ตอนที่ 1

1173 คำ
“หมิว... รอด้วยสิ” เสียงเพื่อนร้องเรียกดังขึ้นด้านหลัง ทำให้ลลิตา  หรือหมิวต้องหยุดเดิน และหมุนตัวกลับไปมอง ก่อนจะระบายยิ้มหวาน เมื่อเห็นว่าเป็นดวงฤดีวิ่งตามมา “ฤดี” ดวงฤดีวิ่งกระหืดกระหอบมาหยุดตรงหน้า ก่อนจะเริ่มต้นตัดพ้อ “ทำไมไม่รอกันบ้างเลย ฉันวิ่งตามเหนื่อยแทบแย่แน่ะ” ลลิตาระบายยิ้มบางๆ “หมิวต้องรีบไปทำงานพิเศษน่ะฤดี” “งานที่ร้านอาหารน่ะเหรอ” “อืม” ดวงฤดีมองเพื่อนอย่างสงสาร เพราะเพื่อนสนิทของตัวเองทำงานตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน็อตเลยทีเดียว ตั้งแต่เรียนด้วยกันมาจนจะจบปีสี่อยู่แล้ว หล่อนยังไม่เคยเห็นวันไหนเลยที่ลลิตาจะไม่ไปทำงานหลังจากเลิกคลาสเรียน “ยายเธอหายป่วยหรือยังหมิว” “ยายหายดีแล้วจ้า ขอบใจนะฤดี” ดวงฤดีถอนใจออกมาเบาๆ “งั้นฉันเดินไปส่งขึ้นรถเมล์นะ” ลลิตาตอบรับด้วยรอยยิ้ม “ขอบใจจ้ะ” สองสาวเดินเคียงกันออกมาจะพ้นหน้ามหาวิทยาลัยรัฐอันดับต้นๆ ของประเทศไทยอยู่แล้ว แต่แล้วลลิตาก็ต้องชะงักกึก เมื่อผู้ชายคนหนึ่งเดินผ่านหน้าไปในระยะกระชั้นชิด สองเท้าคล้ายกับถูกตอกตรึงเอาไว้ไม่ให้เคลื่อนไหว ไม่ต่างจากดวงตาที่ไม่อาจจะละจากเรือนร่างของผู้ชายคนนั้นได้ แม้ว่าตอนนี้เขาจะเดินผ่านไปแล้วก็ตาม “เป็นอะไรไปหมิว” ดวงฤดีมองตามสายตาของเพื่อนรักไปก็เห็นว่าลลิตากำลังมองผู้ชายคนหนึ่งอยู่ “อ๋อ... นั่นมันคุณหัสวีร์นี่” หัสวีร์ อรรถวัฒน์ นักธุรกิจชื่อดังที่ถูกรับเชิญมาเป็นวิทยากรในคาบเรียนเมื่อช่วงบ่ายนั่นเอง “อย่าบอกนะว่าเธอชอบคุณหัสวีร์น่ะยายหมิว” คนถูกถามแก้มแดงปลั่ง ก่อนจะรีบปฏิเสธ และละสายตาจากเรือนของผู้ชายคนนั้น “เปล่า... นะ...” “เปล่า แต่เห็นมองตาไม่กะพริบเลยนะ” “เออ... ฉันก็มองไปทั่วนั่นแหละ” ลลิตาแก้ตัว และรีบตัดบท “เธอส่งฉันแค่นี้ก็ได้นะฤดี เดี๋ยวฉันเดินไปป้ายรถเมล์เอง” ดวงฤดีมองเพื่อนแล้วอมยิ้ม “ดูสิเขินจนแก้มแดงไปหมดแล้ว” “เธอพูดอะไรน่ะ ฉันไม่ได้คิดอะไรกับ... เขาจริงๆ นะ” “เหรอ” “อืม” ลลิตายืนยัน แต่หลบสายตาของเพื่อนสนิท ดวงฤดีจึงพูดต่อ “งั้นเธอก็คงเป็นคนเดียวในคลาสที่ไม่สนใจความหล่อของคุณหัสวีร์ จริงไหม” “เออ...” ลลิตาได้แต่ยิ้มบางๆ และหลบสายตาของดวงฤดีพัลวัล ดวงฤดีส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้น “งั้นเธอไปทำงานเถอะ แล้วพรุ่งนี้เจอกันนะ” “จ้ะ กลับบ้านดีๆ นะฤดี” “เธอก็เหมือนกันแหละ ยายหมิว เลิกงานแล้วรีบกลับบ้านล่ะ” “ขอบใจจ้า” ลลิตาโบกมือให้กับเพื่อนรัก ก่อนจะเดินตรงไปยังป้ายรถเมล์ แม้จะพยายามบอกตัวเองให้หยุดคิดถึงผู้ชายคนนั้น แต่หล่อนทำไม่ได้ ในเมื่อหล่อนตกหลุมรักผู้ชายที่ชื่อหัสวีร์ตั้งแต่ครั้งแรกที่สบตา “เฮ้อออ...” หล่อนถอนใจออกมาแรงๆ ก่อนจะบอกตัวเองว่ามันไม่มีทางเป็นจริงไปได้ เพราะเขาอยู่สูงเกินกว่าที่ผู้หญิงระดับล่างอย่างหล่อนจะสอยลงมาครอบคอรง หล่อนยิ้มให้กับตัวเองเศร้าหมอง ก่อนจะยืนรอรถเมล์ประจำทางเงียบๆ หัสวีร์ตีไฟเลี้ยวรถสปอร์ตคันงามออกจากรั้วมหาวิทยาลัยที่เพื่อนสนิทเป็นอธิการบดีอยู่ จังหวะนั้นสายตาของเขาก็มองเลยไปยังบริเวณป้ายรถเมล์ ร่างของผู้หญิงคนหนึ่งช่างสะดุดตายิ่งนัก เขาเอี้ยวคอมองจนถูกรถอีกเลนส์หนึ่งที่วิ่งสวนมาบีบแตรใส่ เพราะเขาเผลอปล่อยให้รถไปกินเลนส์ถนนของอีกฝั่ง เขาสะดุ้ง ได้สติ และรีบละสายตาจากผู้หญิงคนนั้น ผู้หญิงที่เขาจำได้แม่นเลยว่าหล่อนคือนักศึกษาประจำคลาสที่เขาไปเป็นวิทยากรนั่นเอง ทำไมเขาถึงจำเจ้าหล่อนได้นะ ทั้งๆ ที่ภายในคลาสเรียนก็มีนักศึกษามากมาย แต่หล่อนช่างสะดุดตาของเขาเหลือเกิน ไม่ใช่ว่าหล่อนสวยเหมือนนางเอกหนังหรอกนะ แต่หล่อนมีเสน่ห์บางอย่างที่ดึงดูดให้เขาต้องลอบมองบ่อยครั้ง “บ้าจริง นี่แกเป็นบ้าอะไรไปเนี่ยไอ้หัส” ชายหนุ่มคำรามด่าทอตัวเองดังๆ ในรถ ก่อนจะเร่งความเร็วรถให้มากขึ้น เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือดังขึ้น เขาคว้าขึ้นมากดรับสาย “ครับพี่ยา” จริยา อรรถวัฒน์ คือพี่สะใภ้ของเขา หญิงสาวแต่งงานเข้ามาอยู่ในบ้านของเขาเกือบสองปีแล้ว ช่วงแรกๆ หล่อนกับพี่ชายของเขาก็รักกันดี แต่ระยะหลังมานี่ เหมือนว่าจะมีเรื่องระหองระแหงกันตลอด และเขาก็ต้องรับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้กับจริยาอย่างเลี่ยงไม่ได้ “หัสต้องช่วยพี่นะ” “เกิดอะไรขึ้นหรือครับพี่ยา” เมื่อเห็นว่าต้องคุยกันยาว ชายหนุ่มจึงต้องตีไฟเลี้ยวรถ เพื่อส่งสัญญาณว่ากำลังจะหักพวงมาลัยจอดที่ข้างทาง “ก็พี่ชายตัวดีของหัสน่ะสิ ก่อเรื่องอีกแล้วน่ะ” “อะไรนะครับ?” แล้วจริยาก็ฟูมฟายถึงพฤติกรรมของทศวัฒน์ให้กับเขาฟังด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด จนเขาก็อดที่จะสงสารไม่ได้อีกเช่นเคย “เดี๋ยวผมจะช่วยพูดกับพี่ทศให้นะครับพี่ยา” “พี่ชายของหัสจะต้องหลงนังผู้หญิงคนนั้นมากแน่ๆ เลยทำอย่างนี้กับพี่” “ผมว่าคงยังไม่ถึงขนาดนั้นหรอกมั้งครับ” “หัสอย่าเข้าข้างพี่ชายของตัวเองหน่อยเลย ทำไมพี่จะไม่รู้ว่าเขามีคนอื่น” “พี่ยาครับ... ใจเย็นๆ นะครับ” จริยาคร่ำครวญฟูมฟายมาตามสาย “หัสต้องช่วยพี่นะ ไม่สงสารพี่ก็คิดว่าสงสารน้องกิ่งก็แล้วกัน” กิ่ง หรือเด็กหญิงกานจิรา ซึ่งเป็นหลานสาวแท้ๆ ของเขานั่นเอง “ครับพี่ยา” ชายหนุ่มพ่นลมหายใจออกมาจากปากแรงๆ และเต็มไปด้วยความหนักใจไม่น้อย ความจริงเขาไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับเรื่องครอบครัวของพี่ชายสักเท่าไหร่ แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นเลย “ขอบใจหัสมากนะ ขอบใจจริงๆ เลย” “ผมยินดีครับ” “พี่หวังว่าคุณทศจะฟังหัส และยอมกลับมาเป็นสามีที่ดีเหมือนเดิม” ความหวังในน้ำเสียงของจริยาทำให้หัสวีย์อดที่จะสงสารไม่ได้ “พี่ทศแค่หลงผิดไปน่ะครับ ยังไงพี่ทศก็รักพี่ยากับน้องกิ่งมากที่สุด” “พี่ก็หวังว่าจะเป็นแบบนั้นแหละ” จริยาวางสายไปแล้ว แต่เขาก็ยังคงเต็มไปด้วยความวิตกกังวล “ไปหาเหล้ากินดีกว่า” รถสปอร์ตหรูคันงามแล่นกลับขึ้นมาบนถนนอีกครั้ง และมุ่งหน้าไปยังแหล่งที่เต็มไปด้วยสถานบันเทิงด้วยความเร็ว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม