หลายวันต่อมา
“เรียบร้อยแล้วค่ะ”
“ขอบคุณนะคะ” ฉันขอบคุณเจ้าที่ที่ทำเรื่องดำเนินการย้ายเมืองแล้วต่อไปนี้ก็ได้เวลาทำงานของจริงแล้วสินะ
“ย้ายมาที่นี่เพื่อทำงานอย่างว่าเหรอคะ?” เสียงเจ้าหน้าที่ถามเพราะว่าฉันยังไม่ได้เดินออกมา
“เอ่อ...”
“ไม่ต้องอายหรอกค่ะมันเป็นเรื่องธรรมชาติอยู่แล้ว ส่วนมากที่ย้ายเมืองก็เพื่อทำงานแบบนั้นทั้งนั้นแหละค่ะ หน้าสวย ๆ หุ่นดี ๆ อย่างคุณก็คงราคาดี ยินดีต้อนรับสู่เมืองของเรานะคะ^^”
“อ่อค่ะ” เหมือนจะแขวะ ๆ แปลก ๆ นะแต่ช่างเถอะ
ฉันเลือกที่จะไม่สนใจเพราะว่าวันนี้เป็นวันที่ต้องเข้าไปสมัครเป็น...ผู้หญิงให้บริการ
จะกลัวอะไรละซอลลามาถึงขนาดนี้แล้วนิ...
บริษัท Love Sex
ตอนนี้อยู่ที่หน้าบริษัทแล้วกำลังรอให้เลขาออกมารับและพาเข้าไปสมัครอยู่ แต่ว่ามันก็เริ่มประหม่าเลยทำให้ฉันดื่มกาแฟไปหลายแก้วแล้ว
“มาแล้ว ๆ ขอโทษนะที่มาสายพอดีเมื่อคืนมีลูกค้าน่ะ”
“ไม่เป็นไรฉันสิต้องขอโทษแทนที่จะให้เธอพักผ่อนเลยต้องมาวุ่นวายพาเด็กอย่างฉันสมัครงาน”
“เรื่องแค่นี้เองสบายมากไปกันเถอะ” หมับ! ความจริงแล้วเลขาอายุมากกว่าฉันประมาณสองสามปีแต่เธอให้ฉันเรียกสบาย ๆ ไม่ต้องเรียกพี่เพราะไม่อยากแก่น่ะฉันเองก็ไม่ได้อะไรหรอกตามใจเธอ
“ไปกัน!!”
แผนกรับสมัครบริการ
ชื่อแผนกมันแปลก ๆ ยังไงไม่รู้แหะ...
“มาทำอะไรแถวนี้เหรอเลขา?” พนักงานคนนึงถามเมื่อเลขาเดินเข้ามา
“พาเด็กมาสมัครงาน”
“อ่อ เดี๋ยวนี้เปลี่ยนเป็นแมวมองแล้วเหรอ?”
“เปล่าหรอกพอดีรู้จักกันและเด็กกำลังลำบากน่ะ”
“เป็นมูลนิธิช่วยเหลือคนยากไร้แล้วหรือไง?” ผู้หญิงคนนั้นพูดท่าทางจะไม่ถูกกับเลขาเท่าไหร่
“เอาใบสมัครมาอย่าพูดมาก”
ปึก!
“เอาไป!” เธอวางกระดาษรับสมัครอย่างไม่พอใจก่อนจะไม่สนใจเราอีกเลย ซึ่งมันก็ดีแล้วละ
“เฮ้อ! ไปนั่งเขียนกันเถอะ” เลขาถอนหายใจและพาฉันออกมา
“มีเรื่องอะไรกันหรือเปล่าทำไมเธอคนนั้นต้องทำท่าทางแบบนั้นด้วย??” ฉันถามเมื่อเรามานั่งโต๊ะแล้ว
“แค่คนขี้อิจฉาน่ะเธอไม่พอใจฉันเท่าไหร่ความจริงเธออยากทำงานขายบริการแต่ไม่ผ่านการคัดเลือกน่ะเลยได้ทำงานนี้แทนตอนนั้นเธอมาสมัครพร้อมฉันและฉันได้รับเลือกก่อน”
“มีการคัดเลือกด้วยเหรอ?”
“ใช่ ที่นี่ไม่ใช่ว่าใครก็ทำได้นะต้องมีการคัดเลือก ทดสอบ และตรวจร่างกายว่าพร้อมทำงานไหมมีโรคอะไรหรือเปล่าและที่ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้รับเลือกเพราะว่ามีเชื้อ HIV นะ” เลขากระซิบบอกฉัน
“จริงเหรอ 0.0” ฉันถามอย่างตกใจแต่ก็ไม่ได้กลัวอะไร
“จริง เพราะงั้นเธอเลยทำงานนี้ไม่ได้น่ะ กรอกใบสมัครเถอะ” ฉันพยักหน้าและเริ่มเขียนประวัติของตัวเองลงไปมีคำถามแปลก ๆ ด้วยนะ เช่น เคยมีเพศสัมพันธ์หรือไม่? มีแฟนมาแล้วกี่คน? มีเซ็กส์มาแล้วกี่ครั้ง?
แต่ฉันก็เข้าใจนะเพราะมันทำงานด้านนี้นี่น่า...เขาก็ต้องถามเอาไว้นั่นแหละ
“เธอไม่ทำมีเซ็กส์จริง ๆ ด้วยแหะ...” เลขาอ่านข้อมูลฉัน
“อืม -/////-”
“ไม่ต้องเขินหรอกน่าฉันเข้าใจและมันก็ดีซะอีกถ้าเธอโดนประมูลราคาดี ๆ ก็จะได้มีเงินไปใช้หนี้เร็ว ๆ ไง^^”
“นั่นสิเนอะ...ฉันอยากให้ประมูลครั้งเดียวแล้วได้เลยอะแต่ว่านะใครจะมาประมูลคนอย่างฉันเป็นร้อย ๆ ล้านเหมือนเธอละ”
“เอาน่า...ไม่เป็นไรหรอกแต่มันต้องมากกว่า 10 ล้านแน่นอน”
ฉันพยักหน้าก่อนจะเขียนต่อจนเสร็จและเอาเอกสารไปยื่นที่เดิม
“เดี๋ยวประมาณ 1-3 วันจะมีคนติดต่อไปเพื่อเขามาตรวจร่างกาย”
“ขอบคุณนะคะ” ฉันบอก
“อยู่กับยัยนั่นมาก ๆ ระวังติดนิสัยขี้แย่งนะ”
“มะม่วง! อย่าพูดมั่ว ๆ นะที่เธอไม่ได้งานเพราะอะไรก็น่าจะรู้ดีฉันไม่อยากพูดหรอกนะเพราะว่ามันไม่ควรแต่เธอก็ควรยอมรับความจริงว่าที่เธอไม่ได้งานไม่ใช่เพราะฉันแย่งเธอแต่เป็นเพราะว่าเธอไม่พร้อม! มันไม่เกี่ยวกับฉัน! สติหน่อย!” เลขาพูกับคนนั้นอย่างโมโหก่อนจะคว้ามือของฉันออกมาจากตรงนั้น
“คนอะไรโทษแต่คนอื่นไม่โทษตัวเองที่มัวจนติดโรคแล้วเขาไม่รับทำงานน่ะ!!”
“ใจเย็น ๆ นะเลขา...”
“ฉันพยายามเย็นกับคนแบบนั้นมาหลายรอบแล้ว!!ถ้ามีอีกนะจะตบให้หน้าคว่ำเลย!!”
“ไปหาอะไรเย็น ๆ กินกันเถอะจะได้ใจเย็นนนนนนน~”
สามวันต่อมา...
ฉันกลับที่บริษัทอีกครั้งเพราะมีคนติดต่อมาว่าฉันผ่านการรับสมัครรอบแรกและวันนี้ก็นัดมาให้ตรวจร่างกายซึ่งก็มีเลขาที่คอยให้คำแนะนำเสมอ แต่วันนี้เลขาไม่ได้ไปด้วยเพราะว่ามีงานน่ะซึ่งฉันเองก็ไม่อยากให้เลขามาเดือดร้อนเพราะฉันหรือเป็นธุระให้ฉันบ่อย ๆ หรอก เกรงใจน่ะ
“เชิญด้านในค่ะ” ขณะที่ฉันกำลังนั่งรออยู่นั้นก็มีผู้หญิงเดินออกมาเธอแต่งตัวเหมือนหมอเลย
“ค่ะ”
“วันนี้เราจะตรวจทั้งภายนอกและภายในนะคะว่าคุณยังไม่ผ่านการมีเพศสัมพันธ์มาจริง ๆ หรือเปล่าและยังมีเยื้อพรมจรรย์อยู่ไหม?” เธออ่านเอกสารไปพูดกับฉันไป
“ตะต้องตรวจขนาดนั้นเลยเหรอคะ?”
“ใช่ค่ะ ยิ่งถ้ายังมีเยื้ออยู่ละก็ราคาก็จะเพิ่มขึ้นนะคะ คนก็อยากจ่ายมากขึ้นด้วยหวังว่าจะยังมีอยู่นะคะ”
“...”
“เปลี่ยนใส่ชุดคลุมและนอนที่เตียงนะคะ”
หมับ! ฉันรับมาอย่างประหม่านิดหน่อยแต่ก็ยอมทำตามทุกอย่างฉันมาขนาดนี้แล้วนะคงจะถอยไม่ได้อีกแล้วละ ฉันเปลี่ยนชุดทำตามที่หมอคนนั้นบอกเธอก็ตรวจอย่างละเอียดตอนแรกก็เขินอายเพราะว่าต้องอ้าขาให้คนอื่นดูแต่พอสักพักก็เริ่มชิน
“เรียบร้อยแล้วค่ะ แต่ยังไม่ต้องใส่ชุดเดิมนะคะเดี๋ยวคุณไปที่ห้องข้าง ๆ ต่อเลยเพราะต้องสัมภาษณ์น่ะค่ะ”
“อ่อค่ะ” เหมือนพวกพนักงานบริษัทเลยแหะแต่เลขาบอกว่าที่นี่ให้สวัสดิการดีมากใคร ๆ เลยอยากมาแต่ก็มีกฎอยู่มากเหมือนกันแต่นั่นก็เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานไม่อย่างนั้นที่นี่คงไม่ใช่อันดับหนึ่งหรอก
ฉันเดินไปห้องที่หมอบอกก่อนจะเปิดประตูเข้ามาเพราะมันมีป้ายเขียนเข้ามาได้เลยไม่ต้องเคาะ ฉันก็งงเหมือนกันไม่เคยเจอแบบนี้ พอเข้ามาก็เป็นห้องมืด ๆ และมีกลิ่นบุหรี่ผู้ชายคนหนึ่งนั่งหันหลังที่เก้าอี้ตัวใหญ่แต่ใจฉันเริ่มสั่นเพราะว่าเริ่มกลัว
“แนะตัวหน่อย” เสียงของเขาที่เอ่อมาทำเอาฉันมือไม้สั่นไปหมด เริ่มกลัวและไม่อยากทำมันเหมือนตอนนี้มันคือของจริงแล้ว
“...”
“เงียบทำไมฉันสั่งให้แนะนำตัวไม่ได้ยินหรือไง?”
“...” ฉันเริ่มสั่นนิดอ้าปากไม่ออกคิดไปคิดมาฉันมาอยู่จุดนี้ตั้งแต่ตอนไหนนะ?
เพราะที่ผ่านมาแค่คิดเลยยังไม่กังวลเท่าไหร่แต่ตอนนี้ฉันกำลังก้าวเข้าไปทำมันแล้วจริง ๆ ขะขายบริการเหรอ?? ฉันต้องทำมันเพื่อใช้หนี้...
“รายงานก็ไม่ได้บอกว่าเป็นใบ้นิทำไมไม่พูด?!” พรึ่บ! เขาหมุนเก้าอี้หันหน้ามา
“คะคุณ 0.0”
“พูดได้นิ...แล้วรออะไรอยู่ไม่ทราบ?” คนที่หันคือเจ้าของที่นี่ที่ฉันเกือบมีเรื่องด้วยเขาคนนั้นเอง...
“เอ่อ...”
“ถ้าจะติดอ่างแบบนี้ก็ออกไปเพราะฉันจะถือว่าเธอไม่พร้อมจะทำงาน เปลี่ยนใจตอนนี้ก็ทันนะถ้าอยากทำแต่เธอคงไม่มีปัญญาไปหาเงินมากมายขนาดนั้นไปใช้หนี้หรอก”
“...!!” ฉันเงยหน้ามองเขา
“คุณรู้ได้ยังไงคะ?”
“ฉันไม่รับคนมั่วซั่วโดยไม่สืบประวัติหรอกนะถ้าอยากมีเงินไปใช้หนี้ก็ขายตัวเองซะ แต่ถ้ารักศักดิศรีมากก็กลับไปมีคนเยอะแยะที่อยากทำงานที่นี่”
“ฉัน...” ฉันกำมือตัวเองแน่น
“ช้า!” พรึ่บ!!เขาลุกขึ้นเหมือนจะเดินออกไป
“ซอลลา!!ฉันชื่อซอลลาค่ะอายุ 20 ปี” ฉันแนะนำตัวเองด้วยความรวดเร็วเพราะกลัวว่าเขาจะหนีไปซะก่อน
“กว่าจะพูดออกมาได้คิดว่าเป็นใบ้...”
“ฉะฉันต้องทำอะไรบ้างเหรอคะ?”
“แก้ผ้า”
“...?!”