“เซลฟี่กันค่ะ” เธอชวน
ทั้งสองนอนเอาหัวชิดกันแล้วบันทึกภาพหลากหลายสีหน้า
ติ๊ง
ติ๊ง
ติ๊ง
ติ๊ง
ติ๊ง
มีข้อความไลน์ถูกส่งเข้ามาไม่หยุดในขณะที่เธอกำลังสนุกกับการถ่ายภาพ คนส่งคือ ‘พี่ภัทร’ สีหน้าของหญิงสาวเปลี่ยนไปโดยพลัน ธีร์รอดูว่าเธอจะตัดสินใจอย่างไร หญิงสาวทำให้เขาคาดไม่ถึงหลายครั้งแล้วในการจัดการกับปัญหา และในที่สุดเขาก็ได้เห็น…
เธอคว่ำโทรศัพท์ลงบนหน้าอกเขา แล้วพลิกตัวตะแคงไปอีกด้าน
ธีร์หยิบโทรศัพท์ของเธอขึ้นมา กดเข้าโปรแกรมไลน์ พบว่าภัทรส่งข้อความมาขอโทษ ขอคืนดี ขอเริ่มต้นใหม่ และมีไลน์ที่เพิ่งถูกส่งเข้ามาโดยแจงและน้ำ เขาเปิดอ่านของทุกคนเพื่อให้รู้ว่ามันถูกอ่านแล้ว จากนั้นก็ลบประวัติการแชตและบล็อก...เพื่อให้ทุกคนได้รู้อีกเช่นกันว่าเธอไม่ต้องการจะติดต่อสื่อสารกับพวกเขาอีกต่อไป นอกจากนี้เขายังเข้าไปบล็อกในเฟซบุ๊ก ลบภาพทุกภาพที่มีบุคคลเหล่านี้ เขาเข้าไปในไอจีที่นิดาใช้มากกว่าเฟซบุ๊ก หาไอจีของชายหญิงที่เหยียบย่ำน้ำใจเธอ เหตุการณ์ที่เขายายเที่ยงคงเป็นคลิปที่แจงลงไว้ เขาดูมันจนจบแล้วถอนหายใจ จากนั้นก็จัดการกับไอจีเช่นเดียวกับที่ทำในเฟซบุ๊ก เขาไล่ตัดช่องทางการสื่อสารอื่นๆ และสุดท้ายคือใช้ไอจีของเธอกดฟอลโลไอจีของเขาซึ่งติดตามเธอเพียงแค่คนเดียว เมื่อเสร็จแล้วเขาก็วางโทรศัพท์ลงข้างกายตัวเองและหันไปหาหญิงสาว
นิดานอนตะแคงในท่าเดิม แต่ตัวเธอคู้ลง มันดูแปลกๆ ในความคิดเขา มือหนึ่งของเธอกุมอยู่ที่หน้าท้อง อีกมือปิดริมฝีปากเหมือนกำลังอาเจียน อาการแบบนี้จะกำเริบขึ้นมาทุกครั้งเวลาที่เธอสะสมความเครียดไว้มากเกินไป ซึ่งธีร์รู้ แล้วร่างกายไม่แข็งแรงแบบนี้ถ้านอนตากน้ำค้างมากอาจจะเป็นไข้เพิ่มขึ้นมาได้ เขาจึงรีบช้อนตัวหญิงสาวขึ้นมาแล้วอุ้มเธอกลับเข้าไปในบ้าน
พอเขาวางเธอลงบนเตียง นิดาก็รีบวิ่งเข้าห้องน้ำ เสียงอาเจียนดังขึ้นทันที ธีร์ที่ตามเข้ามาติดๆ ลูบหลังให้เธอด้วยความเป็นห่วง ราวๆ สิบนาทีเขาจึงได้ประคองเธอมานอนบนเตียงอีกครั้ง
“ยาอยู่ในกระเป๋าเสื้อผ้า” เสียงของเธอดังขึ้นอย่างคนหมดแรง
ธีร์เดินไปยังกระเป๋าใบใหญ่ วันนี้เธอกลับไปเก็บเสื้อผ้าเพื่อมาอยู่กับเขา ยาต่างๆ รวมอยู่ในถุงเดียวกัน รวมทั้งยาคุมกำเนิดที่เขาเป็นคนซื้อให้ซึ่งถูกแกะกินไปเกินครึ่งแผง เขาคิดว่าแผงนี้เป็นแผงที่สอง เพราะเธอมาอยู่ที่รีสอร์ตได้เดือนกว่าแล้ว เธอเอ่ยชื่อยาออกมา เมื่อได้ยาดังกล่าวเขาก็นำมาป้อนให้เธอ
อีกไม่กี่วันนิดาก็จะกลับกรุงเทพฯ เขาไม่สามารถปล่อยเธอกลับไปได้ถ้าหากสภาพจิตใจของเธอยังไม่เข้มแข็งพอ ที่สำคัญไอ้หมอนั่นก็ยังไม่เดินทางไปอังกฤษ เขาเคยอ่านในไลน์ของเธอ กว่ามันจะไปก็อีกสองอาทิตย์กว่าๆ เขาไม่ไว้ใจมัน ส่วนข้ออ้างที่ว่าอีกร่วมสามอาทิตย์มหาวิทยาลัยจึงจะเปิดก็คงไม่สามารถรั้งเธอไว้ เพราะเธอไม่เคยเชื่อฟังเขา และเขาไม่เคยควบคุมเธอได้ แต่มีอยู่คนหนึ่งที่พอจะดึงเธอไว้ได้
ธีร์เดินกลับไปยังที่นอนบนลานไม้ริมลำธารเพื่อหยิบโทรศัพท์ทั้งของเขาและเธอที่ถูกทิ้งไว้ตรงนั้น เขากดโทรศัพท์ต่อสาย เมื่อเล่าเรื่องทุกอย่างให้ปลายสายฟังเสร็จก็กลับไปหาหญิงสาว
“ไหวไหม ถ้าไม่ไหวพี่จะพาไปโรงพยาบาล”
เขาจับต้นแขนของนิดาที่นอนหลับตาอยู่ในท่าตะแคงข้างและถามด้วยความเป็นห่วง เธอไม่เอ่ยตอบ แต่ทำเพียงส่ายหน้าและดึงมือข้างนั้นของเขาไปกอดแนบแก้ม เขาจึงต้องขยับตัวนอนตะแคงซ้อนหลังเธอและกอดไว้ในท่านั้น
*********
ธีร์ออกไปที่ไร่องุ่นแต่เช้า กว่าจะกลับมาก็เป็นเวลาสิบโมง ก่อนออกมาจากบ้านเขาทำไข่ตุ๋นที่เธอชอบไว้ให้ ส่วนเครื่องดื่มช่วงนี้เขาจะให้เธอดื่มแต่น้ำเปล่าไปก่อน พร้อมกันนี้ก็วางยาไว้ข้างๆ กัน
เขาเดินเข้ามาในสโมสรเพื่อสั่งอาหารกลางวันไปให้หญิงสาว
“สิริครับ ขอโจ๊กปลาสองถุงนะครับ ช่วยดูอย่าให้มีก้างนะครับ” ช่วงนี้เธอต้องกินอาหารที่ย่อยง่ายไปก่อน
“ได้ค่ะ ไม่ใส่ต้นหอมหนึ่งถุงใช่ไหมคะ” สิริคิดว่าหนึ่งในนั้นต้องเป็นของนิดา
“ครับ”
“รอสักครู่นะคะ” สิริบอกเขาแล้วเดินเข้าไปสั่งแม่ครัว จากนั้นก็เดินออกมาคุยกับเขาต่อระหว่างรอโจ๊ก “น้องนิไปไหนล่ะคะ วันนี้ไม่เห็นเลย”
“ไม่สบายครับ โรคกระเพาะกำเริบ” ถึงแม้ปกติแล้วเขามักจะเล่าเรื่องโน้นเรื่องนี้ให้สิริฟัง แต่บางเรื่องเขาก็ขอสงวนไว้ดีกว่า
“โอ้ เป็นบ่อยหรือเปล่าคะ”
“ไม่หรอกครับ นานๆ ที เดี๋ยวอีกวันสองวันก็น่าจะกลับมาแสบได้เหมือนเดิมครับ”
“เหนื่อยไหมคะคุณธีร์ อย่าว่างั้นงี้เลยนะคะ ถ้าเป็นลูกเป็นหลานจะจับฟาดให้ก้นลายเลย เด็กอะไรก็ไม่รู้ ไม่ใช่ดื้อธรรมดานะคะเนี่ย”
“เฮ้อ” ธีร์ถอนหายใจ “ไม่เหนื่อยหรอกครับ แค่ต้องรับมือให้ได้ ต้องตามให้ทันว่าเขาคิดอะไร จะทำอะไร เขาไม่ชอบเล่า มีอะไรก็เก็บ ในหัวเขาไม่รู้มีอะไรอยู่บ้าง นี่แหละที่ผมเป็นห่วง” ธีร์ยิ้ม
“ยังไงก็เอาใจช่วยนะคะ เอ้อ แฟนของน้องนิเช็กเอาต์ไปตั้งแต่เมื่อวานนะคะ ไปกันหมดเลย”
“ครับ” ธีร์ตอบสั้นๆ และชวนคุยเรื่องอื่น
ทั้งสองคุยกันอยู่ครู่หนึ่งแม่ครัวก็ถือถุงโจ๊กออกมายื่นให้ธีร์