข่ามีแผลเลยทำให้เสียหลัก
ตุบ!! กึก!!
คุณบีต้าหยุดเดินทันทีหรือว่าจะกลับมาหาฉัน?
“ก่อนไปแผนกการเงินก็ไปทำแผลก่อนนะคะเดี๋ยวอักเสบเอาขาสวย ๆ จะเป็นแผลเป็นได้ ลาละคะ” เธอยิ้มอ่อนก่อนจะเดินต่อส่วนฉันทำได้แค่นั่งร้องไห้อยู่ตรงนี้
“ฮึก!!ฮือออ ๆ ๆ” ทุกอย่างในชีวิตฉันเกิดขึ้นเร็วมากแต่จะต้องเข้มแข็งแต่ฉันต้องทำยังไงละ?
คุณแม่ขา...ซอลลาต้องทำยังไง?
“ฮือออออ”
“เป็นอะไรหรือเปล่าคะ?” พยาบาลที่อยู่ใกล้ ๆ เดินเข้ามาหาฉันก่อนจะถาม
“ฮือออออ!!!” ฉันเอาแต่ร้องไห้
“เจ็บตรงไหนไปทำแผลก่อนเถอะค่ะ!” พยาบาลพยายามพยุงฉันขึ้นมา
“เจ็บขา ฮึก!! เจ็บขา ฮือออ! เจ็บที่หัวใจด้วยยยย ฮืออออออ~”
“คุณคะใจเย็น ๆ ค่ะ คุณ!!!”
เวลาต่อมา...
แผนกการเงิน
“ค่าใช้จ่ายและค่าผ่าตัดรวมทุกอย่างแล้วทั้งหมด 8,799,100 ค่ะ”
“คะ?!” เมื่อรับรู้ตัวเลขฉันก็ต้องร้องออกมาเสียงหลงทันทีแต่ว่ามันก็ไม่แปลกหรอกที่นี่คือโรงพยาบาลอับดับหนึ่งของเมืองนี้ไม่ว่าใครก็อยากเข้าทำงานที่นี่ทั้งนั้น ถ้าเป็นเมื่อก่อนเงินแค่นี้ฉันไม่ปัญหาอะไรหรอกแต่ตอนนี้ฉันมีเงินติดบัญชีแค่สองล้านเท่านั้น
“ค่ะ ทางโรงพยาบาลของเราใช้หมอที่เก่งและยาที่มีคุณภาพ”
“ฉะฉันเข้าใจค่ะ”
“แล้วคุณยังจะตกลงผ่าตัดอยู่ไหมคะ?” เจ้าหน้าที่แผนกถามฉัน
“ผะผ่าค่ะแล้วฉันต้องจ่ายเมื่อไหร่คะ?” ไม่ว่ายังไงฉันก็จะหาเงินมาให้ได้อีกสี่ล้าน
“อีก 7 วันจ่ายก่อน 50% ค่ะและจ่ายหลังจากผ่าตัดเรียบร้อยแล้วอีกรอบแม้ว่าการผ่าตัดจะสำเร็จหรือไม่คุณก็ต้องจ่ายค่ะ ก่อนอื่นคุณเอาสัญญาไปอ่านก่อนและเซ็นต์เพื่อรับทราบว่าการผ่าตัดครั้งนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นคุณจะยอมรับและชำระค่าใช้จ่ายเหมือนเดิม...”
“...”
“หมอของเราจะทำการผ่าตัดอย่างดีแน่นอนค่ะแต่อย่างที่ทราบการตัดสมองเป็นเรื่องยากที่สุดเพราะฉะนั้นญาติคนไข้จึงต้องทำใจไว้บ้าง”
“ขะเข้าใจแล้วค่ะ” แต่อย่างน้อยฉันก็มีหวังไม่ใช่เหรอ?
“ขอบคุณค่ะ”
บ้านซอลลา
ฉันกลับมาที่บ้านก็พบว่าไม่มีใครอยู่...
เมื่อเช้านี้ทุกคนยังอยู่ครบเลยนิส่งฉันไปเรียนทำอาหารเช้าให้แต่ตอนนี้กับตอนเช้าช่างแตกต่างกันเหลือเกินทำไมพลิกพันไปหมด แม่คะ...หนูต้องทำยังไง?
หนูต้องทำยังไงต่อระหว่างนี้ดี...
พรึ่บ!
“ฮืออออออ!!!” จะทำยังไงได้ละก็ร้องไห้ละสิฉันในตอนนี้จะทำอะไรได้การงาน ความรู้ ความสามารถอะไรก็ไม่มีฉันไม่รู้เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้นมันมึนงงไปหมด ไม่เข้าใจและเหนื่อยมาก ๆ คุณแม่ที่ผ่านมาก็เหนื่อยแบบนี้สินะคะแต่หนูไม่รู้เลย หนูมันลูกสาวที่แย่ที่สุดเลยใช่ไหมคะ?
“กรี๊ดดดดดดดดด!!!ฮือออออ!!!” ฉันกรีดร้องอย่างทรมานที่ไม่สามารถทำอะไรเพราะว่าฉันยังเรียนอยู่คุณแม่เลยไม่ได้ทิ้งเงินในบัญชีธนาคารไว้เยอะและเพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้อีก
ความเหนื่อยล้า ความเสียใจเรื่องทั้งหมดที่ต้องเจอทำให้ฉันหมดแรงและสุดท้ายก็หมดสติไปในความอ้างว้างและมืดมิด ฉันหวังว่ามันจะเป็นเพียงความฝันเท่านั้น ฉันหวังว่าตื่นมาแล้วทุกอย่างจะเหมือนเดิม มันเป็นเพียงฝันร้ายเท่านั้น...
วันต่อมา...
“เก็บให้หมดอย่าให้เหลือ”
“ตอนนี้ที่นี่ก็ยืดแล้วอะไรที่เป็นของมีค่าสามารถไปลดหนี้ได้ก็เอาไปให้หมดมูลค่าหนี้สินไม่ใช่น้อย ๆ ธนาคารเราจะขาดทุนไม่ได้!!”
“ครับ!!”
เสียงเอะอะโวยวายของใครบางคนทำให้ฉันตื่นและได้สติ ฉันลุกขึ้นมาก่อนจะมองให้เห็นว่าภายในบ้านของฉันนั้นเต็มไปดด้วยคนที่ไม่รู้จักพวกเขามาทำอะไรที่นี่?!
“พวกคุณเป็นใคร?!”
“เข้ามาได้ยังไงออกไปนะ!!!” ฉันไล่และมองซ้ายมองขวาเพื่อหาโทรศัพท์แจ้งตำรวจ
“สวัสดีครับผมเป็นเจ้าหน้าที่ของธนาคารมาทำการยืดบ้านและทรัพย์สินทั้งหมดของคุณเซลีน่าครับ คุณซอลลา...” เขาแนะนำตัวและให้ดูบัตรประจำตัว
“วะว่าไงนะทำไมมันเร็วแบบนี้ละ?”
“มันไม่ได้เร็วหรอกครับเรื่องนี้มันยืดเยื้อมานานเป็นปีแล้วและมันก็ถึงเวลาแล้วที่ทางเราต้องยืดทุกอย่างเพื่อเอาไปลบกลบหนี้ของคุณเซลีน่าที่สร้างเอาไว้”
“คะคุณแม่เป็นหนี้เท่าไหร่คะ?” เพื่อว่าฉันจะทำงานและหามาให้จ่ายให้ได้
“1000 ล้านครับ”
“เฮือก!!วะว่าไงนะพะพันล้าน?!” มือไม้ฉันสั่นไปหมด
“ใช่ครับ เพราะบริษัทของคุณเซลีน่าเป็นบริษัทใหญ่มากเลยทำให้วงเงินในการกู้เยอะตามไปด้วยเพราะคิดจะสามารถมาคืนได้แต่สุดท้าย คุณเซลีน่าก็ไม่สามารถกู้วิกฤตและล้มละลายลงเราก็ต้องมาเอาของทั้งหมดไปเพื่อไปจ่ายไงครับหวังว่าคุณหนูซอลลาจะให้ความร่วมมือ” เขาพูดและเดินออกไปทำงานต่อส่วนสมองฉันตอนนี้คิดอะไรไม่ออกเลย จากตอนแรกจะเอาของมีค่าไปขายเพื่อจ่ายค่ารักษาพยาบาลแต่ตอนนี้กลับทำไม่ได้แล้วเพราะธนาคารกำลังยืดทั้งหมด
“ฮึก!!” ตุบ! ขาฉันหมดแรงทิ้งตัวลงพื้นเย็น ๆ
“อ่อ ได้ข่าวว่าคุณเซลีน่าพยายามอย่างหนักเพื่อทำงานกู้วิกฤตจนต้องเข้าโรงพยาบาล ผมแสดงความเสียใจด้วยนะครับ แล้วก็...รบกวนคุณซอลลาออกจากที่นี่ภายใน 7 วันนะครับ โดยที่เอาแต่เสื้อผ้าไปเท่านั้น”
“ฮืออ!!” ฉันก้มหน้าร้องไห้
“เฮ้อออ!!” หมับ! เขาเดินเข้ามาจับแก้มของฉันให้เงยหน้าขึ้น
“ฮึก ๆ”
“อย่ามัวแต่ร้องไห้เลยครับมันน่ารำคาญเอาเวลาไปทำอะไรที่มีประโยชน์กว่านี้ดีกว่านะ แม่ของคุณทำเพื่อคุณมาเยอะคุณเองก็ควรทำอะไรเพื่อท่านบ้าง... ขายทั้งหมดนี้ยังไม่รู้เลยว่าจะใช้ได้หมดไหมเพราะฉะนั้นรีบหางานเพื่อจ่ายหนี้ที่เหลือที่อาจจะหักไม่หมดด้วยนะครับ”
“นะนี้คุณเป็นเจ้าหน้าที่ของธนาคารหรือว่าหนี้นอกระบบกันแน่?”
“เงินมากขนาดนี้...ก็ต้องเอาคืนให้สมกับที่เอาสิครับและอีกอย่าง...ผมเป็นเจ้าของธนาคารไม่ใช่เจ้าหน้าที่ธรรมดาไป”
“...!!”
“เงินมันเยอะผมเลยต้องเข้ามาดูเองน่ะครับ เข้าใจหน่อยคุณหนูแสนอ่อนต่อโลก หึ”