5

1238 คำ
อันหว่านถิงมาถึงบ้านพักของผู้บัญชาการเมืองฝูเจียง ซึ่งแต่เติมจากเดิมให้โอ่โถง แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจ นอกจากหน่วยรักษาความปลอดภัยด้านหน้าสองคน ด้านในไม่มีแม่บ้าน สาวใช้ หรือใครอีกเลย พอหล่อนทำสีหน้าประหลาด เขาก็เอ่ยว่า “ชอบความสงบ และไม่อยากให้ใครเป็นตากุ้งยิง เวลาเราจู๋จี๋กันไม่ใช่เหรอ รวมถึง คุณไม่อยากให้ผู้หญิงคนไหนเข้าใกล้ผัวสุดหล่อด้วย” ประชด เฉินซือหยางเป็นคนประเภทนี้ หล่อนต้องคิดบัญชีกับเขาสักวัน หล่อนเดินตามก้นคนตัวสูง ภาพในหัวของบ้านหลังนี้ไม่แจ่มชัดนัก กระทั่งเห็นรูปวางบนหลังตู้ และรูปครอบครัวติดฝาผนัง อันหว่านถิงพอจะโล่งใจว่า หล่อนเป็นได้แค่นางร้ายง่อยๆ ไม่ใช่สตรีชั่วช้า จนแก้ไขนิสัยเสียไม่ได้ แล้วที่หล่อนมีนิสัยไม่ได้เรื่อง หรือทำตัวน่าเบื่อส่วนหนึ่งคือการดูแลอย่างเอาใจจนเกิดเหตุของปู่ ซึ่งเป็นอดีตนายพล นอกจากนั้นยังแต่งกับผู้ชายที่แสนจะกวนประสาท ทั้งบ้าอำนาจและคลั่งไคล้ของสวยงามอย่างเฉินซือหยาง หากเข้าใจไม่ผิด คนๆ นี้ คิดว่าหล่อนคือผู้หญิงที่มีไว้สำหรับประดับบารมี และให้ความสนุกบนเตียงเท่านั้น เมื่อเข้าไปถึงห้องพักผ่อนด้านใน ที่มีห้องน้ำส่วนตัว ก็เห็นว่าพื้นที่ดังกล่าวกว้าง ทั้งยังมีความสะดวกสบาย ห้องในยุคสมัยนี้ไม่ได้ล้าหลังเกินไป บ้านพักตกแต่งและออกแบบสไตล์ชาวยุโรป เรียกว่าหรูหราระดับหนึ่ง เหมาะกับการอยู่อาศัยจริงๆ “อาบน้ำ แล้วผมจะทำแผลให้” หล่อนส่ายหน้า “แผลฉันเล็กน้อย ไกลหัวใจเยอะ ฉันดูแลตัวเองได้ คุณนั่นแหละไปหาหมอซะ ถึงฉันไม่ได้เป็นบ้า แต่แผลมันน่ากลัวเกินไป ยังไงซะ ฉันไม่อยากมีสามีเป็นไอ้ด้วน มีมือข้างเดียว” เขาได้ยินอย่างนั้นก็หัวเราะหึๆ “ถ้าอย่างนั้นรีบอาบน้ำ และถ้าไม่ให้ทำแผล ก็ต้องให้ผมสำรวจว่าถูกใครข่มเหงมาบ้าง ถ้าของมันเสียราคา ผมบอกตามตรง ไม่ค่อยอย่างใช้ร่วมกับใคร” เขายียวนไม่เลิก มันใช่นิสัยของสุภาพบุรุษหรือ ถึงร่างกายนี้จะบ่งบอกให้รู้แล้วว่า เฉินซือหยางคือสามีที่ถูกต้องตามกฎหมายของหล่อน แต่อย่างไรเสียตอนนี้เขาคือคนแปลกหน้า “ถ้าอย่างทำอย่างนั้นจริงๆ คุณก็จะได้แต่ร่างกายของฉัน ไปสนองความต้องการของตัวเอง” “เสี่ยวหว่านถิง!” เขาใช้น้ำเสียง และการเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันแบบเดิมเป๊ะ กลัวหรือ เปล่าเลย และรำคาญมากกว่า “ฉันอยากเปลี่ยนเสื้อผ้า และกินอะไรสักหน่อย” หล่อนบอกจบจึงคิดถึงสิ่งหนึ่งได้ ด้วยรูปถ่ายครอบครัว เฉินซือหยางอุ้มเด็กชายวัยน่ารักคนหนึ่ง ดวงตากลมโต แก้มแดง ใส่หมวกทหารเล็กๆ ด้วย “ลูกล่ะคะ... เออ รุ่ยเผิง... ฉันอยากพบเขา ตอนนี้ลูกอยู่ที่ไหน” หล่อนบอกชายหนุ่ม เป็นเวลานั้น ที่สัมผัสหน้าท้องตนเอง ความรู้สึกที่พุ่งตรงเข้ามา ผนวกกับช่วงเวลาที่อยู่ในโลกเก่า ก่อนถูกคู่หมั้นผลักตกจากหน้าผา ภาพของโธมัสหนุ่มเชื้อสายไต้หวันผสมอเมริกันลอยเข้ามาในหัวยามนั้นหล่อนจำได้ว่า สืบรู้เรื่องของเขากับแม่เลี้ยง และทั้งคู่กำลังมีลูกด้วยกัน และนับว่าโชคดีที่ตัวหล่อน ไม่ได้ปล่อยตัวปล่อยใจให้อีกฝ่าย จนมีสายเลือดของเขา “เผิงน้อย... ฉันเป็นห่วงเขา” สัญชาติญาณความเป็นแม่ของหล่อนทำให้คิดถึงเด็กชายมาก ฝ่ายเฉินซือหยางหยุดนิ่งประเดี๋ยว เรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ มันเหนือความคาดหมาย ตั้งแต่แรกพบหล่อนโดยบังเอิญ ทั้งที่ตามหาแทบไม่ได้หลับนอนหลายคืน จนเกือบเชื่อว่าอันหว่านถิงแกล้งปั่นหัวเขาด้วยการวางแผนลักพาตัวเองอย่างเช่นที่แล้วมา “ผมจะไปรับลูกเดี๋ยวนี้ คุณ... เอ่อ อาถิงอาบน้ำ และทำแผลได้ใช่ไหม กล่องยาอยู่ที่โต๊ะข้างตู้หนังสือ พอผมกลับมาเราออกไปกินข้าวข้างนอกด้วยกัน” ดูเหมือนเขากำลังปรับตัวเองใหม่ เฉินซือหยางก็ประหม่ามิน้อย ลึกๆ เขาคิดว่า ภรรยาที่แต่งงานด้วยดูคล้ายมีคนอื่นมาควบคุมร่างกายหล่อนเอาไว้ และนั่นจึงทำให้เขาเรียกหล่อนอย่างห่างเหินในบางครั้ง ตัวเขาก็นึกขำที่แสดงพฤติกรรมพิลึกเหลือเกิน กระทั่งอันหว่านถิงถามถึงลูก... ท่าทางหล่อน แววตา ทั้งการใช้น้ำเสียงบอกให้รู้ว่า ผู้หญิงคนนี้ ก็คือภรรยาของเขา และการถูกลักพาตัวไป พร้อมได้รับบาดเจ็บนั้น คงทำให้เสียขวัญจึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากหล่อนจะมีพฤติกรรมที่ผิดเพี้ยนไปจากเดิมบ้าง “อาถิง...เออ กลับบ้านมาหนนี้ อย่าทิ้งผมกับลูกไปไหนอีกนะ” อันหว่านถิงใจอ่อนยวบ ผู้ชายคนนี้มีเปลี่ยนอารมณ์ได้รวดเร็วนัก เขาคงเป็นผู้ชายเจ้าเล่ห์ และมากด้วยมารยาแน่ๆ เพียงแค่ใช้น้ำเสียงนุ่มนวล กับส่งสายตาที่ไร้แววดุดันมาให้ หญิงสาวก็พร้อมให้อภัยทุกอย่างที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ “ลูกค่ะ ฉันใจคอไม่ดี เท่าไหร่ รีบไปรับแกไวๆ เถิด” หล่อนบอกและเร่งเขา แต่แทนที่คนตัวโตจะก้าวไปจากห้องส่วนตัว เขากลับสืบเท้ามาหาอันหว่านถิง “อะไรคะ” ชายหนุ่มยิ้มเขินอาย ท่าทางขึงขัง และการแสดงข่มขู่ก่อนหน้านี้หายไปหมด “ขอพลังใจก่อนไปรับเผิงน้อยสักหน่อยได้ไหม” คำพูดก็ฟังดูแสนซื่อ แต่แววตาคมๆ คู่นั้น พราวระยับเหลือเกิน “คุณเพ้ออะไรอยู่คะ ท่านผู้บัญชาการ!” ชายหนุ่มระบายสีหน้าด้วยรอยยิ้มบางๆ ดวงตายังส่งความกรุ้มกริ่มออกมาไม่หยุด “ผมขอพลังอยู่ไง แล้วพอกลับมาจากไปกินข้าวกันสามคนพ่อ แม่ ลูก คืนนี้ก็ช่วยกันทำการบ้านหนักๆ เพื่อชวนน้องคนใหม่มาเกิด ให้เป็นเพื่อนกับเผิงน้อย” อันหว่านถิงอึ้งจัด ดวงตากลมโตมองเขาอย่างฉงน ระคนไม่เชื่อหู “ฉันบอกให้รีบไปตามลูกกลับบ้าน นี่คุณสมองกลับหรือไง ยังชักช้าอยู่ได้” “อาถิง หอมแก้มผัวก่อน ให้ดีจูบปากก็ได้ เรื่องแค่นี้ มันไม่ยากเย็นอะไรเลย” หล่อนแยกเขี้ยว และส่งเสียงขู่เขา เรื่องนี้มันยากมาก อย่างไร หล่อนกับเขาเหมือนคนแปลกหน้ากัน “ตบสักสองที หรือกัดหูให้ขาดน่าจะดีกว่าค่ะ เรื่องนี้ฉันมีแรงทำได้ดีมาก” ปากก็พูดไปอย่างนั้น แต่พอเขาสืบเท้ามาจนประชิดตัว อันหว่านถิงก็ไม่รู้จะทำใจดีสู้เสืออย่างไรแล้ว “เร็วสิ ทำให้เสร็จเสีย ไม่อยากเจอหน้าลูกเร็วๆ หรือ ผมจะรีบไปรับเผิงน้อยให้อาถิงอย่างไรล่ะ” อันหว่านถิงหน้าแดงระเรื่อ ร่างกายหล่อนก็เป็นใจเหลือเกิน เขาหล่อ ทั้งยังเป็นสามีเจ้าของร่าง ยามนี้ไฟกับน้ำมันอยู่ใกล้ชิดกัน มันย่อมมีความร้อนแรงเป็นธรรมดา ถึงอย่างนั้นหล่อนย่อมต้องหาทางเอาตัวรอดก่อน “หลับตาก่อนค่ะ” ฝ่ายเขาก็ทำตามแต่โดยดี พอหลับตาหลง อันหว่านถิงก็รีบวิ่งหนี แล้วหลบเข้าไปอยู่ในห้องน้ำ ไม่ยอมทำตามสิ่งที่เขาร้องขอ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม